นายกรัฐมนตรีเผยผลการเยือนสหภาพพม่า ไทยพร้อมร่วมมือสร้างเส้นทางเชื่อมโยงถนนช่วงกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-เมืองทวาย เพื่อสะดวกในการขนส่งสินค้า เพราะจะเชื่อมกับท่าเรือน้ำลึกของไทยที่แหลมฉบัง
รายการ “สนทนาประสาสมัคร"
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
------------------------------------------
เดินทางเยือนสหภาพพม่า
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ สนทนาประสาสมัคร กลับมาพบเหมือนอย่างเคยนะครับ 08.30 น. เช้าวันอาทิตย์ อาทิตย์ที่แล้วจะไม่เอารายละเอียดอื่น ๆ ไป เพราะอยากจะใช้เวลาเล่าเรื่องการเดินทางไปประเทศพม่า เรื่องของพม่านั้น กระทรวงการต่างประเทศของเรามีความระมัดระวังอยู่ แต่ก็มีความกล้าหาญขึ้นกว่าเดิมเยอะ ผมเองเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเขากำลังจับจ้องพม่ากันอยู่ เขาบีบเขาคั้นอะไรกันอยู่ ผมบังเอิญศึกษาเรื่องพม่ามาเยอะ ศึกษาเรื่องพม่า 60 ปี เพราะฉะนั้น ก็ลองซ้อม ๆ คุยกับท่านทูตสหรัฐอเมริกา คองเกรสแมนจากสหรัฐอเมริกา มา 6 คน ก็คุย ท่านผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก มาก็คุย มาถึงChristopher Hill ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาก็คุย คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) มาก็คุย พวกนี้สนใจเรื่องพม่าทั้งนั้นครับ ผมก็บอกว่าผมจะไปพอดี ขนาดว่าท่านนายกรัฐมนตรีพม่า พลเอกเต็ง เส่ง จะมาเยี่ยมผม ผมบอกอย่า ๆ ให้ผมไปหาก่อน ผมก็บอกพวกนั้นไป เพราะฉะนั้น ผมกลับมาเขาก็ต้องอยากรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
หารือกับผู้นำพม่า
ผมก็อยากจะเล่าให้ฟังแต่เพียงว่า ผมจะไม่รุกล้ำก้ำเกินสถานะของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเขาดูแลชื่อเสียงของประเทศไทยอยู่ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีเข้ามาคนเดียว แต่ผมไปทำสิ่งซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยคนอื่นไม่เคยทำ ผมได้สนทนากับผู้คน ตั้งแต่ระดับเบอร์ 1 เบอร์ 2 เบอร์ 3 เขาให้สนทนา 1 ชั่วโมง ผมสนทนาเกือบ 2 ชั่วโมง คุยกันต่อหน้ามีพยานฟังเสร็จเรียบร้อยเลย แต่ผมก็บอกเขาไว้ว่า ผมจะเอาไปคุยกับคนซึ่งเขาไม่เข้าใจพม่า ฝรั่งชอบสอน มีสุภาษิตบอกว่า ให้ดูเหรียญทั้งสองข้าง ไปดู Another side of the coin แต่พวกฝรั่งมังค่าทั้งหลายก็ดูเหรียญอยู่ข้างเดียว ผมไปครั้งนี้ผมก็ไปดูเหรียญอีกข้างหนึ่ง เพราะฉะนั้น ผมก็ควรจะมีสิทธิ์ที่จะคุยว่าเหรียญอีกข้างหน้าตาเป็นอย่างไร สุภาษิตไทยบอกว่าเส้นผมบังภูเขา อยู่ตรงนี้บังแล้วมองไม่เห็น แต่เรื่องพม่า ภูเขาบังเส้นผม คือถ้าไม่ปืนภูเขาข้ามฟากไปก็หาเส้นผมไม่เจอหรอกครับ ความจริงผมหาเจอทั้งแต่แรก ผมคุยกับทางผู้คนก่อน แต่บอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อผม ผมไปคุยกับเจ้าของเรื่อง เขายืนยันว่าเป็นความจริง เข้าใจจริง ๆ ถ้าหากไม่มีตรงนี้เขาก็พร้อมจะดำเนินการ ผมก็จะต้องคุยกับผู้คนทั้งโลกเลย ใครสนใจ ผมจะคุยกับเขา แต่จะไม่มาประกาศเอิกเกริกตรงนี้นะครับ เพราะมีคนเขาคอยพร้อมจะไม่สบายใจ ผมก็จะทำให้ทุกคนได้สบายใจ
พม่าเป็นเมืองพุทธ
เมื่อเช้าใครดูโทรทัศน์ช่อง 9 ไม่ใช่ครับ GNN ช่อง 7 ยูบีซี เชิญท่านสันติกโร มา ผมว่าเมื่อก่อนท่านเป็นพระ แล้วท่านสึกมาอย่างไรไม่ทราบ เมื่อเช้าพูด ฝรั่งพูดไทย เป็นคนอเมริกัน พูดจาดีครับ ผมก็เดินเฉียดได้ยืนฟังไม่กี่นาที ก็ดีครับ คือสรุปแล้วท่านบอกเลย มันอยู่ที่ใจเราเท่านั้นเอง สำคัญอยู่ที่ใจเรา ใจมันร้อนรน จะคิดอะไร นึกถึงใจเราเสียก่อน แล้วท่านพูดถึงที่ชอบใช้บ่อย ๆ คือเรื่องพระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 อย่างนี้นะครับ ถ้าผมสนทนากับท่าน ผมจะคุยเรื่องกถา เจธรรม ผมจะคุยเรื่องอะไรต่าง ๆ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนครับ ที่พูดตรงนี้มา ไปพม่าเมืองนี้เขาเป็นเมืองพุทธ แล้วคนเมืองพุทธเป็นอย่างไร ถูกต้องครับ การฆ่ากันตาย การปราบปรามคงมีธรรมดา วันนี้จีนก็พุทธเหมือนกัน ก็ปราบปรามอยู่ที่ทิเบต เป็นข่าวเอิกเกริก พม่าก็เป็นข่าว แต่เรื่องพรรค์นี้ต้องรู้ว่าแล้วอะไรเป็นอะไร หัวหน้าพม่าเขานั่งสมาธินะครับ ท่านพลเอก อาวุโส ตาน ฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ นั่งสมาธิ ท่านนายกรัฐมนตรีพม่าจากสนามบินไปนั่งคุยกันครึ่งชั่วโมง ขากลับมาส่งสนามบินคุยอีกครึ่งชั่วโมง คุยการเมือง แล้วท่านก็บอกเลยว่า ท่านนึกว่าสมัครไปถูกเขาหลอก ไม่หรอกครับ
พม่าสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่
เรื่องนี้ฟังเข้าใจง่าย ๆ ท่านบอกท่านตอนเช้าสวดมนต์ทำวัดเช้าก่อน แล้วสวดพระปริตร 4 บท เจ็ดโมงครึ่งแล้วออกไปทำงาน ท่านกินข้าว เสร็จแล้วก็ทำวัดเย็น นี่นายกรัฐมนตรีนะครับ อาวุโสของเขานั่งสมาธิ คุยธรรมะกันได้ ผมคุยธรรมะกัน เรื่องพรรค์อย่างนี้อธิบายให้ฟัง เขาเป็นเมืองพุทธ บ้านเมืองของเขา เขาบอกเขาอยู่ด้วยความสงบ เขาอยู่กันด้วยความสงบเรียบร้อย เล่าเป็ดให้ฟังนิดหนึ่ง เขาบอกต่างประเทศให้เขาไป account โน้น account นี้อะไร นายกรัฐมนตรีพม่าบอกผมไม่มีดอลลาร์สักดอลลาร์เดียว ผมไม่มีบัญชี เขาบอกบัญชีโน้นบัญชีนี้ เขาไม่เดือดร้อน เขาอยู่ของเขาได้ เพราะเขาไม่มีเงินที่จะให้ใครไปยึด ไปดูเมืองปิ่นมะนา (เมืองเนปิดอว์) ผมอ่านแบบของผมนะ คือถ้าจะทำเมืองแบบถ้าทหารพวกนี้จะหากิน ต้องทำเมืองขนาดเล็ก ๆ ทุกอย่างอยู่รวมกันหมด และไปหากินกับที่รอบ ๆ เมืองข้างนอก นี่ทำเมืองใหญ่มหึมา ขับรถสุดลูกหูลูกตา เมืองใหญ่เบ้อเริ่ม ถนนคอนกรีต ไม่มี 2 ช่อง 4 ช่อง 6 ช่อง ถนน 8 ช่อง 10 ช่อง เพียงแต่ยังไม่ตีเส้นเท่านั้นเอง ถนนคอนกรีตผ่าไปกลางทุ่งนา เมืองทั้งเมืองเลย กระทรวงอยู่ห่างกันครึ่งกิโลค่อนกิโล กระจายหมด แปลว่าทำเมืองขึ้นมาทั้งเมือง กำลังสร้างรัฐสภา กำลังสร้างวุฒิสภา เขาบอกเขาทำไว้ให้รัฐบาลที่จะต้องมาบริหารบ้านเมืองต่อไปในวันข้างหน้า เห็นไหมครับ ถามว่ารัฐบาลทหาร ประเทศไทยเคยมีไหม มีครับ คนปฏิวัติมา 75 ปีที่แล้วของเราก็ทหารร่วมกับพลเรือน เรียกว่า คณะราษฎร์ และอยู่ครองมาหมด เราเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบไหมครับ ครึ่งใบ เมื่อ 31 ปีที่แล้วมา เรายังครึ่งใบเลยครับ เพราะฉะนั้น ผมก็สนทนาธรรมกับพม่าเลย บอกเหมือนกับของเราครึ่งใบ เขามีปัญหาอย่างนี้ ๆ บังเอิญเราไม่มี เราก็เดินหน้ามาสบาย ๆ เขามี ถ้าแก้ตรงนี้เขามีให้มันจบ ยอมรับตรงนั้นเสียนิดเดียว ก็จบเรื่องได้ เขาก็คิดอะไรเหมือนกับเรา เขาสร้างเมืองมานี้ คนจะสร้างรัฐสภา สร้างวุฒิสภา สร้างอะไรต่าง ๆ แล้วเขาบอกว่าสำหรับการเมืองที่จะมาวันข้างหน้า 2 เดือนข้างหน้าจะลงประชามติรัฐธรรมนูญ อีก 2 ปีจะเลือกตั้ง เห็นไหมครับ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าผมมีโอกาสคุยกับพวกทั้งหลายทั้งปวง ผมคุยได้แน่นอนครับ และไม่มีปัญหา และไม่ให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยเดือดร้อนด้วย
คนพม่ากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชเวดากองจำนวนมาก
กลับมา เล่าให้ฟังหน่อยนะครับ ผมไปเครื่องบินทหาร C-130 บินไปปิ่นมะนา 2 ชั่วโมงกว่า เมืองนี้ดูแผนที่แล้วห่างจากชายแดนไทยสัก 50 กิโลเมตร ไม่เกิน 80 กิโลเมตร อยู่ในกลางประเทศพม่า ถ้าประเทศไทยอยู่อย่างนี้ พลิกอีกข้างเป็นพม่า รูปร่างคล้ายกันเลยครับ อย่างนี้ของเรามีกรุงเทพฯ แล้วก็มีสี่เหลี่ยม ถ้าโน้น ถ้าพลิกกลับไป ก็มีแลงกูน ข้างใต้ก็มีสี่เหลี่ยมเหมือนกัน ทางนี้มีอ่าวมะตะบัน ทางนี้ก็มีอ่าวไทย เหมือนกันอย่างกับอะไร เหมือนกันมากเลย เพราะฉะนั้น คนธรรมะธรรมโม ผมไปที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ใหญ่เหมือนกันนะครับ เกือบ 11 ไร่ ตั้งแต่โบราณเลย ทำแล้วเขาก็ปรับปรุงเอาสถานทูตไว้ข้างหน้า ทำอาคารขึ้นมาข้างหลัง เสียไป 130 กว่าล้าน แต่คุ้มครับ เรียบร้อยเลย มีห้องประชุม มีห้องอะไรต่าง ๆ สถานทูตไทยต่อไปนี้จะมี 2 ส่วนอย่างนี้ ก็ไปทำพิธีเปิด ผมก็ไปเปิดให้ได้ใช้ แล้วก็คุยกับทีมไทยแลนด์ ก็สนทนาพอสมควร แล้วก็คุย มีคนไทยมาร่วมงาน คนไทยในพม่ามีประมาณ 500 คน มาร่วมงานหลายร้อย มานั่งฟังสนทนากันตามสมควร ที่น่าสนใจคือว่าก่อนจะกลับขึ้นเครื่องบิน 20.30 น. ไปที่ ชเวดากอง เขาเปิดถึง 22.00 น. ไปเห็นแล้ว ผมก็เทียบอยู่ในใจเสมอ คือในชีวิตผม เกิดมาเคยเห็น ไปพม่าก็ไปท่าขี้เหล็ก ไปเชียงรายข้ามไปท่าขี้เหล็ก ไปพม่า ไปแม่สอด ข้ามสะพานเข้าไปใหม่ ๆ ยังไม่ถึงเมียวดีเลยครับ นั่นละพม่าของผม ทีนี้ได้ไปเห็นเมืองหลวงใหม่ ได้ไปเห็นเมืองหลวงเก่า และไปชเวดากอง พอไปถึงชเวดากองแล้วนึกถึงนครปฐมของเรา ถูกไหมครับ ก็คล้าย คลึง ที่จะต้องบอกความเห็นหน่อยคือว่า เราก็พุทธ เขาก็พุทธ แต่คนพม่าไปกราบไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเขา เขาทำยิ่งกว่าเรา เพราะสถานที่เอื้อเฟื้อ คือตัวชเวดากองอยู่บนเนิน มีการขึ้นไปแล้ว ตัวที่เขาเรียกว่าบริเวณรอบ ของเรามีงานวันนครปฐมเดือนพฤศจิกายน ผู้คนหนาแน่นหน่อย แต่นอกนั้นแล้วเขาก็ไหว้กันหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ ไม่มีใครไปเดินไปปูผ้าไหว้กัน ไม่มีหรอกครับ แต่นี่ข้างในคนออกแบบ เขาทำ 2,000 กว่าปี เพราะฉะนั้น บริเวณที่แยกออกไป กว้างขวาง และทำสิ่งตกแต่งอะไรมากมาย คือดูแล้วก็ผู้คนไปมีชีวิตชีวาอยู่รอบองค์พระเจดีย์ นครปฐมของเราใหญ่โตสวยงาม สง่างาม แต่เงียบสงบ อาจจะเป็นคนไทยคิดว่า ความเงียบสงบเป็นการที่จะแสดงความคารวะอะไรก็สุดแท้แต่ แต่นี่เขาก็มีเสียงสวดมนต์ คือผู้คนไปกันเต็ม ปิดสี่ทุ่มแปลว่าอะไร แปลว่าเขาต้องเฉลี่ยคน แล้วตอนเย็น ๆ จะแดดหมด ตอนกลางวันร้อนหน่อย ทั้งหมดความสวยสดงดงามนี่ละครับ ที่เป็นการที่เขาให้ตรงรอบองค์พระมีชีวิตชีวาอยู่ เท่านั้นครับ ออกความเห็นหน่อย
