นายกรัฐมนตรีระบุไม่ห่วงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ จะออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 28 มีนาคม ขณะที่รองโฆษกรัฐบาลยืนยันรัฐบาลสร้างความชอบธรรมให้กับทุกคนและไม่เข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ว่า ไม่เป็นห่วงเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์กล่าวหารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้ง มีหน้าที่หลักในการอำนวยความเป็นธรรมและสร้างกระบวนการยุติธรรมที่ชอบธรรมให้กับทุกคน ซึ่งการสร้างความชอบธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ก็ย่อมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะไม่ได้รับการปฏิบัติใด ๆ เป็นพิเศษเกินกว่าที่ประชาชนคนไทยพึงจะได้รับ ดังนั้น หากกลุ่มพันธมิตรฯ มีหลักฐานการใช้เงินทองเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนใด ขอให้นำหลักฐานออกมา หากปรากฏชัดว่ามีหน่วยงานใดในรัฐบาลแสดงออกดังกล่าว ก็เชื่อแน่ว่าผู้ใหญ่ของรัฐบาลตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมาคงจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับเรื่องนี้
นอกจากนี้ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังทำให้บ้านเมืองเป็นรัฐตำรวจ โดยยืนยันว่าเจตนาของรัฐบาลชุดนี้มีอย่างเดียวคือจะทำให้บ้านเมืองนี้เป็นประชารัฐคือเป็นรัฐของประชาชนภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงขอตั้งคำถามกลับว่าในวันที่บ้านเมืองเป็นเผด็จการ เป็นรัฐทหารนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ทำไมไม่ออกมาแสดงจุดยืนใด ๆ หรือว่าการปกครองโดยรัฐประหารเป็นสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการ ทั้งนี้ รัฐบาลมีจุดยืนที่จะให้ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงานเช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ขอให้ประชาชนยึดถือสติปัญญาวิจารณญาณของตัวเองเป็นที่ตั้ง และขอให้คำนึงถึงสภาพความขัดแย้งแตกแยกที่เคยเกิดขึ้นมา ส่วนที่จะจัดกิจกรรมยามเฝ้าแผ่นดินในวันที่ 28 มีนาคม ก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย สงบสันติ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุมีตำรวจนอกเครื่องแบบคอยติดตามแกนนำไปตามที่ต่าง ๆ และดักฟังโทรศัพท์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้แสดงหลักฐานออกมาว่ามีการดักฟังโทรศัพท์หรือมีตำรวจหน่วยไหนไปติดตาม ซึ่งไม่แน่ใจว่าตำรวจที่ติดตามนายสนธิฯ เป็นการติดตามเพื่อคุกคามหรืออารักขา เพราะทราบว่ามีตำรวจบางหน่วย บางคนให้การดูแลนายสนธิฯ เป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน ก็ไม่อยากให้นายสนธิฯ กล่าวหาหน่วยงานใดโดยไม่มีหลักฐาน ไม่เช่นนั้นก็จะมีคดีความเพิ่มมากขึ้นอีก สำหรับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวใด ๆ เพราะต้องเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานไปก่อน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเตรียมออกมาเคลื่อนไหวในวันที่ 28 มีนาคมนี้ ว่า ไม่เป็นห่วงเรื่องดังกล่าว
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์กล่าวหารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้ง มีหน้าที่หลักในการอำนวยความเป็นธรรมและสร้างกระบวนการยุติธรรมที่ชอบธรรมให้กับทุกคน ซึ่งการสร้างความชอบธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ก็ย่อมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณฯ จะไม่ได้รับการปฏิบัติใด ๆ เป็นพิเศษเกินกว่าที่ประชาชนคนไทยพึงจะได้รับ ดังนั้น หากกลุ่มพันธมิตรฯ มีหลักฐานการใช้เงินทองเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในขั้นตอนใด ขอให้นำหลักฐานออกมา หากปรากฏชัดว่ามีหน่วยงานใดในรัฐบาลแสดงออกดังกล่าว ก็เชื่อแน่ว่าผู้ใหญ่ของรัฐบาลตั้งแต่นายกรัฐมนตรีลงมาคงจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับเรื่องนี้
นอกจากนี้ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังทำให้บ้านเมืองเป็นรัฐตำรวจ โดยยืนยันว่าเจตนาของรัฐบาลชุดนี้มีอย่างเดียวคือจะทำให้บ้านเมืองนี้เป็นประชารัฐคือเป็นรัฐของประชาชนภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงขอตั้งคำถามกลับว่าในวันที่บ้านเมืองเป็นเผด็จการ เป็นรัฐทหารนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ทำไมไม่ออกมาแสดงจุดยืนใด ๆ หรือว่าการปกครองโดยรัฐประหารเป็นสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการ ทั้งนี้ รัฐบาลมีจุดยืนที่จะให้ประชาชนร่วมตรวจสอบการทำงานเช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ขอให้ประชาชนยึดถือสติปัญญาวิจารณญาณของตัวเองเป็นที่ตั้ง และขอให้คำนึงถึงสภาพความขัดแย้งแตกแยกที่เคยเกิดขึ้นมา ส่วนที่จะจัดกิจกรรมยามเฝ้าแผ่นดินในวันที่ 28 มีนาคม ก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย สงบสันติ
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ระบุมีตำรวจนอกเครื่องแบบคอยติดตามแกนนำไปตามที่ต่าง ๆ และดักฟังโทรศัพท์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้แสดงหลักฐานออกมาว่ามีการดักฟังโทรศัพท์หรือมีตำรวจหน่วยไหนไปติดตาม ซึ่งไม่แน่ใจว่าตำรวจที่ติดตามนายสนธิฯ เป็นการติดตามเพื่อคุกคามหรืออารักขา เพราะทราบว่ามีตำรวจบางหน่วย บางคนให้การดูแลนายสนธิฯ เป็นกรณีพิเศษเหมือนกัน ก็ไม่อยากให้นายสนธิฯ กล่าวหาหน่วยงานใดโดยไม่มีหลักฐาน ไม่เช่นนั้นก็จะมีคดีความเพิ่มมากขึ้นอีก สำหรับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวใด ๆ เพราะต้องเปิดโอกาสให้รัฐบาลทำงานไปก่อน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--