โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผย ป.ป.ช. เคยมีมติเกี่ยวกับการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ 2542 ซึ่งถือเสมือนคำพิพากษาของศาลฎีกา
เมื่อเวลา 13.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐมนตรี 3 คนที่เป็นอดีตรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และถูกคณะกรรมการตรวจสอบกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คดีหวยบนดิน ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า ในฐานะที่เคยเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบว่าเคยมีมติ ป.ป.ช.ครั้งที่ 24/2545 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2545 ในการพิจารณาข้อร้องเรียนกรณีที่คล้ายคลึงกัน คือ มีการร้อง ส.ส.คนหนึ่งที่อดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และเมื่อเรื่องส่งมายัง ป.ป.ช. ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. และมาลงสมัครเป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ขณะเดียวกันก็มีการร้องเรียน ผู้อำนวยการ สำนักผู้ว่าการ กทพ. ขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ป.ป.ช.ชุดที่มีนายโอภาส อรุณินท์ เป็นประธาน ได้มีมติในเรื่องดังกล่าวว่า การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 จะต้องกล่าวหาในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกิน 2 ปี และการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องไม่ขาดตอนและต่อเนื่องกัน หากขาดตอนแล้วจะถือเอาความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในครั้งหลังมาเป็นองค์ประกอบความผิดในขณะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในครั้งก่อนไม่ได้ ทั้งนี้ มติของ ป.ป.ช. ถือเสมือนคำพิพากษาของศาลฎีกา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนถือว่าตำแหน่งรัฐมนตรีในขณะนั้นหมดไปแล้ว เพราะฉะนั้น การกล่าวหาในคดีเก่าจะไม่ทำให้ต้องหยุดทำงานในตำแหน่งใหม่ ขอยืนยันได้ว่ารัฐมนตรีทั้ง 3 คน ต้องทำงานต่อไป และสมมติว่าศาลประทับรับฟ้องก็ยังไม่ต้องหยุดทำงานจนกว่าศาลจะตัดสินว่าผิดหรือถูก จึงอยากให้นักกฎหมายที่ออกมาวิจารณ์อ่านกฎหมายให้ครบทุกมาตรา เรื่องนี้มี พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งต้องดูในมาตรา 43 (2) มาตรา 55 มาตรา 66 และมาตรา 84 รวมทั้งประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 ข้อ 5 เกี่ยวข้องด้วย ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสับสนได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 13.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐมนตรี 3 คนที่เป็นอดีตรัฐมนตรีสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และถูกคณะกรรมการตรวจสอบกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) คดีหวยบนดิน ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่า ในฐานะที่เคยเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบว่าเคยมีมติ ป.ป.ช.ครั้งที่ 24/2545 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2545 ในการพิจารณาข้อร้องเรียนกรณีที่คล้ายคลึงกัน คือ มีการร้อง ส.ส.คนหนึ่งที่อดีตเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และเมื่อเรื่องส่งมายัง ป.ป.ช. ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. และมาลงสมัครเป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ขณะเดียวกันก็มีการร้องเรียน ผู้อำนวยการ สำนักผู้ว่าการ กทพ. ขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ป.ป.ช.ชุดที่มีนายโอภาส อรุณินท์ เป็นประธาน ได้มีมติในเรื่องดังกล่าวว่า การกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 จะต้องกล่าวหาในขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพ้นจากการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่เกิน 2 ปี และการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องไม่ขาดตอนและต่อเนื่องกัน หากขาดตอนแล้วจะถือเอาความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในครั้งหลังมาเป็นองค์ประกอบความผิดในขณะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในครั้งก่อนไม่ได้ ทั้งนี้ มติของ ป.ป.ช. ถือเสมือนคำพิพากษาของศาลฎีกา
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีของรัฐมนตรีทั้ง 3 คนถือว่าตำแหน่งรัฐมนตรีในขณะนั้นหมดไปแล้ว เพราะฉะนั้น การกล่าวหาในคดีเก่าจะไม่ทำให้ต้องหยุดทำงานในตำแหน่งใหม่ ขอยืนยันได้ว่ารัฐมนตรีทั้ง 3 คน ต้องทำงานต่อไป และสมมติว่าศาลประทับรับฟ้องก็ยังไม่ต้องหยุดทำงานจนกว่าศาลจะตัดสินว่าผิดหรือถูก จึงอยากให้นักกฎหมายที่ออกมาวิจารณ์อ่านกฎหมายให้ครบทุกมาตรา เรื่องนี้มี พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งต้องดูในมาตรา 43 (2) มาตรา 55 มาตรา 66 และมาตรา 84 รวมทั้งประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 30 ข้อ 5 เกี่ยวข้องด้วย ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสับสนได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--