เชื่อมเส้นทางขนสินค้ากรุงเทพฯ —กาญจนบุรี-เมืองทวาย
เรื่องของพม่าจะเล่าเท่านี้ แต่จะเล่าเรื่องนี้หน่อย เจรจาความกันเสร็จเรียบร้อย พูดจาการเมืองกันเสร็จ การบ้านไม่เป็นปัญหาเลยครับ เรื่องชายแดนอะไรก็พูดกันพอสมควรแก่เหตุ แต่ว่าเราอยากจะทำเรื่องเขื่อน มีเขื่อนฮัตจี เขื่อนอะไรอีกเขื่อน 2 เขื่อนนี้ 7,000 เมกะวัตต์อันหนึ่งกับ 1,000 กว่าอันหนึ่ง ท่านอาวุโสตาน ฉ่วย บอก ควรจะทำตรงนี้ ๆ บอกทำแล้วหาคนมาลงทุนทำเลย แล้วพม่าจะใช้ไฟก็ใช้น้อย แต่ว่าให้ไทยใช้ เพราะไทยเจริญ ธุรกิจเจริญ ต้องการไฟ มาทำเลย เพื่อนบ้านเป็นอย่างนี้นะครับ แล้วก็ขุด ของเราไปลงทุน M 9 ได้แหล่งก๊าซใหม่ ผมก็เจรจาความขอให้มีการเซ็นสัญญาตกลง พม่าบอกจะขอเอาขึ้นไปใช้ที่ทางแลนกูนหน่อย ผมบอกไม่มีขัดข้องเลย ก็ซักซ้อมกันไปแล้วว่า พม่าเขาไม่มีแรงจะมาทำต่อท่อขึ้นไปใช้ บอกไทยต่อให้ บริษัทไทยต่อให้คิดหักค่าก๊าซวันข้างหน้า อย่างนี้ไม่เป็นปัญหา แต่ที่น่าตื่นเต้นคือว่าเราจะทำแลนบริดจ์ข้ามไปข้ามมา ทางพม่าบอกว่าเมืองทวายนี่ไง เมืองทวายอยู่ห่างชายแดนไทย 130 กิโลเมตร ถ้าสำรวจทำท่าเรือน้ำลึกตรงทวาย ไม่ต้องเอิกเกริกมากมาย ขนคอนเทนเนอร์กับสินค้าอย่างเดียวเท่านั้นเอง 130 กิโลเมตร เรากำลังจะมีโครงการตัดถนนไปเมืองกาญจน์ ออกจากปลายถนนรัตนาธิเบศร์ตรงระหว่างบางใหญ่กับบางบัวทอง ตรงเลย 80 กิโลถึงเมืองกาญจน์ ถ้าเอา 130 บวก 80 เป็น 210 กิโล ถึงกรุงเทพฯ ถนนเราก็มี วงแหวนเราก็มี ถ้าวงโน้นไปถึงประตูน้ำพระอินทร์ ไกลไปหน่อย ก็ทำอีกวงหนึ่ง ยกระดับ ขนแต่สินค้าอย่างเดียว ก็อ้อมกรุงเทพฯ ก็ไปออกแหลมฉบัง 100 กิโล แหลมฉบังมีท่าเรือน้ำลึกอยู่แล้ว ถ้าหากว่าทวายมีท่าเรือน้ำลึก ระยะทางไม่เกิน 300 กิโล ก็เชื่อมกัน ขนคอนเทนเนอร์ ขนสินค้าอย่างเดียวเท่านั้นก็เหลือแหล่แล้วครับ คนทางเอเชียอยากไปยุโรปเร็ว ก็ผ่านทางนี้ ถึงบอกคงไม่ค้อนควักอะไรครับ ถ้าเขามีการว่ายอมขนทางนี้ขึ้นแล้วลากไปทางนี้ ทางด้านมาจากยุโรปขนมาทางนี้ ใครลองคิดสิครับ เมืองทวายกับสีชัง น่าคิดนะครับ ไม่ใหญ่โตเอิกเกริก เป็นเส้นทางตู้คอนเทนเนอร์ที่จะผ่านอย่างเดียว เรื่องนี้คิดก็ดำเนินการ ผมบอกว่าทางไทยเราก็ใช้ผ่านนักธุรกิจเป็นคนลงทุนมาก พูดกันหมดครับเรื่องโน้นเรื่องนี้เรื่องอะไรต่าง ๆ พูดกัน แม้กระทั่งเรื่องผู้คนเรื่องการพิสูจน์สัญชาติคน เรื่องการทำงาน การค้าขาย เรื่องพรหมแดนที่มีปัญหา ก็จะได้เจรจากันต่อไป ท่านผู้บัญชาการทหารบก (พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ไปด้วย เจ้าหน้าที่ระดับเกี่ยวกับพรหมแดนไปด้วย มีอะไรก็ถามได้คุยกันได้ ไม่เป็นปัญหาเลยครับ เพราะว่าคุยกันเรื่องการบ้านการเมืองระหว่างประเทศ ผมไปรับฟัง ผมไปดูเหรียญอีกข้างหนึ่ง และต่อไปนี้ผมก็คุยกันเรื่องธุรกิจของเรา ทุกอย่างก็ราบรื่นดี
สร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน
ผมมาพูดที่สถานทูตไทย ต้องสรุป ผมบอกเรามีเพื่อนบ้านอยู่ 3 ทิศ มีทาง สปป.ลาว กัมพูชา พม่า ในลาวเราไปลงทุนไปทำน้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 น้ำเทิน 3 จะไปทำเหมืองแร่เหล็กกำลังนี้ จะทำโรงงานทำอลูมินั่มที่นั่น เขาเปิดให้เราใช้เข้าไปทำในนั้น ทางกัมพูชาก็เปิดเข้าไปเพาะปลูกไปทำอะไรกันมากมาย เป็นกี่แสนเฮกตาร์ ไปปลูกอ้อย ข้าวโพด ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในพม่าก็ทำในเรื่อง Contract Farming เข้ามาปลูกเหมือนกันครับ เราไปปลูกเขาเหมือนกันครับ แก๊สก็ซื้อเขา ทั้งหลายทั้งปวงคือว่าเวลาที่ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมต้องเอื้อนเอ่ยกับเพื่อนร่วมแผ่นดินทั้งรอบ ๆ เราทั้ง 3 ผมไป สปป.ลาว ผมก็บอกความมั่นคงของลาวคือความมั่นคงของไทย ไปกัมพูชาก็บอกความมั่นคงของกัมพูชาก็คือความมั่นคงของเรา ไปพม่าก็ต้องบอกความมั่นคงของพม่าคือความมั่นคงของไทย เพราะอะไรครับ เพราะของเรา เราอาศัยทรัพยากรจากประเทศเพื่อนบ้านมาทำความเจริญให้เรา ทั้ง 3 ด้านเลยครับ ถ้าผูกสัมพันธ์กันไว้ขนาดนี้ แล้วจะมาเอาเรื่องเอาราวกันขนาด รัฐบาลทหารไปซื้อก๊าซเข้ามาก็ด่า จะทำท่อก๊าซก็ด่า อะไรเสียทั้งหมด ที่นี่ที่นั่นปักธง นี่ทำไม่ได้ ขุดไม่ได้ เหมืองแร่โปแตสกี่ปี ๆ เอ็นจีโอไปปักธงไว้แล้ว ห้ามไม่ได้ แต่ก่อนนี้ตันละ 140-160 เหรียญ เดี๋ยวนี้ตันละ 400 เหรียญ ก็ยังปักธงเอ็นจีโอ ขุดไม่ได้ทำไม่ได้ แล้วไปเพื่อนบ้าน ทำไมเขาทำ ลาวให้เราทำได้ ในกัมพูชาให้ทำได้ ในพม่าก็ให้ทำได้ ถามดูสิครับว่า นี่ไมตรีความผูกพันกันระหว่างเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่รั้วติดกัน 3 รั้วเลยครับ
พม่าขอให้ไทยช่วยวางท่อก๊าซ
ผมไป 1-2-3 ที่เขากำหนดให้ไปก็ต้องอย่างนี้ ไปแล้วพูดได้ชัดเจนเลยว่า ความมั่นคงของทั้ง 3 ประเทศ คือความมั่นคงของเรา ไม่ได้ไปเสแสร้ง ไม่ได้ไปตลบตะแลงอะไรเลยครับ ไทยเราช่วยเหลือ ถูกต้อง ที่จะทำให้เขากู้ทำนี่ ๆ นี่ทำให้เปล่า มิตรจิตมิตรใจนะครับ สปป.ลาวเราก็ช่วย กัมพูชาเราก็ช่วย ผมบอกแล้วทำถนนหนทาง นักท่องเที่ยวก็ถ่ายกันไปถ่ายกันมา ทางฝ่ายพม่าทั้งหมดเลย น้ำมันขึ้นเอาตามใจชอบ ถามสิว่ารัฐบาลพม่าเขาขึ้นราคาก๊าซตามใจชอบไหม บาร์เรลละ 9 เหรียญ 10 เหรียญ แต่นี่ขึ้นไป แต่ก่อน 97-98 ถึง 100 เดี๋ยวนี้ขึ้นไป 110-111 เหรียญ ถามสิว่าเพื่อนบ้านเขาทำอย่างนี้ไหม เจรจาขุดก๊าซเจอขอให้เซ็นสัญญาจัดการซื้อขาย เขามีข้อขัดแย้งนะ เขาบอกเอาตกลง สิ่งที่เขาอยากได้คือช่วยวางท่อก๊าซให้เขาหน่อย เพราะเขาไม่มีปัญญาจะวาง ช่วยวางและหักค่าเงิน นี่เพื่อนบ้านของเรานะครับ ผมกำลังเจรจาความอีกด้วย ใครจะว่ารัฐบาลกระจอกงอกง่อยอย่างไรก็ตามแต่ 2 วันนี้ผมจะเจอกับทูตรัสเซียก็จะพูดจากัน เขาเปลี่ยนแปลงจะครับ ที่นี่เปลี่ยนแปลงคนหนุ่มอยู่ข้างหน้า แต่คนอาวุโสอยู่ข้างหลัง คุณปูติน (ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย) เขาบอกเลย เขาบอกให้ทูตมาเจรจา เขาบอกอยากจะเอาตรงไทย จะเอาเรื่องก๊าซ เรื่องน้ำมัน เขาอยากจะให้เราช่วยดำเนินการ ทูตรัสเซียขอพบกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผมบอกไม่หรอก ย้ายมาพบกับนายกรัฐมนตรีเลย ก็ต้องทำการแบบนี้ครับ นี่อธิบายให้ฟังว่าระหว่างนี้ที่กำลังงานอย่างนี้มากมายก่ายกอง คืออะไรครับ
ชี้แจงกรณีคอลัมนิสต์วิพากษ์วิจารณ์
ที่เป็นข่าวเอิกเกริก ผมเอาหนังสือพิมพ์ติดมาให้ดูหน่อย มันใหญ่โตเอิกเกริกทั้งบ้านทั้งเมืองครับ ดูหน้านี้ ผมอ่านให้ฟังครับ “ตบหน้ารัฐบาล ! “อภิรักษ์” สอนสปิริต-ยอมพักงานผู้ว่าฯ ปมรถดับเพลิง ...ฯ (แนวหน้า) ไทยโพสต์ พาดหัว อภิรักษ์กดดันหมักโชว์สปิริตยุติหน้าที่ผู้ว่าฯ รบ.เหน็บ หาเสียง-สร้างภาพ นี่พาดหัวข่าวนะครับ 3 วันที่ผ่านมานี้ นั่งอ่าน ท่านผู้ชมก็เหมือนกับผมอ่าน ทุกคอลัมน์เลยครับ ยกย่องสรรเสริญและก็เหยียบย่ำผม เหยียบย่ำรัฐมนตรีอีก 3 คน ไม่รู้จักแสดงสปิริต ผมประหลาดใจบ้านเมืองนี้ คนเก่งคนรู้คนฉลาดทั้งหลายไปทำหนังสือพิมพ์หมด มีไอ้คนโง่อย่างผมเท่านั้น กับพรรคพวกผมโง่ ๆ ดันมาทำการเมือง ถูกเขาสับเขาโขกเขาว่าเขากล่าว มันจริง ๆ นะครับ จะนึกว่าผมไปพูดจาเยาะเย้ยถากถาง ไม่ละครับ นี่พูดจากใจจริงเลย คนเก่ง ๆ รู้ทุกอย่าง อ่านคอลัมน์หน้า 4 สิครับ รู้ทุกอย่างเก่งทุกอย่าง ทั้งสั่งทั้งสอนทั้งสับทั้งโขก ไปทำหนังสือพิมพ์หมดครับ ไอ้คนโง่อย่างผมเท่านั้นมาทำงานการเมือง นักการเมืองหน้าโง่อย่างผมเท่านั้นครับที่ได้ไปเจรจากับประเทศ สปป.ลาว เจรจากับกัมพูชา เจรจากับพม่า อีก 2-3 วันจะไปสิงคโปร์ และอีก 5-6 ประเทศ เสร็จแล้วจะต้องเดินทางไปเจรจาไปจีนไปญี่ปุ่น ต้องไปพูดกัน ถึงเดือนมิถุนายนต้องไปยุโรป เดี๋ยวเดือนสิงหาคมเขาพักกันหมด เดือนกันยายนไปสหรัฐอเมริกา ทำความเข้าใจทั้งโลก ให้เขารู้ว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ให้กลับมาเหมือนอย่างเดิม ทำงานอย่างนี้ครับ และทำงานอยู่แล้วเป็นอย่างไร นั่งทำงานอยู่ ถามว่าสบายดีไหม ไม่สบายหรอกครับ เพราะเรื่องต่าง ๆ ยังไม่จบ ยังรุงรังพันเต ผมบอกเขียนรัฐธรรมนูญเอาไว้ ต้องเขียนรัฐธรรมนูญเป็นห่วงมาผูกคอ ใครมาเป็นรัฐบาลนี้ก็เสร็จ ก็เอาความเกลียดชังนายกรัฐมนตรีคนเก่ามาเขียนใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วผมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่มา ผมต้องรับความเดือดร้อน ถูกต้องครับ ยังตามล่าตามล้างกันยังไม่จบ นั่งทำไป ๆ ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะยุบพรรคหรือเปล่า ใบเหลือง ใบแดง ก็ยังไม่เสร็จหมด ก็ว่าเป็นกฎกติกา ก็เอาสิครับ เขียนกันไปเขียนกันมา นอมินีน่ะ ฟังความบอกไม่มีปัญหา ก็ยังจะเอากันให้ได้ แล้วผมจะทำอย่างไร ถ้าทำไม่บ่นวันนี้ ผมจะไปบ่นกับใครที่ไหน ผมก็ทำงานอย่างที่เห็นนี่ อยู่กันมา กระโดกกระเดกเข้ามานี่ ผมว่าหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ก็ทำงานครับ แต่งานกำลังจะเดินไปได้ เสร็จแล้วจะเอาหมอเลี้ยบ (นาย สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ออกเสียแล้ว จะเอาคนโน้นออก รวมทั้งผมด้วย เขียนมา ผมไม่ได้ว่านะ
ยืนยันเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง
คนที่เป็นคอลัมนิสต์ไปอ่านข้อเขียนของท่าน 2-3 วันมานี้ ยังไม่จบ ยังกระทบกระแทกแดกดัน ผมจะถามหน่อย ผมไม่ใช่คนเชี่ยวชาญรู้กฎหมาย แต่ถามว่าท่านที่เขียน ผู้พิพากษาทั้งนั้นเขียนคอลัมน์ นักกฎหมายทั้งนั้น เปล่าเลยครับ แต่ผมจะบอกให้ฟังนะ ท่านผู้ว่าฯ อภิรักษ์ (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) แสดงสปิริต บอกสมัครปากพาจน ไปพูดจากันตัวเอง ไม่พาจนหรอกครับ ผมพูดปากผม ผมก็ทำงานให้บ้านเมืองผม แต่ผมพูดถึงผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ผมพูดความจริง เมื่อวันอังคารผมบอกว่า กฎหมายเขากำหนดไว้ ไปตีความว่าถ้าเผื่อนั่นจะต้องออกจากตำแหน่ง ผมบอกว่าไม่ใช่ กฎหมายเขากำหนดเลย ใครอยู่ตำแหน่งไหน ถ้าเกิดอย่างนี้ ถ้าเขาชี้ว่าหนึ่ง มีมูลมีความผิด ก็ต้องหยุด หมายถึงตำแหน่งที่ปฏิบัติอยู่ ผมยกตัวอย่างว่าถ้าสมมติ กทม.เขาเกิดชี้เรื่องดับเพลิง (จัดซื้อรถและเรือดับเพลิง) ว่าคุณอภิรักษ์จะถูกกล่าวหา คุณจะต้องถอยออกมา เพราะคุณปฏิบัติอยู่ แต่อย่างผม ผมไม่ต้องถอย เพราะผมพ้นมาแล้ว อธิบายความเท่านี้เองครับ ถ้าความจริงพวกคอลัมนิสต์ทั้งหลายลองช่วยคิดดู เขาเล่นงานผม กล่าวหาผม 5 คน ตั้งแต่ปฏิวัติ พอปฏิวัติก็ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เสร็จแล้วเอานี่มาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วก็สั่งแจ้งข้อหาผมว่าทำทุจริตอย่างนี้ ๆ เรื่องรถดับเพลิง ตอนนั้นผมเป็นอะไร ผมเป็นประชาชน เป็นนายสมัคร ธรรมดา ๆ แล้ว
ถ้าเผื่อแจ้งข้อหาผม แล้วผมจะลาออกจากตำแหน่ง เอาบัตรประชาชนไปคืน ยุติความเป็นประชาชนคนไทย ก็ไม่ต้องทำอะไร ผมก็เป็นนายสมัครอยู่อย่างนั้น ก็แจ้งข้อหาผมแล้วว่าผมทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ว่าผมแล้ว แล้วผมจะไปออกจากตำแหน่งตรงไหน ต้องยุติตรงไหนครับ ไปกระทรวงมหาดไทยเอาบัตรประชาชนไปคืนบอกขอลาออกจากตำแหน่งชั่วคราว เปล่า เสร็จแล้วผมเข้ามา ผมมาดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ผมสมัครรับเลือกตั้ง ทำไมไม่กันผม บอกคุณโดนคดีนั้น คุณสมัครไม่ได้ ทำไมไม่มีกฎหมายมากันผม แล้วทำไมผมสมัครแล้วเป็น ส.ส. พอได้เป็น ส.ส. ผมไปรายงานตัว ทำไมสภารับรายงานตัว ต้องบอกคุณสมัครคุณถูกกล่าวหาอย่างนี้ คุณต้องน่าอาย คุณต้องออก คุณต้องไม่รับ ก็ไม่มี ปล่อยให้ผมมาทำ ๆ จนกระทั่งผมมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล มาจนถึงป่านนี้ เสร็จแล้วก็มาชี้ ชี้มา 5 คนเท่าไร ปีครึ่งเกือบ 2 ปี ชี้มาแค่ 5 คน และทำไมเพิ่งมาชี้คนที่ 6 ทั้งหมดออกมาแล้วทั้งนั้น ออกจากตำแหน่งแล้วมาชี้ เสร็จแล้วเมื่อเวลาที่คนที่ 6 ถามแต่ก่อนทำไมไม่ชี้ และทำไมเพิ่งมาชี้ และเข้าล็อกกฎหมายไหมว่าอยู่ในตำแหน่งแล้วคนนั้นต้องออก
ลงนามในบัญชีรายชื่อแต่งตั้งนายทหารแล้ว
ปัจจุบันนี้มีคนตำแหน่งใหญ่ ๆ 3 ตำแหน่ง ซึ่งถูกชี้ว่ามีความผิด แต่ยังนั่งอยู่ตำแหน่งบริหารใหญ่ ๆ อยู่ ทำไมไม่ไปไล่จัดการ ผมไม่ได้อะไรนักหนาหรอกครับ แต่ผมกำลังทำงานให้บ้านเมืองผมอยู่ ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าในตำแหน่งที่เขากำลังทำงานกันอยู่ ถามว่าหมอเลี้ยบที่เขาโดน เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอทีซี) ตั้งแต่ปี 2546 ที่กล่าวหาเขา และจะกล่าวหาเขาด้วยอย่างไรก็ตามแต่ แล้วเกี่ยวข้องอะไรกันอย่างไรครับ อธิบายความได้ชัดเจนว่า ไม่ต้องลาออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งไอทีซีออกมาแล้ว และเขากำลังทำงานอยู่ที่กระทรวงการคลัง เข้ามาก็ดูถูกดูแคลน คนนั้นเป็นหมอ คนนี้เป็นพยาบาล ดูแคลน แล้วเขาทำอย่างไร เขาจัดการค่อย ๆ ถอนมาตรการกันสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ ออกไปได้ เขาเจรจาความ เมื่อวานนี้เขาไปบ้านผม นักข่าวไปล้อมบ้านผม ประหลาดจริง ๆ ถามเถอะบรรณาธิการช่วยสั่ง ไปล้อมแล้วได้อะไร เขาไปล้อมเรื่องอะไรรู้ไหม เขาไปล้อมเรื่องจะมีคนเอามาเซ็นเรื่องทหาร เชยจริง ๆ บรรดาผู้สื่อข่าวทั้งหลาย ผมเซ็นไปเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมแล้ว เสร็จหมดเรียบร้อยทั้ง 3 กองทัพ กองบัญชาการสูงสุด เดี๋ยวนี้เรียกกองทัพไทย พอใจครับ เสร็จเรียบร้อยหมดตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม วันที่ 15 มีนาคมเพิ่งตื่นเต้น ไปล้อมบ้านผมบอกจะเอาเอกสารมาเซ็น เซ็นหมดแล้วครับ
จัดสรรเงินเอสเอ็มแอลสู่รากหญ้า 15,000 ล้าน
ผมจะถามหน่อยสิครับ บังเอิญคุณหมอไปคุยกับผมเรื่องจะใช้เงิน 15,000 ล้านบาท ลงไปที่รากหญ้า เป็นข่าวใหญ่ ก็เขาไปอธิบายให้ฟัง คุณหมอบอกว่าโทรศัพท์ ผมอยู่บ้านมือถือก็กองไว้ โทร.เข้ามาก็ไม่ได้ เบอร์ที่บ้าน คุณหมอนึกอย่างไรไม่รู้ไม่โทร.เข้าไปหาผม บอกวันนี้ให้คุยหน่อย เรื่องเอสเอ็มแอล คือเงินที่จะลงไปที่หมู่บ้าน ตอนหาเสียงผมพูดเรื่องไอศกรีม ท่านผู้ฟังคงไม่ได้ฟังผมหาเสียง เรื่องไอศกรีม คุยกันเลยครับ ไอศกรีมเขาบอกว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลอยากให้คนในระดับหมู่บ้านได้กินไอศกรีม เสร็จแล้วก็ทำไอศกรีมขึ้นมาที่ทำเนียบ ผมเสร็จ รัฐมนตรีที่ทำก็ดูดเสียก่อนแล้ว ส่งไปให้ผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ ดูดทีหนึ่งก่อน ส่งไปให้รองผู้ว่าฯ ดูดเสียอีกทีหนึ่ง ลงไปถึงนายอำเภอ นายอำเภอดูดที ปลัดอำเภอดูดอีกที ไปถึงกำนันดูด ผู้ใหญ่บ้านดูด ไปถึงราษฎรเหลือแต่ไม้ไอศกรีมและไอศกรีมติดนิดหน่อย คุยเรื่องนี้ ราษฎรก็หัวเราะ ผมก็บอกว่าตกลงที่เขาทำกองทุนหมู่บ้าน กองทุนละ 1 ล้าน 80,000 หมู่บ้าน 80,000 ล้าน เขาก็ดำเนินการมาแล้ว แต่เขายังมีไอศกรีมนี่ละครับเอาไปทำในหมู่บ้าน ลงเป็นโครงการเลย เอาไปดูว่าจะทำอะไร ประชุมกรรมการ คนหมู่บ้านล้วน ๆ จะทำอะไร จะทำโอท็อป จะทำโน่นทำนี่ เพื่อพัฒนาหมู่บ้าน เดิมเขาเคยนะครับ 200,000, 250,000, 300,000 รณรงค์ไว้เอาบอกต่อไปจะเป็น 300,000 , 500,000, 700,000 เดี๋ยวนี้มีเงิน หมอเลี้ยบนี่ล่ะ เป็นหมอใครก็ดูถูกดูแคลน เขาจัดการตัดมาให้ 15,000 ล้าน 80,000 หมู่บ้าน คร่าว ๆ หมู่บ้านละ 200,000 ลงไปเลยครับไม่ได้เลือกตั้ง ไม่ต้องหาเสียงแล้วนะครับ แต่เขาต้องทำ เพราะเหตุว่ามันกระตุ้นเศรษฐกิจของบ้านเมือง 80,000 หมู่บ้าน เอาหมู่บ้านละ 200,000 ก่อน งบประมาณปีหน้าเราตั้งเอง เราจะต้องใส่ลงไปอย่างไร ไม่ใช่ประชานิยมครับ ขอยืนยันว่าเงินนี้ไม่ได้เอาไปแจก ไม่ได้เอาไปกู้ แต่ไปไว้ในโครงการจะพัฒนาหมู่บ้านอย่างไร จะทำให้มีผลิตผลอะไร คิดอยากจะทำอะไร ไอศกรีมที่พูดกันไว้ว่าไม่ใช่ผลิตที่ทำเนียบ ไปถึงแล้วเหลือติดไม้ แต่นี่เอาไอศกรีมไปทำที่หมู่บ้าน แต่แปลกอย่างหนึ่งครับ พวกบริษัทผลิตไอศกรีมชื่อบริษัท ครีโม ครีมเหมือนกัน แต่ครีม แต่ถ้าราชบัณฑิตยสถานต้อง ก ไอศกรีม นี่เป็นการทำไอศกรีมที่หมู่บ้าน ทำเสร็จคงจะกินกันที่นั่นละครับ นี่อุปมาอุปมัยนะครับ หมายความว่าหมู่บ้านมีคิดมีอ่านจะทำอะไรต่ออะไรอย่างไร
เป็นนายกรัฐมนตรีที่เรียนจบกฎหมายรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
เหมือนจะทำโอท็อปนี่ ถ้า 2-3 วัน เบรกไม่ทันก็ยุ่งเหมือนกันนะครับ จะจัดงานโอท็อป รีบร้อนจะจัด เจ้าหน้าที่ปัจจุบันไม่ออกว่าเป็นใคร ไปจ้างออร์แกไนเซอร์ 85 ล้านบาท จัดงานโอท็อป เอาราษฎรทั้งประเทศ ยังไม่ได้รู้ว่าโอท็อปจะเอาอะไรมาทำ ยังไม่ทันทำ จะรีบจัดอย่างไรไม่ทราบ 85 ล้าน วันที่ 29 มีนาคม เชิญผมไปเปิด ตรวจสอบแล้ว ยังเปิดไม่ได้ แล้วใช้ออร์แกไนเซอร์ 85 ล้าน ผมไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยเลย จะโฆษณาอย่างไรให้คนไป นั่นแหละสำคัญ แต่ออร์แกนไนเซอร์ไปจัด ไปทำอะไร ใช้เงิน 85 ล้าน ไม่เกี่ยวกับโอท็อป แต่จะให้มาจัดงานโอท็อป เห็นไหมครับว่ารัฐบาลนี้ถี่ถ้วนแค่ไหน ถี่ถ้วนอย่างนี้ไม่มีคอลัมน์ไหนเขียนชมหรอกครับ ไม่มีครับ ไม่เห็น ผมเลยเอามาบอกให้รู้กันเองว่าเราถี่ถ้วนครับ จะบอกให้ทราบครับว่าที่คุยที่เล่าให้ฟัง เมื่อเช้าฟังท่านสันติกโรไปแล้ว อยู่ที่ใจครับ ว่าไป จะเขียนดุด่าว่ากล่าวอย่างไรท่านว่าไปเถอะ ผมเป็นคนเหมือนพวกพม่า ธรรมะธรรมโม วันนี้จะพูดถึงหน่อยเพราะว่าไปเยี่ยมเขามา เขาเป็นคนธรรมะ เขาแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนเลวอย่างที่คนในโลกชี้หน้าเขา ผมก็แน่ใจว่าผมไม่ใช่หัวหน้านักการเมืองเลวอย่างที่หนังสือพิมพ์รุมโขกกัน พูดก็พูดเถอะครับ ใครอ่านแล้วไม่เจอบ้างที่เขาว่าผม กระทบกระแทกแดกดันว่ากล่าว ยกย่องสรรเสริญคนนี้ ด่าคนนี้ ไม่ได้กินหรอกครับ เพราะเหตุว่าดูในสภาพจริง ๆ ผมจะไปลาออกกับใครที่ไหน แล้วทำไมปล่อยให้ขนขึ้นบันไดมาถึงข้างบนเสร็จปั๊บ พอคนนี้บอกสปิริต นายสมัครไม่มีสปิริต ท่านที่เขียนคอลัมน์ท่านคิดสิครับ ที่ผมพูดนี้จริงหรือเท็จ แล้วถ้ากฎหมาย ไปดูในตัวบทกฎหมายก็ได้ ผมไม่ใช่เป็นคนมาจากที่อื่น ผมเรียนกฎหมายครับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้ปริญญาเหมือนกับท่านทั้งหลายที่ออกความเห็น ก็รู้กฎหมาย มาเป็นนายกรัฐมนตรีผมรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ก็กำลังบริหารบ้านเมืองกันดี ๆ ถ้าผม ขอประทานโทษครับ ขออภัย ถ้าผมจะดัดจริตไปเต้นตามนี้ลงไป ถามว่าออกไปแล้วเกิดอะไรขึ้นครับ หัวหน้ารัฐบาลหยุดพักงาน คณะรัฐมนตรีก็หยุดหมด เปลี่ยนใหม่หมดเลยครับ แล้วทำอย่างไรกันสำหรับวันนี้ หาคนทำงานใหม่ หานายกรัฐมนตรีมาใหม่ ต้องตั้งมาใหม่ ต้องจัดการอะไรกันใหม่ ไม่ปั่นป่วนวุ่นวายกันหมดหรือครับ เดินหน้ามาอย่างนี้ ประเทศชาติล้มลุกคลุกคลานมา 16 เดือน ตั้งตัวได้กว่าจะเอาชนะเลือกตั้งกันมาได้ สู้กันได้ ทั้งระบบทั้งระเบียบ เสร็จแล้วไป ๆ มา ๆ 2 — 3 วันผมอาจจะถูก กกต. ฆ่าตายก็ได้ บอกว่าเป็นนอมินี ลงมติเลย ยุบพรรคพลังประชาชน หมด 37 คนผู้บริหาร เลิกกันเลย ก็ให้มันปั่นป่วนกันใหม่
ปรับย้ายข้าราชการตามความจำเป็น
ผมไม่ได้ต้องการมาพูดจาเพื่อจะได้ผลประโยชน์กับผม แต่เราต้องคิดกันบ้างไหมครับว่า บ้านเมืองมาจนถึงป่านนี้ยังตามล่าตามล้างจะเอาให้เป็นให้ตาย ใครที่ทำอย่างนี้ ลองดูสิครับ ก็เอาสิเอาให้สำเร็จสิครับ ยังไม่ทันไร อยู่มาเดือนกว่าปลุกระดมกันแล้ว จะเป็นรัฐตำรวจ หัวหน้าตำรวจหน่อยเท่านั้นจะตั้งรัฐตำรวจ ไปอ่านคำแถลงสิครับ (แถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) บ้านเมืองสู่วิกฤตแล้ว นายสมัครจะตั้งรัฐตำรวจ ฟังดูแล้วมันอะไรกันนักหนา ยังไม่ถึงวันที่ 28 ประกาศแล้วมี 30,000 มีคนเขียนจดหมายมาถึง ย้ายข้าราชการ คำถามคือว่าจะย้ายอีกไหม ผมจะตอบตรงนี้เลยครับว่าผมจะต้องย้ายอีก คำอธิบายคืออะไร ที่แล้วมามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองบ้านเมืองนี้ ยึดอำนาจเข้ามาได้ ย้ายเป็นแผง ย้ายกันไปสุดลูกหูลูกตา เงียบไม่มีใครพูดอะไร ย้ายๆๆๆ ดีไหมครับ แล้ว 16 เดือนที่ผ่านมานั้นดีไหมครับ มันทนทุกข์ทรมานไหมครับ เสียหายไหม เสร็จเรียบร้อยแล้วมีเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ แล้วผมจะต้องนั่งงอมืองอเท้าอยู่ตรงนั้นหรือครับ ให้เป็นอย่างนั้นหรือครับ เวลาที่มีการปลุกระดมกัน ใครครับที่ระดมเอาราษฎรสั่งเอาเข้ามาช่วยการปลุกระดม ใครครับ คนอย่างนี้ที่เคยทำอย่างนี้จะปล่อยให้เขาทำต่อไปไหม วันที่ 28 นี่จะเอากันอีกแล้ว จะปล่อยให้คนทำอย่างนี้จะสั่งราษฎรเข้ามาที่โน่นเท่านี้ ที่นี่เท่านี้ส่งเข้ามา เอาเข้ามาทำอย่างนี้ ถ้าคนทำอย่างนี้อยู่ ยังต้องให้อยู่ต่อไปในตำแหน่งไหม ผมตอบคำถามได้ว่าถ้าผมจำเป็นจะต้องย้าย
ตอบกระทู้ย้ายข้าราชตำรวจระดับรองผู้บังคับการ
แล้วผมเดือดร้อนอะไรไหม วันก่อนเขาย้ายตำรวจกัน ย้ายตำรวจ ต้องเข้าสภาฯ ระดับรองผู้บังคับการ ถามกระทู้นายกรัฐมนตรี(นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถาม) ผมต้องไปตอบกระทู้ ท่านผู้ชมอาจจะไม่ได้ฟังวันนั้น เขาบอกว่าตำรวจคนนี้เก่ง ทำ กกต. เป็นอะไรต่ออะไรหมด เก่งเชี่ยวชาญเรื่องจับใบแดง ให้ใบแดงคนนี้ ๆ ถึงได้ถูกย้าย ผมบอกคนกระทู้ถาม คุณองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผมบอกว่านี่ถ้าหากว่าผมรู้ว่าตำรวจคนนี้เก่งในเรื่องปราบใบแดงจริง ๆ ผมไม่ย้ายไปศรีสะเกษหรอก ที่ย้ายไปศรีสะเกษคนทางโน้นเขาว่าง เขาขอตัวส่งไปช่วย ถ้าผมรู้จริง ๆ ผมจะย้ายไปเพชรบูรณ์ เพราะเพชรบูรณ์มีอะไร จับโคราชเงิน 13,000 โดนใบเหลืองใบ 3 คนสมควรแก่เหตุ จับเพชรบูรณ์ใบแดง 1,300,000 ให้ใบเหลืองเหมือนกัน เห็นไหมครับ ผมบอกว่ารองผู้บังคับการที่เพชรบูรณ์ไม่เก่ง ต้องเอารองผู้บังคับการบุรีรัมย์ย้ายไปเพชรบูรณ์ ก็ทางการเมืองละครับก็ว่ากันไปอย่างนั้น แล้วอีกวันเขาก็ย้ายครับ เขาย้ายตำรวจทั้งโรงพักเลย ที่มีตู้ม้าตู้อะไรของเขา เขาเอามากางเลย นี่เขียนว่าจะต้องมีคุณธรรมอะไรต่าง ๆ ตกลงพอคุณธรรมพอเล่นตู้ม้าก็ย้ายไม่ได้ ก็คุณเอามาอ้างว่า นายกรัฐมนตรีประกาศจะต้องมีคุณธรรมในการอย่างโน้นอย่างนี้ อ้างอันนี้เสร็จแล้ว แปลว่าปล่อยให้เล่นในตู้ม้ากันต่อไป ปล่อยให้เล่นการพนันกันต่อไป ปล่อยให้มีบ่อนกันต่อไปอย่างนั้น เพราะว่าย้ายไม่ได้มีคุณธรรม แล้วถ้าใครเคยระดมเอาคนเข้ามาปลุกระดมขับไล่รัฐบาลเก่า แล้วล้มรัฐบาลเก่า ยังนั่งหัวโด่อยู่อย่างนี้ แล้ววันหนึ่งไปจับย้ายเข้า ย้ายไม่ได้ ตกลงเลือกตั้งเข้ามาทำไม เปลี่ยนรัฐบาลทำไม ที่แล้วมาถ้าเขาบอกว่ารัฐบาลที่แล้วเลว เขาก็เปลี่ยนเข้ามา เขาก็จัดการย้าย ๆ ไม่เป็นไร ปฏิวัติไม่มีใครกล้าแหกปากว่า แต่ว่าเลือกตั้งเข้ามาแล้วว่าเอา ๆ ย้ายไป 4 ตำแหน่งเท่านั้นเองครับ
หมอกำลังมีทุกข์เพราะถูกฟ้องคดีอาญา
เอาละครับผมจะบอกให้ฟังมาถึงตำแหน่งคนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปเรียกเขาคุณหมอไชยา ไชยาเขาไม่ชอบเขาไม่ได้เป็นหมอ ชอบนักใครเป็นรัฐมนตรีฯ สาธารณสุขชอบคุณหมอ เขาเข้ามาเขาทนทุกข์ทรมานของเขา เรื่องโน้นเรื่องนี้โดนด่าฟรีไป เสร็จแล้วไป ๆ มา ๆ ซีแอลก็ซีแอล ทำค้างคากันไว้ เขาบอกว่าขอดูสิว่าอย่างไร กระทรวงพาณิชย์เก่ามาว่ากระทรวงสาธารณสุขใหม่ ต้องตั้งต้นใหม่ทำใหม่ พอตอนจบก็ดำเนินการกันต่อไป แต่รัฐมนตรีฯ ไชยาฯ โดนสับโดนโขกโดนชี้เดินหน้า โดนเข้าชื่อจะไล่ออกเสียแล้ว ทำไมถึงโดนอย่างนั้น โดนบ่นว่าหมอ รายการผมใส่โฆษณาไว้ เรื่องทุกข์ของหมอ หมอเขามีทุกข์ครับ เวลานี้หมอมีทุกข์ครับ เพราะว่าหมอโดนลงโทษทางอาญาจำคุก 3 ปี หมดเลยครับกระทบกระเทือนหมด เพราะอะไร เพราะในโลกนี้เขาไม่มีการฟ้องคดีอาญาหมอ ไปประเทศไหนก็ไม่มี เขาฟ้องคดีแพ่ง จะแพ่งมากแพ่งน้อยสุดแท้แต่ คดีอาญาไม่มีครับ เพราะเขาคิดว่าหมอมีจิตใจจะมาช่วยรักษาคนไข้ accident อะไรไปก็ย่อมเกิดขึ้นได้ ของพรรค์อย่างนี้ถ้าจะเทียบเคียงกันไป เหมือนบางอาชีพอื่น ทำอะไรต่ออะไรไป ทำอะไรไม่เป็นไรครับ ทำผิดก็ไม่เป็นไรมีกฎหมายรับรองด้วยว่าไปเอาความผิดไม่ได้ แต่หมอไม่มีความต้องการอย่างนี้
มีปัญหาโรงพยาบาลชุมชนไม่กล้าผ่าตัดคนไข้ต้องส่งให้โรงพยาบาลใหญ่
ท่านทั้งหลายครับ ตัวหนังสือตัวเลขที่เขารายงานเข้ามา ปีนี้สอบเข้าหมอได้ 100 คน ไม่ยอมเข้า 25 คน แต่ก่อนแย่งกันนั่งรอว่าใครจะถอน ออกไป 25 คนไม่รับ ตามสถิติมีคนหนึ่งไม่เรียนหมอครับ ไปเรียนนิติศาสตร์ สอบได้หมอแล้วครับไปเรียนนิติศาสตร์ต่อ เพราะอะไร กลัวกันหมด กลัวเกรงกันหมด ไปอ่านคำพิพากษาสิครับว่าน่ากลัวอย่างไร หมอจบมา 2 ปีรู้ว่าตัวไม่มีความสามารถ ต้องระมัดระวังยิ่งกว่าธรรมดา รู้ว่าไม่มีวิสัญญีแพทย์จะไปทำอย่างนั้น ทราบไหมครับโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ 720 โรงมีวิสัญญีแพทย์โรงเดียวอยู่ที่อุดรธานี อีก 700 กว่าโรงไม่มีครับ แล้วกำลังนี้เกิดอะไรขึ้น โดนจำคุก 3 ปีเพราะเหตุการณ์อย่างนี้ หมดเลยครับ โรงพยาบาลชุมชนไม่มีใครกล้าผ่าตัด ส่งเข้าไปโรงพยาบาลใหญ่หมด แต่ก่อนมี 20 เกือบ 30 ราย เดี๋ยวนี้มี 200 รายครับ ต้องไปโรงพยาบาลใหญ่หมด เพราะหมอเชี่ยวชาญอยู่ที่นั่น หมอทำใหม่ 1 ปี 2 ปี 3 ปี ทำไม่ได้ ภาษาฝรั่งการไปปฏิบัติงานเขาใช้คำว่า practice medical practice แปลว่าไปทำงานเป็นหมอ practice ทุกวัน อายุเท่าไรก็ยังต้อง practice เป็น medical practice เพราะมันใหม่มันมาต้องทำอยู่เรื่อย
เล่าทุกข์ของหมอให้คนทั้งประเทศได้ฟัง
โดนเข้าไปอย่างนี้หมดเลยครับ ถ้าไม่วานคนอย่างผมเป็นนายกรัฐมนตรีมาช่วยบ่น แล้วจะทำอย่างไรครับ จะนั่งงึกงักกันอยู่อย่างนั้นหรือ ผมต้องมาช่วยเพราะเขาเสนอกฎหมาย อย่างน้อยก็มีกฎหมายให้หน่อยว่าไม่ได้คุ้มครองนะ แต่ให้ว่าถึงดีกรีไหนตรงไหนถึงค่อยเอา ถึงค่อยอย่างไร กฎหมายจะเข้าสภาฯ ครับ ต้องมาเล่าให้ฟังก่อน วันนี้ผมใส่หัวข้อว่า “ทุกข์ของหมอ” เขาทุกข์จริง ๆ ครับ เป็นทุกข์ของหมอทั้งประเทศ แล้วเขาจะทำการอย่างกับใคร จะมาหยุดจะมาสไตรท์เขาไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ แต่เขามีความทุกข์ แล้วความทุกข์ของหมอมาถึงคนเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่เอาความทุกข์ของหมอมาเล่าให้คนทั้งประเทศฟัง แล้วจะทำอย่างไรครับ นี่เป็นช่องทางที่ดีที่สุด ขอบพระคุณท่านทั้งหลายครับที่เขาบอกว่าท่านอุตส่าห์ฟังพระเทศน์แล้วก็ต่อมาฟังผมคุย ผมก็พยายามครับ 1 ชั่วโมงกำลังดีอย่าให้มากอะไรกว่านี้เลยครับ เขายกป้ายเวลาจวนหมดแล้ว หาเรื่องตอบคำถามครับ ถ้าไม่ตอบคำถามไม่มีเรื่องครับ แต่ว่าตอบคำถามก็ไม่อยากให้มีเรื่องละครับ แต่ว่าดูหน่อย
คำถาม เรื่องรถไฟอยากให้มีมาตรฐาน แก้ปัญหารถด่วนที่มาแทนรถธรรมดา รถชานเมือง
นายกรัฐมนตรี จะบอกให้ฟังครับ เรื่องนี้ผมต้องนึกชื่อคุณบรรยง ศรลัมพ์ รถไฟเราจะเป็นรางเดียวครับ รถไฟนี้รถด่วนต้องไปก่อน รถหวานเย็นต้องไปทีหลัง เวลารถหวานเย็นไปเขามีรางหลีก รางหลีกนี้ 500 เมตรทั้งนั้นครับครึ่งกิโลเมตร แล้วรถไฟ 1 ขบวนไปจอดรอ ให้รถด่วนไปก่อนแล้วค่อยออกไป ตามรถด่วนเขาไป นี่ธรรมเนียมไทย แต่ว่าคุณบรรยง ศรลัมพ์ ท่านเป็นผู้ว่าการรถไฟที่ก้าวหน้าครับ ท่านเล่าให้ผมฟังบอกว่า ท่านคิดแก้ไขปัญหา คือแทนที่จะ 500 เมตร ท่านทำรางรถไฟเข้าไปเลย 10 กิโลเมตร วางรางคู่ไปเลย 10 กิโลเมตร พอถึงรถหวานเย็นไป รถด่วนมาทีหลัง อันนี้ก็ออกมา แทนทีจะจอดรอ ไม่จอด วิ่งกึ้ง ๆ ๆ ๆ ลดระดับ วิ่งระดับไป วิ่งไป 10 กิโลเมตร รถด่วนมาก็ไปแล้วเดี๋ยวก็เลี้ยวออก นี่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ เล่าให้ฟังไว้
คำถาม สถานีรถไฟหัวลำโพงตัวเรือดเยอะมาก แนะนำให้ใช้เปลือกทุเรียนเฉือนบาง ๆ 1 เซ็นติเมตรใส่ไว้ใต้เบาะ ฉีดยาไม่หาย สิ้นเปลือง
นายกรัฐมนตรี ผมเพิ่งเคยทราบครับ ผมสมัยเด็ก ๆ ก็โดนเรือดกัด เรือดเป็นของคู่บ้านคู่เมืองมาแต่ก่อน มันชอบอยู่ตามอะไร ตามเบาะรื้อออกมามันก็แอบอยู่ตรงนั้น ในมุ้งในอะไร มุ้งแต่ก่อนนี้ตื่นมาตอนเช้าบีบ ไม่เอามาบี้หรอกบีบทั้งอย่างนั้นแล้วเอามุ้งไปซัก มันเป็นของมีอยู่ มันชอบความอับความสกปรก แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเรือดเพราะเราไม่ใช้มุ้งอย่างหนึ่ง แล้วที่นอนของเราก็คงจะออกแบบอะไรกันมา ยังมีอยู่ตามบ้าน แต่ที่รถไฟมีใครเอาใจใส่ เรื่องนี้แก้ไขได้ครับ ความจริงไม่น่าต้องหยุด 15 หรอกครับ แต่เขาจะเปลี่ยนเบาะใหม่ ทุกคนก็ช่วยกันทำ ดีแล้วครับเรื่องเรือดนั้น อย่าลืมนะครับนักเรียนทั้งหลาย สระเอ ร.เรือ นะครับ เขียน ร.เรือ ล.ลิง ส. เสือ ลายมือถั่วงอกวันหลังจะจัดการเรื่องนี้ เรือดนี้ ร.เรือ ครับ ตัวเรือด ริ้น ไร ร. เรือทั้งนั้น
คำถาม คุณสุมาลี นนทบุรี เป็นแม่ค้าอยากทราบว่าจะมีนโนบายขายของวันจันทร์ - วันเสาร์ - อาทิตย์ หรือไม่
นายกรัฐมนตรี เรื่องนี้น่าสนใจจริง ๆ ตอนผมหาเสียงเลือกตั้งบอกว่าถ้าเป็นรัฐบาลแล้วให้ขายของวันจันทร์ — วันอาทิตย์ได้ จะบอกให้ฟังครับ ขายของวันจันทร์ ผมบอกให้ฟังว่าเป็นนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเขา สมัยก่อนผมมาเป็นผู้ว่าฯ เขาที่นั่นบอกว่าเขาหยุดวันพุธ เขาขายหยุดวันพุธ ผมบอกว่าเลือกผม ผมไม่ค่อยหยุด ผมเลือกวันพุธ ผมมาอยู่ 4 ปีเขาขายกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะกินทุกวันนี่ครับ นี่มาหยุดวันจันทร์ ผมก็ถามว่าช่วยสังเกตหน่อยสิว่าวันจันทร์ผู้ว่าฯ เขาไม่กินข้าวหรืออย่างไร ค้าขาย อะไรกันนักหนา บอกว่าจะล้างถนน ก็ล้างบางถนนล้างให้เห็นหน้า ความจริง 90 เปอร์เซ็นต์ไม่ล้างหรอกครับ จะหยุดเพราะนโยบาย ผมถามครับว่าถ้าขายวันจันทร์จะมีใครตายไหม นี่สำนวนสมัคร ถามเลยว่าถ้าขายวันจันทร์จะมีใครตายไหม แม่ค้าบอกถ้าจะหยุดจริง ๆ แม่ค้าบอกหยุดวันอาทิตย์สิจะได้อยู่กับลูกกับผัว ไปหยุดทำไมวันจันทร์ เห็นไหมนี่แสดงว่าไม่สนับสนุนนโยบายรัฐบาล รัฐบาลเขาบอกว่าวันอาทิตย์วันครอบครัว เอาสิให้เขาหยุดวันอาทิตย์ เรื่องพรรค์อย่างนี้เรื่องอาหารการกินเขาไม่หยุด เขาไม่ปิดกัน ตรุษจีนบางร้านอาหารเขายังเปิดให้เลยสมัยนี้ เห็นไหมครับ หยุดวันจันทร์เพราะอะไร พูดไปเดี๋ยวก็จะว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ก็คนแต่ก่อนนี้เขาหยุดวันพุธ แล้วทำไมนายสมัครไม่ต้องหยุดเลย ทำไมอยู่กันมาได้ 4 ปี พอเปลี่ยนเข้ามาใหม่ต้องหยุดวันจันทร์ มีเหตุผลไหม ไม่มีเหตุผล ทำไปอย่างนั้นครับ แต่ว่ากำลังนี้ต้องพูดกับรองผู้ว่าฯ ครับ รองผู้ว่าฯ เขารักษาการ ลองพูดกับรองผู้ว่าฯ ดูสิว่าจะเลิกหยุดวันจันทร์ได้ไหม เขาได้ทำมาหากิน วันคนมาทำมาหากิน คนออกจากกระทรวงออกจากอะไรต้องไปกินข้าว หยุด ไม่มีหมด ตามร้านขายได้ แล้วร้านราคาเท่าไร ร้านราคา 35 ที่นั่นราคา 20 ร้านราคา 30 ที่นั่นราคา 20 เข้าร้านกันหมด ไม่เข้าท่า เข้าไปอยู่ซอกแซกในซอกในซอยก็ตามไปไล่เขา ที่ก้นซอยต้นสนคนอย่างกับหนอน ก็อยู่ตึกใหญ่โตมโหฬารแต่ก็ออกมาเวลากินข้าว ต้องมาหาที่เล็กทั้งนั้น ต้องกิน 20 - 30 บาท ต้องกินตรงนี้ทั้งนั้น ไปไล่หยุดเขา มีเหตุผลไหม ไม่มีเหตุผลเลย สกปรกเขาก็ไม่ได้สกปรก เกะกะก็ไม่ได้เกะกะ ก้นซอยต้นสนเข้าไปตั้งเกือบ 1 กิโลเมตร 800 กว่าเมตรแล้วไปห้ามเขาขาย ไม่มีเหตุผลครับ ผมบอกได้เลยว่าคณะบริหารที่กำลังทำนี้ไม่มีเหตุผลที่หยุดวันจันทร์ จะอ้างอะไร ถ้าสมมติให้ขายวันจันทร์จะมีใครตายไหมที่กทม. มีไหม ป่วยกันทั้งนั้นไหม ไม่หรอกครับ ก็ดีพ่อค้าแม่ค้าเขาจะได้ขายกันได้ อยู่ดี ๆ ไปตัดรอนเขาไม่เข้าท่าจริง ๆ ต้องบอกแม่ค้าไว้ว่า ผมพูดได้เท่านี้ครับ เพราะนายกรัฐมนตรีก็อยู่ประเทศ แต่เขาเรียกว่าการปกครองส่วนท้องถิ่น นโยบายเขาเป็นอย่างนั้น ความจริงผมยังอยากจะทำที่ว่าช่วยแม่ค้าหน่อย จะให้กระทรวงมหาดไทยเขาหารือ ผู้ว่าฯ ไม่อยู่ รองผู้ว่าฯ อยู่ จะวานรัฐมนตรีฯ เฉลิมฯ ลองเจรจา บอกขายวันจันทร์จะมีใครป่วยตายอะไรที่กทม.ไหม ผมจะลองดูครับ
คำถาม ขอให้นักวิชาการนักวิจารณ์ช่วยหยุดสัมภาษณ์วิจารณ์สัก 6 เดือน รัฐบาลทำงานก่อน
นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องครับ วิจารณ์ได้ เมื่อเช้าฟังท่านสันติกโร (สันติกโรภิกขุ) แล้ว ผมก็คิดอย่างเดียวกัน คือท่านเป็นพระมาก่อน เป็นพระฝรั่งครับแล้วมาพูด คือเขาวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นไรครับ ผมทนได้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะให้ดูว่าผมจะทนได้อย่างไร มีเพลงหลวงวิจิตรฯ มาให้ได้ดูวันนี้
คำถาม รถไฟรางคู่จากมักกะสัน หัวหมาก จะดีมาก
นายกรัฐมนตรี อันนี้แน่นอนครับ 100 เปอร์เซ็นต์ลงมือแล้ว มาจากฉะเชิงเทรา มาเริ่มต้นเข้ามาตั้งแต่ทับช้าง หัวหมาก เข้ามาเลย คู่เลยครับ ยกระดับบ้างอยู่ข้างล่างบ้าง แล้วรถไฟเป็นรถไฟที่สั่งเข้ามาเพื่อการรถโดยสารชานเมือง พวกนี้อยู่บนราง 1 เมตรเหมือนเดิม ทำได้เร็วลงมือแล้วครับ แล้วจะมาต่อเชื่อมกับสถานี 1.435 อันนี้ลงมือได้ทันทีครับ เสร็จภายใน 42 เดือน ลงมือแล้ว
คำถาม อยากให้ท่านนายกฯ ช่วยเรื่องเงินก้อนของผู้สูงอายุ เงินก้อนของผู้เกษียณอายุก่อนราชการ กระทรวงกลาโหม ช่วยเรื่องเงินก้อนของผู้เกษียณอายุ
นายกรัฐมนตรี ต้องไปอ่านให้ชัดเจนหน่อยครับ อ่านแล้วไม่เข้าใจจริง ๆ ผมจะไปดูให้เรื่องนี้ครับ
คำถาม อยากทราบว่าโครงการผันแม่โขงดำเนินการอย่างไร
นายกรัฐมนตรี จะประชุมเรื่องนี้ ผันแม่น้ำโขง ฟังแล้วเหมือนกับไปขุดแม่น้ำโขงเข้าประเทศไทย ไม่ใช่หรอกครับ น้ำโขงมันขึ้นมาสูงเกินจาก 3 เมตร เราจะขอใช้สิทธิของเราทำเป็น tunnel เข้ามาแล้วมาทำอ่าง แล้วเก็บในอ่าง 4 เดือนที่อีสานต้องการใช้จะใส่ท่อแล้วจะคลุมลงไป อันนี้มีเหตุผลครับ แล้วอย่าไปพูดว่าผันแม่น้ำโขง น้ำมันล้นทิ้งลงทะเลไป เราเอาที่ล้นเข้ามาใช้บ้านเรา ดำเนินการแน่นอนขออย่าห่วงเรื่องนี้ แต่มีหลายคนเป็นศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บอกเพียงแต่คิดก็โง่แล้ว แล้วจะทำอย่างไรครับ ให้มันแล้งต่อไปอย่างนั้นหรือ พวกคนไม่มีความคิดนี่ละครับ ชอบมาเสนอความเห็นชนิดที่ว่านึกว่าตัวเองแน่ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ก็เป็นไปเถอะครับ แต่มาเสนอความคิดแบบว่าเพียงแต่คิดจะเอาน้ำมาให้เราก็โง่แล้ว มันแย่จริง ๆ ผมยืนยันลงในหนังสือพิมพ์ ฉบับไหนที่ลงโฆษณาให้เขาลองไปอ่านดูด้วยครับ ลงบทความให้เขา ลงท้ายเลยบอกว่า เรื่องการผันน้ำอย่างที่นายสมัครคิด เพียงแต่คิดก็โง่แล้ว จะดูสิครับว่าใครโง่ใครฉลาดกันแน่ ถ้าผมมีโอกาสได้ทำงานให้บ้านเมืองนี้ต่อไป ที่ต้องย้ำตรงนี้เพราะว่าเขาจะให้มันยุบพรรคกันวันไหนยังไม่รู้ได้ ยังไม่จบครับ ขบวนการตามล่าตามล้างยังไม่จบ ยังพยายามกันอยู่ คือบอกไว้อย่างนี้ไม่ต้องการอะไรหรอกครับ คนอย่างผมได้เคยยืนยันไว้แล้วว่าต้นทุนน้อย ต้นทุนต่ำไม่เป็นไร ก็เป็นอยู่ธรรมดา แต่น่าสงสาร น่าเสียดายบ้านเมืองนี้ กว่าจะมาถึง กว่าจะตั้งตัวได้ ทั่วบ้านทั่วเมืองเขาหันหน้ามาแล้วกำลังจะดำเนินการ อ้าว จะถูกฆ่าเสียให้ตายแล้ว ใครคิดจะฆ่ารัฐบาลนี้ให้ตาย ใครคิดจะล้มล้างรัฐบาลนี้ ใครคิดจะยุบเลิกรัฐบาลนี้ พรรคนี้ ขอให้ใคร่ครวญดูหน่อย ผมไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัวผม ผมอยากเรียกร้องให้คิดถึงบ้านเมืองบ้าง ให้คิดบ้างครับ
แล้วถามว่าอย่างผมเป็นอย่างไร จะให้ดู วันนี้ที่จริงผมร้องได้ครับ แต่ว่าขอเขา วันนี้ขอคุณโฉมฉาย บอกผมกลัว 2 -3 บรรทัด กลัวจะอ่านเข้าใจผิด ความจริงผมมาตรวจแล้ว แสดงว่าผมเข้าใจถูก ผมเข้าใจคือจำได้หมด สมเด็จย่าท่านบอกไว้ว่าถ้าเรารู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ ให้ดูคนที่เขาเดือดร้อนยิ่งกว่า เรามีทุกข์ขนาดไหน ให้ดูคนที่เขาทุกข์ยิ่งกว่า เราจะได้ไม่ต้องไปทุกข์ทนขนาดอย่างนั้น ผมมีทุกข์กำลังนี้ ผมทุกข์เรื่องบ้านเมืองของผม ผมทุกข์เรื่องบ้านเมืองว่ากำลังจะเดินหน้าออกไป แต่กำลังจะมีคนที่จะฆ่าพรรคการเมืองที่บริหารอยู่ ให้สิ้นสุด จะมีคนยื้อยุดฉุดกัน จะต้องทำให้บ้านเมืองเหมือนกับว่าไม่น่าไว้วางใจ เพราะเขาบอกว่าจะเป็นรัฐตำรวจแล้ว กำลังจะจัดการ จะทำอะไรต่ออะไรเลวทรามต่ำช้า ถึงขนาดนัดกันมาแล้ว นัดกันมาแล้ว ยังไม่ถึงวันที่บอกแล้วว่ามา 30,000 เห็นไหมครับ แล้วคนที่ไปเคยปลุกระดมเอามาช่วยเขา ท่านลองดูสิ ท่านจะฟัดใครวันไหนอย่างไร ย้ำนะครับว่า ยังโยกย้ายข้าราชการอยู่ เพราะถ้าไม่โยกย้ายอย่ามาอาสาทำการเมือง ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะเปลี่ยนไป 4 คนเท่านั้น แต่เวลานี้เขาไม่รู้นโยบายใคร อาศัยขอให้ทำข่าว จะย้ายโน่นจะย้ายนี่ เห็นไหมแต่ก่อนนี้
เพลงโชคมนุษย์ ของหลวงวิจิตรฯ (พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ) เนื้อท่านบอกอย่างนี้ครับ โลกมนุษย์นี้ไม่มีที่แน่นอน ประเดี๋ยวเย็นประเดี๋ยวร้อนช่างแปรผัน โชคหมุนเวียนเปลี่ยนไปได้ทุก ๆ วัน สารพันหาอะไรไม่ยั่งยืน ชีวิตเหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่ ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน ต้องจำฝืนสู้ภัยไปทุกวัน เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์ แต่คนที่ควรชมนิยมกัน ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา
ท่านทั้งหลายที่เคยร้องเพลง นึกถึงสุนทราภรณ์ออกไหมครับ ชีวิตเหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่ นี่ละครับ เห็นไหม เป็นงานง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์ แต่คนที่ควรชมนิยมกัน ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา วันนี้ไม่ได้มีดนตรีครับ ร้องให้ฟังอย่างนี้ เนื้อเพลงนี้อยู่ในใจผม เหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่เวลานี้ ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน นี่เขาแดกดันกันทุกวันทุกฉบับ ทุกคอลัมน์ ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืนครับ ต้องจำฝืนสู้ภัยไปทุกวัน เพราะว่าไม่รู้ว่าพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบวันไหน คิดดูแล้วกันครับ ใครจะนิติศาสตร์ ใครจะรัฐศาสตร์ ลองตรองดูบ้างครับ ว่าจะให้บ้านเมืองบรรลัยวายวอดลงไปต่อหน้าต่อตา ด้วยการอ้างถ้อยคำเอานิติศาสตร์จะเอากันให้เป็นให้ตาย ก่อนจะทำอะไรก็คิดถึงบ้านเมืองบ้างแล้วกันนะครับ วันนี้เวลาหมด อาทิตย์หน้าพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
รายการ “สนทนาประสาสมัคร"
โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11
และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551 เวลา 08.30-09.30 น.
------------------------------------------
เดินทางเยือนสหภาพพม่า
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ สนทนาประสาสมัคร กลับมาพบเหมือนอย่างเคยนะครับ 08.30 น. เช้าวันอาทิตย์ อาทิตย์ที่แล้วจะไม่เอารายละเอียดอื่น ๆ ไป เพราะอยากจะใช้เวลาเล่าเรื่องการเดินทางไปประเทศพม่า เรื่องของพม่านั้น กระทรวงการต่างประเทศของเรามีความระมัดระวังอยู่ แต่ก็มีความกล้าหาญขึ้นกว่าเดิมเยอะ ผมเองเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งเขากำลังจับจ้องพม่ากันอยู่ เขาบีบเขาคั้นอะไรกันอยู่ ผมบังเอิญศึกษาเรื่องพม่ามาเยอะ ศึกษาเรื่องพม่า 60 ปี เพราะฉะนั้น ก็ลองซ้อม ๆ คุยกับท่านทูตสหรัฐอเมริกา คองเกรสแมนจากสหรัฐอเมริกา มา 6 คน ก็คุย ท่านผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก มาก็คุย มาถึงChristopher Hill ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาก็คุย คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) มาก็คุย พวกนี้สนใจเรื่องพม่าทั้งนั้นครับ ผมก็บอกว่าผมจะไปพอดี ขนาดว่าท่านนายกรัฐมนตรีพม่า พลเอกเต็ง เส่ง จะมาเยี่ยมผม ผมบอกอย่า ๆ ให้ผมไปหาก่อน ผมก็บอกพวกนั้นไป เพราะฉะนั้น ผมกลับมาเขาก็ต้องอยากรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
หารือกับผู้นำพม่า
ผมก็อยากจะเล่าให้ฟังแต่เพียงว่า ผมจะไม่รุกล้ำก้ำเกินสถานะของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเขาดูแลชื่อเสียงของประเทศไทยอยู่ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีเข้ามาคนเดียว แต่ผมไปทำสิ่งซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยคนอื่นไม่เคยทำ ผมได้สนทนากับผู้คน ตั้งแต่ระดับเบอร์ 1 เบอร์ 2 เบอร์ 3 เขาให้สนทนา 1 ชั่วโมง ผมสนทนาเกือบ 2 ชั่วโมง คุยกันต่อหน้ามีพยานฟังเสร็จเรียบร้อยเลย แต่ผมก็บอกเขาไว้ว่า ผมจะเอาไปคุยกับคนซึ่งเขาไม่เข้าใจพม่า ฝรั่งชอบสอน มีสุภาษิตบอกว่า ให้ดูเหรียญทั้งสองข้าง ไปดู Another side of the coin แต่พวกฝรั่งมังค่าทั้งหลายก็ดูเหรียญอยู่ข้างเดียว ผมไปครั้งนี้ผมก็ไปดูเหรียญอีกข้างหนึ่ง เพราะฉะนั้น ผมก็ควรจะมีสิทธิ์ที่จะคุยว่าเหรียญอีกข้างหน้าตาเป็นอย่างไร สุภาษิตไทยบอกว่าเส้นผมบังภูเขา อยู่ตรงนี้บังแล้วมองไม่เห็น แต่เรื่องพม่า ภูเขาบังเส้นผม คือถ้าไม่ปืนภูเขาข้ามฟากไปก็หาเส้นผมไม่เจอหรอกครับ ความจริงผมหาเจอทั้งแต่แรก ผมคุยกับทางผู้คนก่อน แต่บอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อผม ผมไปคุยกับเจ้าของเรื่อง เขายืนยันว่าเป็นความจริง เข้าใจจริง ๆ ถ้าหากไม่มีตรงนี้เขาก็พร้อมจะดำเนินการ ผมก็จะต้องคุยกับผู้คนทั้งโลกเลย ใครสนใจ ผมจะคุยกับเขา แต่จะไม่มาประกาศเอิกเกริกตรงนี้นะครับ เพราะมีคนเขาคอยพร้อมจะไม่สบายใจ ผมก็จะทำให้ทุกคนได้สบายใจ
พม่าเป็นเมืองพุทธ
เมื่อเช้าใครดูโทรทัศน์ช่อง 9 ไม่ใช่ครับ GNN ช่อง 7 ยูบีซี เชิญท่านสันติกโร มา ผมว่าเมื่อก่อนท่านเป็นพระ แล้วท่านสึกมาอย่างไรไม่ทราบ เมื่อเช้าพูด ฝรั่งพูดไทย เป็นคนอเมริกัน พูดจาดีครับ ผมก็เดินเฉียดได้ยืนฟังไม่กี่นาที ก็ดีครับ คือสรุปแล้วท่านบอกเลย มันอยู่ที่ใจเราเท่านั้นเอง สำคัญอยู่ที่ใจเรา ใจมันร้อนรน จะคิดอะไร นึกถึงใจเราเสียก่อน แล้วท่านพูดถึงที่ชอบใช้บ่อย ๆ คือเรื่องพระพุทธเจ้าตรัสรู้อริยสัจ 4 อย่างนี้นะครับ ถ้าผมสนทนากับท่าน ผมจะคุยเรื่องกถา เจธรรม ผมจะคุยเรื่องอะไรต่าง ๆ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เห็นได้ชัดเจนครับ ที่พูดตรงนี้มา ไปพม่าเมืองนี้เขาเป็นเมืองพุทธ แล้วคนเมืองพุทธเป็นอย่างไร ถูกต้องครับ การฆ่ากันตาย การปราบปรามคงมีธรรมดา วันนี้จีนก็พุทธเหมือนกัน ก็ปราบปรามอยู่ที่ทิเบต เป็นข่าวเอิกเกริก พม่าก็เป็นข่าว แต่เรื่องพรรค์นี้ต้องรู้ว่าแล้วอะไรเป็นอะไร หัวหน้าพม่าเขานั่งสมาธินะครับ ท่านพลเอก อาวุโส ตาน ฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ นั่งสมาธิ ท่านนายกรัฐมนตรีพม่าจากสนามบินไปนั่งคุยกันครึ่งชั่วโมง ขากลับมาส่งสนามบินคุยอีกครึ่งชั่วโมง คุยการเมือง แล้วท่านก็บอกเลยว่า ท่านนึกว่าสมัครไปถูกเขาหลอก ไม่หรอกครับ
พม่าสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่
เรื่องนี้ฟังเข้าใจง่าย ๆ ท่านบอกท่านตอนเช้าสวดมนต์ทำวัดเช้าก่อน แล้วสวดพระปริตร 4 บท เจ็ดโมงครึ่งแล้วออกไปทำงาน ท่านกินข้าว เสร็จแล้วก็ทำวัดเย็น นี่นายกรัฐมนตรีนะครับ อาวุโสของเขานั่งสมาธิ คุยธรรมะกันได้ ผมคุยธรรมะกัน เรื่องพรรค์อย่างนี้อธิบายให้ฟัง เขาเป็นเมืองพุทธ บ้านเมืองของเขา เขาบอกเขาอยู่ด้วยความสงบ เขาอยู่กันด้วยความสงบเรียบร้อย เล่าเป็ดให้ฟังนิดหนึ่ง เขาบอกต่างประเทศให้เขาไป account โน้น account นี้อะไร นายกรัฐมนตรีพม่าบอกผมไม่มีดอลลาร์สักดอลลาร์เดียว ผมไม่มีบัญชี เขาบอกบัญชีโน้นบัญชีนี้ เขาไม่เดือดร้อน เขาอยู่ของเขาได้ เพราะเขาไม่มีเงินที่จะให้ใครไปยึด ไปดูเมืองปิ่นมะนา (เมืองเนปิดอว์) ผมอ่านแบบของผมนะ คือถ้าจะทำเมืองแบบถ้าทหารพวกนี้จะหากิน ต้องทำเมืองขนาดเล็ก ๆ ทุกอย่างอยู่รวมกันหมด และไปหากินกับที่รอบ ๆ เมืองข้างนอก นี่ทำเมืองใหญ่มหึมา ขับรถสุดลูกหูลูกตา เมืองใหญ่เบ้อเริ่ม ถนนคอนกรีต ไม่มี 2 ช่อง 4 ช่อง 6 ช่อง ถนน 8 ช่อง 10 ช่อง เพียงแต่ยังไม่ตีเส้นเท่านั้นเอง ถนนคอนกรีตผ่าไปกลางทุ่งนา เมืองทั้งเมืองเลย กระทรวงอยู่ห่างกันครึ่งกิโลค่อนกิโล กระจายหมด แปลว่าทำเมืองขึ้นมาทั้งเมือง กำลังสร้างรัฐสภา กำลังสร้างวุฒิสภา เขาบอกเขาทำไว้ให้รัฐบาลที่จะต้องมาบริหารบ้านเมืองต่อไปในวันข้างหน้า เห็นไหมครับ ถามว่ารัฐบาลทหาร ประเทศไทยเคยมีไหม มีครับ คนปฏิวัติมา 75 ปีที่แล้วของเราก็ทหารร่วมกับพลเรือน เรียกว่า คณะราษฎร์ และอยู่ครองมาหมด เราเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบไหมครับ ครึ่งใบ เมื่อ 31 ปีที่แล้วมา เรายังครึ่งใบเลยครับ เพราะฉะนั้น ผมก็สนทนาธรรมกับพม่าเลย บอกเหมือนกับของเราครึ่งใบ เขามีปัญหาอย่างนี้ ๆ บังเอิญเราไม่มี เราก็เดินหน้ามาสบาย ๆ เขามี ถ้าแก้ตรงนี้เขามีให้มันจบ ยอมรับตรงนั้นเสียนิดเดียว ก็จบเรื่องได้ เขาก็คิดอะไรเหมือนกับเรา เขาสร้างเมืองมานี้ คนจะสร้างรัฐสภา สร้างวุฒิสภา สร้างอะไรต่าง ๆ แล้วเขาบอกว่าสำหรับการเมืองที่จะมาวันข้างหน้า 2 เดือนข้างหน้าจะลงประชามติรัฐธรรมนูญ อีก 2 ปีจะเลือกตั้ง เห็นไหมครับ เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าผมมีโอกาสคุยกับพวกทั้งหลายทั้งปวง ผมคุยได้แน่นอนครับ และไม่มีปัญหา และไม่ให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยเดือดร้อนด้วย
คนพม่ากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชเวดากองจำนวนมาก
กลับมา เล่าให้ฟังหน่อยนะครับ ผมไปเครื่องบินทหาร C-130 บินไปปิ่นมะนา 2 ชั่วโมงกว่า เมืองนี้ดูแผนที่แล้วห่างจากชายแดนไทยสัก 50 กิโลเมตร ไม่เกิน 80 กิโลเมตร อยู่ในกลางประเทศพม่า ถ้าประเทศไทยอยู่อย่างนี้ พลิกอีกข้างเป็นพม่า รูปร่างคล้ายกันเลยครับ อย่างนี้ของเรามีกรุงเทพฯ แล้วก็มีสี่เหลี่ยม ถ้าโน้น ถ้าพลิกกลับไป ก็มีแลงกูน ข้างใต้ก็มีสี่เหลี่ยมเหมือนกัน ทางนี้มีอ่าวมะตะบัน ทางนี้ก็มีอ่าวไทย เหมือนกันอย่างกับอะไร เหมือนกันมากเลย เพราะฉะนั้น คนธรรมะธรรมโม ผมไปที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ใหญ่เหมือนกันนะครับ เกือบ 11 ไร่ ตั้งแต่โบราณเลย ทำแล้วเขาก็ปรับปรุงเอาสถานทูตไว้ข้างหน้า ทำอาคารขึ้นมาข้างหลัง เสียไป 130 กว่าล้าน แต่คุ้มครับ เรียบร้อยเลย มีห้องประชุม มีห้องอะไรต่าง ๆ สถานทูตไทยต่อไปนี้จะมี 2 ส่วนอย่างนี้ ก็ไปทำพิธีเปิด ผมก็ไปเปิดให้ได้ใช้ แล้วก็คุยกับทีมไทยแลนด์ ก็สนทนาพอสมควร แล้วก็คุย มีคนไทยมาร่วมงาน คนไทยในพม่ามีประมาณ 500 คน มาร่วมงานหลายร้อย มานั่งฟังสนทนากันตามสมควร ที่น่าสนใจคือว่าก่อนจะกลับขึ้นเครื่องบิน 20.30 น. ไปที่ ชเวดากอง เขาเปิดถึง 22.00 น. ไปเห็นแล้ว ผมก็เทียบอยู่ในใจเสมอ คือในชีวิตผม เกิดมาเคยเห็น ไปพม่าก็ไปท่าขี้เหล็ก ไปเชียงรายข้ามไปท่าขี้เหล็ก ไปพม่า ไปแม่สอด ข้ามสะพานเข้าไปใหม่ ๆ ยังไม่ถึงเมียวดีเลยครับ นั่นละพม่าของผม ทีนี้ได้ไปเห็นเมืองหลวงใหม่ ได้ไปเห็นเมืองหลวงเก่า และไปชเวดากอง พอไปถึงชเวดากองแล้วนึกถึงนครปฐมของเรา ถูกไหมครับ ก็คล้าย คลึง ที่จะต้องบอกความเห็นหน่อยคือว่า เราก็พุทธ เขาก็พุทธ แต่คนพม่าไปกราบไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเขา เขาทำยิ่งกว่าเรา เพราะสถานที่เอื้อเฟื้อ คือตัวชเวดากองอยู่บนเนิน มีการขึ้นไปแล้ว ตัวที่เขาเรียกว่าบริเวณรอบ ของเรามีงานวันนครปฐมเดือนพฤศจิกายน ผู้คนหนาแน่นหน่อย แต่นอกนั้นแล้วเขาก็ไหว้กันหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ ไม่มีใครไปเดินไปปูผ้าไหว้กัน ไม่มีหรอกครับ แต่นี่ข้างในคนออกแบบ เขาทำ 2,000 กว่าปี เพราะฉะนั้น บริเวณที่แยกออกไป กว้างขวาง และทำสิ่งตกแต่งอะไรมากมาย คือดูแล้วก็ผู้คนไปมีชีวิตชีวาอยู่รอบองค์พระเจดีย์ นครปฐมของเราใหญ่โตสวยงาม สง่างาม แต่เงียบสงบ อาจจะเป็นคนไทยคิดว่า ความเงียบสงบเป็นการที่จะแสดงความคารวะอะไรก็สุดแท้แต่ แต่นี่เขาก็มีเสียงสวดมนต์ คือผู้คนไปกันเต็ม ปิดสี่ทุ่มแปลว่าอะไร แปลว่าเขาต้องเฉลี่ยคน แล้วตอนเย็น ๆ จะแดดหมด ตอนกลางวันร้อนหน่อย ทั้งหมดความสวยสดงดงามนี่ละครับ ที่เป็นการที่เขาให้ตรงรอบองค์พระมีชีวิตชีวาอยู่ เท่านั้นครับ ออกความเห็นหน่อย
เชื่อมเส้นทางขนสินค้ากรุงเทพฯ —กาญจนบุรี-เมืองทวาย
เรื่องของพม่าจะเล่าเท่านี้ แต่จะเล่าเรื่องนี้หน่อย เจรจาความกันเสร็จเรียบร้อย พูดจาการเมืองกันเสร็จ การบ้านไม่เป็นปัญหาเลยครับ เรื่องชายแดนอะไรก็พูดกันพอสมควรแก่เหตุ แต่ว่าเราอยากจะทำเรื่องเขื่อน มีเขื่อนฮัตจี เขื่อนอะไรอีกเขื่อน 2 เขื่อนนี้ 7,000 เมกะวัตต์อันหนึ่งกับ 1,000 กว่าอันหนึ่ง ท่านอาวุโสตาน ฉ่วย บอก ควรจะทำตรงนี้ ๆ บอกทำแล้วหาคนมาลงทุนทำเลย แล้วพม่าจะใช้ไฟก็ใช้น้อย แต่ว่าให้ไทยใช้ เพราะไทยเจริญ ธุรกิจเจริญ ต้องการไฟ มาทำเลย เพื่อนบ้านเป็นอย่างนี้นะครับ แล้วก็ขุด ของเราไปลงทุน M 9 ได้แหล่งก๊าซใหม่ ผมก็เจรจาความขอให้มีการเซ็นสัญญาตกลง พม่าบอกจะขอเอาขึ้นไปใช้ที่ทางแลนกูนหน่อย ผมบอกไม่มีขัดข้องเลย ก็ซักซ้อมกันไปแล้วว่า พม่าเขาไม่มีแรงจะมาทำต่อท่อขึ้นไปใช้ บอกไทยต่อให้ บริษัทไทยต่อให้คิดหักค่าก๊าซวันข้างหน้า อย่างนี้ไม่เป็นปัญหา แต่ที่น่าตื่นเต้นคือว่าเราจะทำแลนบริดจ์ข้ามไปข้ามมา ทางพม่าบอกว่าเมืองทวายนี่ไง เมืองทวายอยู่ห่างชายแดนไทย 130 กิโลเมตร ถ้าสำรวจทำท่าเรือน้ำลึกตรงทวาย ไม่ต้องเอิกเกริกมากมาย ขนคอนเทนเนอร์กับสินค้าอย่างเดียวเท่านั้นเอง 130 กิโลเมตร เรากำลังจะมีโครงการตัดถนนไปเมืองกาญจน์ ออกจากปลายถนนรัตนาธิเบศร์ตรงระหว่างบางใหญ่กับบางบัวทอง ตรงเลย 80 กิโลถึงเมืองกาญจน์ ถ้าเอา 130 บวก 80 เป็น 210 กิโล ถึงกรุงเทพฯ ถนนเราก็มี วงแหวนเราก็มี ถ้าวงโน้นไปถึงประตูน้ำพระอินทร์ ไกลไปหน่อย ก็ทำอีกวงหนึ่ง ยกระดับ ขนแต่สินค้าอย่างเดียว ก็อ้อมกรุงเทพฯ ก็ไปออกแหลมฉบัง 100 กิโล แหลมฉบังมีท่าเรือน้ำลึกอยู่แล้ว ถ้าหากว่าทวายมีท่าเรือน้ำลึก ระยะทางไม่เกิน 300 กิโล ก็เชื่อมกัน ขนคอนเทนเนอร์ ขนสินค้าอย่างเดียวเท่านั้นก็เหลือแหล่แล้วครับ คนทางเอเชียอยากไปยุโรปเร็ว ก็ผ่านทางนี้ ถึงบอกคงไม่ค้อนควักอะไรครับ ถ้าเขามีการว่ายอมขนทางนี้ขึ้นแล้วลากไปทางนี้ ทางด้านมาจากยุโรปขนมาทางนี้ ใครลองคิดสิครับ เมืองทวายกับสีชัง น่าคิดนะครับ ไม่ใหญ่โตเอิกเกริก เป็นเส้นทางตู้คอนเทนเนอร์ที่จะผ่านอย่างเดียว เรื่องนี้คิดก็ดำเนินการ ผมบอกว่าทางไทยเราก็ใช้ผ่านนักธุรกิจเป็นคนลงทุนมาก พูดกันหมดครับเรื่องโน้นเรื่องนี้เรื่องอะไรต่าง ๆ พูดกัน แม้กระทั่งเรื่องผู้คนเรื่องการพิสูจน์สัญชาติคน เรื่องการทำงาน การค้าขาย เรื่องพรหมแดนที่มีปัญหา ก็จะได้เจรจากันต่อไป ท่านผู้บัญชาการทหารบก (พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา) ไปด้วย เจ้าหน้าที่ระดับเกี่ยวกับพรหมแดนไปด้วย มีอะไรก็ถามได้คุยกันได้ ไม่เป็นปัญหาเลยครับ เพราะว่าคุยกันเรื่องการบ้านการเมืองระหว่างประเทศ ผมไปรับฟัง ผมไปดูเหรียญอีกข้างหนึ่ง และต่อไปนี้ผมก็คุยกันเรื่องธุรกิจของเรา ทุกอย่างก็ราบรื่นดี
สร้างสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน
ผมมาพูดที่สถานทูตไทย ต้องสรุป ผมบอกเรามีเพื่อนบ้านอยู่ 3 ทิศ มีทาง สปป.ลาว กัมพูชา พม่า ในลาวเราไปลงทุนไปทำน้ำเทิน 1 น้ำเทิน 2 น้ำเทิน 3 จะไปทำเหมืองแร่เหล็กกำลังนี้ จะทำโรงงานทำอลูมินั่มที่นั่น เขาเปิดให้เราใช้เข้าไปทำในนั้น ทางกัมพูชาก็เปิดเข้าไปเพาะปลูกไปทำอะไรกันมากมาย เป็นกี่แสนเฮกตาร์ ไปปลูกอ้อย ข้าวโพด ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ในพม่าก็ทำในเรื่อง Contract Farming เข้ามาปลูกเหมือนกันครับ เราไปปลูกเขาเหมือนกันครับ แก๊สก็ซื้อเขา ทั้งหลายทั้งปวงคือว่าเวลาที่ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมต้องเอื้อนเอ่ยกับเพื่อนร่วมแผ่นดินทั้งรอบ ๆ เราทั้ง 3 ผมไป สปป.ลาว ผมก็บอกความมั่นคงของลาวคือความมั่นคงของไทย ไปกัมพูชาก็บอกความมั่นคงของกัมพูชาก็คือความมั่นคงของเรา ไปพม่าก็ต้องบอกความมั่นคงของพม่าคือความมั่นคงของไทย เพราะอะไรครับ เพราะของเรา เราอาศัยทรัพยากรจากประเทศเพื่อนบ้านมาทำความเจริญให้เรา ทั้ง 3 ด้านเลยครับ ถ้าผูกสัมพันธ์กันไว้ขนาดนี้ แล้วจะมาเอาเรื่องเอาราวกันขนาด รัฐบาลทหารไปซื้อก๊าซเข้ามาก็ด่า จะทำท่อก๊าซก็ด่า อะไรเสียทั้งหมด ที่นี่ที่นั่นปักธง นี่ทำไม่ได้ ขุดไม่ได้ เหมืองแร่โปแตสกี่ปี ๆ เอ็นจีโอไปปักธงไว้แล้ว ห้ามไม่ได้ แต่ก่อนนี้ตันละ 140-160 เหรียญ เดี๋ยวนี้ตันละ 400 เหรียญ ก็ยังปักธงเอ็นจีโอ ขุดไม่ได้ทำไม่ได้ แล้วไปเพื่อนบ้าน ทำไมเขาทำ ลาวให้เราทำได้ ในกัมพูชาให้ทำได้ ในพม่าก็ให้ทำได้ ถามดูสิครับว่า นี่ไมตรีความผูกพันกันระหว่างเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่รั้วติดกัน 3 รั้วเลยครับ
พม่าขอให้ไทยช่วยวางท่อก๊าซ
ผมไป 1-2-3 ที่เขากำหนดให้ไปก็ต้องอย่างนี้ ไปแล้วพูดได้ชัดเจนเลยว่า ความมั่นคงของทั้ง 3 ประเทศ คือความมั่นคงของเรา ไม่ได้ไปเสแสร้ง ไม่ได้ไปตลบตะแลงอะไรเลยครับ ไทยเราช่วยเหลือ ถูกต้อง ที่จะทำให้เขากู้ทำนี่ ๆ นี่ทำให้เปล่า มิตรจิตมิตรใจนะครับ สปป.ลาวเราก็ช่วย กัมพูชาเราก็ช่วย ผมบอกแล้วทำถนนหนทาง นักท่องเที่ยวก็ถ่ายกันไปถ่ายกันมา ทางฝ่ายพม่าทั้งหมดเลย น้ำมันขึ้นเอาตามใจชอบ ถามสิว่ารัฐบาลพม่าเขาขึ้นราคาก๊าซตามใจชอบไหม บาร์เรลละ 9 เหรียญ 10 เหรียญ แต่นี่ขึ้นไป แต่ก่อน 97-98 ถึง 100 เดี๋ยวนี้ขึ้นไป 110-111 เหรียญ ถามสิว่าเพื่อนบ้านเขาทำอย่างนี้ไหม เจรจาขุดก๊าซเจอขอให้เซ็นสัญญาจัดการซื้อขาย เขามีข้อขัดแย้งนะ เขาบอกเอาตกลง สิ่งที่เขาอยากได้คือช่วยวางท่อก๊าซให้เขาหน่อย เพราะเขาไม่มีปัญญาจะวาง ช่วยวางและหักค่าเงิน นี่เพื่อนบ้านของเรานะครับ ผมกำลังเจรจาความอีกด้วย ใครจะว่ารัฐบาลกระจอกงอกง่อยอย่างไรก็ตามแต่ 2 วันนี้ผมจะเจอกับทูตรัสเซียก็จะพูดจากัน เขาเปลี่ยนแปลงจะครับ ที่นี่เปลี่ยนแปลงคนหนุ่มอยู่ข้างหน้า แต่คนอาวุโสอยู่ข้างหลัง คุณปูติน (ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย) เขาบอกเลย เขาบอกให้ทูตมาเจรจา เขาบอกอยากจะเอาตรงไทย จะเอาเรื่องก๊าซ เรื่องน้ำมัน เขาอยากจะให้เราช่วยดำเนินการ ทูตรัสเซียขอพบกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผมบอกไม่หรอก ย้ายมาพบกับนายกรัฐมนตรีเลย ก็ต้องทำการแบบนี้ครับ นี่อธิบายให้ฟังว่าระหว่างนี้ที่กำลังงานอย่างนี้มากมายก่ายกอง คืออะไรครับ
ชี้แจงกรณีคอลัมนิสต์วิพากษ์วิจารณ์
ที่เป็นข่าวเอิกเกริก ผมเอาหนังสือพิมพ์ติดมาให้ดูหน่อย มันใหญ่โตเอิกเกริกทั้งบ้านทั้งเมืองครับ ดูหน้านี้ ผมอ่านให้ฟังครับ “ตบหน้ารัฐบาล ! “อภิรักษ์” สอนสปิริต-ยอมพักงานผู้ว่าฯ ปมรถดับเพลิง ...ฯ (แนวหน้า) ไทยโพสต์ พาดหัว อภิรักษ์กดดันหมักโชว์สปิริตยุติหน้าที่ผู้ว่าฯ รบ.เหน็บ หาเสียง-สร้างภาพ นี่พาดหัวข่าวนะครับ 3 วันที่ผ่านมานี้ นั่งอ่าน ท่านผู้ชมก็เหมือนกับผมอ่าน ทุกคอลัมน์เลยครับ ยกย่องสรรเสริญและก็เหยียบย่ำผม เหยียบย่ำรัฐมนตรีอีก 3 คน ไม่รู้จักแสดงสปิริต ผมประหลาดใจบ้านเมืองนี้ คนเก่งคนรู้คนฉลาดทั้งหลายไปทำหนังสือพิมพ์หมด มีไอ้คนโง่อย่างผมเท่านั้น กับพรรคพวกผมโง่ ๆ ดันมาทำการเมือง ถูกเขาสับเขาโขกเขาว่าเขากล่าว มันจริง ๆ นะครับ จะนึกว่าผมไปพูดจาเยาะเย้ยถากถาง ไม่ละครับ นี่พูดจากใจจริงเลย คนเก่ง ๆ รู้ทุกอย่าง อ่านคอลัมน์หน้า 4 สิครับ รู้ทุกอย่างเก่งทุกอย่าง ทั้งสั่งทั้งสอนทั้งสับทั้งโขก ไปทำหนังสือพิมพ์หมดครับ ไอ้คนโง่อย่างผมเท่านั้นมาทำงานการเมือง นักการเมืองหน้าโง่อย่างผมเท่านั้นครับที่ได้ไปเจรจากับประเทศ สปป.ลาว เจรจากับกัมพูชา เจรจากับพม่า อีก 2-3 วันจะไปสิงคโปร์ และอีก 5-6 ประเทศ เสร็จแล้วจะต้องเดินทางไปเจรจาไปจีนไปญี่ปุ่น ต้องไปพูดกัน ถึงเดือนมิถุนายนต้องไปยุโรป เดี๋ยวเดือนสิงหาคมเขาพักกันหมด เดือนกันยายนไปสหรัฐอเมริกา ทำความเข้าใจทั้งโลก ให้เขารู้ว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ให้กลับมาเหมือนอย่างเดิม ทำงานอย่างนี้ครับ และทำงานอยู่แล้วเป็นอย่างไร นั่งทำงานอยู่ ถามว่าสบายดีไหม ไม่สบายหรอกครับ เพราะเรื่องต่าง ๆ ยังไม่จบ ยังรุงรังพันเต ผมบอกเขียนรัฐธรรมนูญเอาไว้ ต้องเขียนรัฐธรรมนูญเป็นห่วงมาผูกคอ ใครมาเป็นรัฐบาลนี้ก็เสร็จ ก็เอาความเกลียดชังนายกรัฐมนตรีคนเก่ามาเขียนใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วผมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่มา ผมต้องรับความเดือดร้อน ถูกต้องครับ ยังตามล่าตามล้างกันยังไม่จบ นั่งทำไป ๆ ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะยุบพรรคหรือเปล่า ใบเหลือง ใบแดง ก็ยังไม่เสร็จหมด ก็ว่าเป็นกฎกติกา ก็เอาสิครับ เขียนกันไปเขียนกันมา นอมินีน่ะ ฟังความบอกไม่มีปัญหา ก็ยังจะเอากันให้ได้ แล้วผมจะทำอย่างไร ถ้าทำไม่บ่นวันนี้ ผมจะไปบ่นกับใครที่ไหน ผมก็ทำงานอย่างที่เห็นนี่ อยู่กันมา กระโดกกระเดกเข้ามานี่ ผมว่าหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ก็ทำงานครับ แต่งานกำลังจะเดินไปได้ เสร็จแล้วจะเอาหมอเลี้ยบ (นาย สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ออกเสียแล้ว จะเอาคนโน้นออก รวมทั้งผมด้วย เขียนมา ผมไม่ได้ว่านะ
ยืนยันเข้ามาทำงานให้บ้านเมือง
คนที่เป็นคอลัมนิสต์ไปอ่านข้อเขียนของท่าน 2-3 วันมานี้ ยังไม่จบ ยังกระทบกระแทกแดกดัน ผมจะถามหน่อย ผมไม่ใช่คนเชี่ยวชาญรู้กฎหมาย แต่ถามว่าท่านที่เขียน ผู้พิพากษาทั้งนั้นเขียนคอลัมน์ นักกฎหมายทั้งนั้น เปล่าเลยครับ แต่ผมจะบอกให้ฟังนะ ท่านผู้ว่าฯ อภิรักษ์ (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) แสดงสปิริต บอกสมัครปากพาจน ไปพูดจากันตัวเอง ไม่พาจนหรอกครับ ผมพูดปากผม ผมก็ทำงานให้บ้านเมืองผม แต่ผมพูดถึงผู้ว่าฯ อภิรักษ์ ผมพูดความจริง เมื่อวันอังคารผมบอกว่า กฎหมายเขากำหนดไว้ ไปตีความว่าถ้าเผื่อนั่นจะต้องออกจากตำแหน่ง ผมบอกว่าไม่ใช่ กฎหมายเขากำหนดเลย ใครอยู่ตำแหน่งไหน ถ้าเกิดอย่างนี้ ถ้าเขาชี้ว่าหนึ่ง มีมูลมีความผิด ก็ต้องหยุด หมายถึงตำแหน่งที่ปฏิบัติอยู่ ผมยกตัวอย่างว่าถ้าสมมติ กทม.เขาเกิดชี้เรื่องดับเพลิง (จัดซื้อรถและเรือดับเพลิง) ว่าคุณอภิรักษ์จะถูกกล่าวหา คุณจะต้องถอยออกมา เพราะคุณปฏิบัติอยู่ แต่อย่างผม ผมไม่ต้องถอย เพราะผมพ้นมาแล้ว อธิบายความเท่านี้เองครับ ถ้าความจริงพวกคอลัมนิสต์ทั้งหลายลองช่วยคิดดู เขาเล่นงานผม กล่าวหาผม 5 คน ตั้งแต่ปฏิวัติ พอปฏิวัติก็ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เสร็จแล้วเอานี่มาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วก็สั่งแจ้งข้อหาผมว่าทำทุจริตอย่างนี้ ๆ เรื่องรถดับเพลิง ตอนนั้นผมเป็นอะไร ผมเป็นประชาชน เป็นนายสมัคร ธรรมดา ๆ แล้ว
ถ้าเผื่อแจ้งข้อหาผม แล้วผมจะลาออกจากตำแหน่ง เอาบัตรประชาชนไปคืน ยุติความเป็นประชาชนคนไทย ก็ไม่ต้องทำอะไร ผมก็เป็นนายสมัครอยู่อย่างนั้น ก็แจ้งข้อหาผมแล้วว่าผมทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ว่าผมแล้ว แล้วผมจะไปออกจากตำแหน่งตรงไหน ต้องยุติตรงไหนครับ ไปกระทรวงมหาดไทยเอาบัตรประชาชนไปคืนบอกขอลาออกจากตำแหน่งชั่วคราว เปล่า เสร็จแล้วผมเข้ามา ผมมาดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ผมสมัครรับเลือกตั้ง ทำไมไม่กันผม บอกคุณโดนคดีนั้น คุณสมัครไม่ได้ ทำไมไม่มีกฎหมายมากันผม แล้วทำไมผมสมัครแล้วเป็น ส.ส. พอได้เป็น ส.ส. ผมไปรายงานตัว ทำไมสภารับรายงานตัว ต้องบอกคุณสมัครคุณถูกกล่าวหาอย่างนี้ คุณต้องน่าอาย คุณต้องออก คุณต้องไม่รับ ก็ไม่มี ปล่อยให้ผมมาทำ ๆ จนกระทั่งผมมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล มาจนถึงป่านนี้ เสร็จแล้วก็มาชี้ ชี้มา 5 คนเท่าไร ปีครึ่งเกือบ 2 ปี ชี้มาแค่ 5 คน และทำไมเพิ่งมาชี้คนที่ 6 ทั้งหมดออกมาแล้วทั้งนั้น ออกจากตำแหน่งแล้วมาชี้ เสร็จแล้วเมื่อเวลาที่คนที่ 6 ถามแต่ก่อนทำไมไม่ชี้ และทำไมเพิ่งมาชี้ และเข้าล็อกกฎหมายไหมว่าอยู่ในตำแหน่งแล้วคนนั้นต้องออก
ลงนามในบัญชีรายชื่อแต่งตั้งนายทหารแล้ว
ปัจจุบันนี้มีคนตำแหน่งใหญ่ ๆ 3 ตำแหน่ง ซึ่งถูกชี้ว่ามีความผิด แต่ยังนั่งอยู่ตำแหน่งบริหารใหญ่ ๆ อยู่ ทำไมไม่ไปไล่จัดการ ผมไม่ได้อะไรนักหนาหรอกครับ แต่ผมกำลังทำงานให้บ้านเมืองผมอยู่ ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่าในตำแหน่งที่เขากำลังทำงานกันอยู่ ถามว่าหมอเลี้ยบที่เขาโดน เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอทีซี) ตั้งแต่ปี 2546 ที่กล่าวหาเขา และจะกล่าวหาเขาด้วยอย่างไรก็ตามแต่ แล้วเกี่ยวข้องอะไรกันอย่างไรครับ อธิบายความได้ชัดเจนว่า ไม่ต้องลาออกจากตำแหน่ง ตำแหน่งไอทีซีออกมาแล้ว และเขากำลังทำงานอยู่ที่กระทรวงการคลัง เข้ามาก็ดูถูกดูแคลน คนนั้นเป็นหมอ คนนี้เป็นพยาบาล ดูแคลน แล้วเขาทำอย่างไร เขาจัดการค่อย ๆ ถอนมาตรการกันสำรอง 30 เปอร์เซ็นต์ ออกไปได้ เขาเจรจาความ เมื่อวานนี้เขาไปบ้านผม นักข่าวไปล้อมบ้านผม ประหลาดจริง ๆ ถามเถอะบรรณาธิการช่วยสั่ง ไปล้อมแล้วได้อะไร เขาไปล้อมเรื่องอะไรรู้ไหม เขาไปล้อมเรื่องจะมีคนเอามาเซ็นเรื่องทหาร เชยจริง ๆ บรรดาผู้สื่อข่าวทั้งหลาย ผมเซ็นไปเรียบร้อยตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมแล้ว เสร็จหมดเรียบร้อยทั้ง 3 กองทัพ กองบัญชาการสูงสุด เดี๋ยวนี้เรียกกองทัพไทย พอใจครับ เสร็จเรียบร้อยหมดตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม วันที่ 15 มีนาคมเพิ่งตื่นเต้น ไปล้อมบ้านผมบอกจะเอาเอกสารมาเซ็น เซ็นหมดแล้วครับ
จัดสรรเงินเอสเอ็มแอลสู่รากหญ้า 15,000 ล้าน
ผมจะถามหน่อยสิครับ บังเอิญคุณหมอไปคุยกับผมเรื่องจะใช้เงิน 15,000 ล้านบาท ลงไปที่รากหญ้า เป็นข่าวใหญ่ ก็เขาไปอธิบายให้ฟัง คุณหมอบอกว่าโทรศัพท์ ผมอยู่บ้านมือถือก็กองไว้ โทร.เข้ามาก็ไม่ได้ เบอร์ที่บ้าน คุณหมอนึกอย่างไรไม่รู้ไม่โทร.เข้าไปหาผม บอกวันนี้ให้คุยหน่อย เรื่องเอสเอ็มแอล คือเงินที่จะลงไปที่หมู่บ้าน ตอนหาเสียงผมพูดเรื่องไอศกรีม ท่านผู้ฟังคงไม่ได้ฟังผมหาเสียง เรื่องไอศกรีม คุยกันเลยครับ ไอศกรีมเขาบอกว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลอยากให้คนในระดับหมู่บ้านได้กินไอศกรีม เสร็จแล้วก็ทำไอศกรีมขึ้นมาที่ทำเนียบ ผมเสร็จ รัฐมนตรีที่ทำก็ดูดเสียก่อนแล้ว ส่งไปให้ผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ ดูดทีหนึ่งก่อน ส่งไปให้รองผู้ว่าฯ ดูดเสียอีกทีหนึ่ง ลงไปถึงนายอำเภอ นายอำเภอดูดที ปลัดอำเภอดูดอีกที ไปถึงกำนันดูด ผู้ใหญ่บ้านดูด ไปถึงราษฎรเหลือแต่ไม้ไอศกรีมและไอศกรีมติดนิดหน่อย คุยเรื่องนี้ ราษฎรก็หัวเราะ ผมก็บอกว่าตกลงที่เขาทำกองทุนหมู่บ้าน กองทุนละ 1 ล้าน 80,000 หมู่บ้าน 80,000 ล้าน เขาก็ดำเนินการมาแล้ว แต่เขายังมีไอศกรีมนี่ละครับเอาไปทำในหมู่บ้าน ลงเป็นโครงการเลย เอาไปดูว่าจะทำอะไร ประชุมกรรมการ คนหมู่บ้านล้วน ๆ จะทำอะไร จะทำโอท็อป จะทำโน่นทำนี่ เพื่อพัฒนาหมู่บ้าน เดิมเขาเคยนะครับ 200,000, 250,000, 300,000 รณรงค์ไว้เอาบอกต่อไปจะเป็น 300,000 , 500,000, 700,000 เดี๋ยวนี้มีเงิน หมอเลี้ยบนี่ล่ะ เป็นหมอใครก็ดูถูกดูแคลน เขาจัดการตัดมาให้ 15,000 ล้าน 80,000 หมู่บ้าน คร่าว ๆ หมู่บ้านละ 200,000 ลงไปเลยครับไม่ได้เลือกตั้ง ไม่ต้องหาเสียงแล้วนะครับ แต่เขาต้องทำ เพราะเหตุว่ามันกระตุ้นเศรษฐกิจของบ้านเมือง 80,000 หมู่บ้าน เอาหมู่บ้านละ 200,000 ก่อน งบประมาณปีหน้าเราตั้งเอง เราจะต้องใส่ลงไปอย่างไร ไม่ใช่ประชานิยมครับ ขอยืนยันว่าเงินนี้ไม่ได้เอาไปแจก ไม่ได้เอาไปกู้ แต่ไปไว้ในโครงการจะพัฒนาหมู่บ้านอย่างไร จะทำให้มีผลิตผลอะไร คิดอยากจะทำอะไร ไอศกรีมที่พูดกันไว้ว่าไม่ใช่ผลิตที่ทำเนียบ ไปถึงแล้วเหลือติดไม้ แต่นี่เอาไอศกรีมไปทำที่หมู่บ้าน แต่แปลกอย่างหนึ่งครับ พวกบริษัทผลิตไอศกรีมชื่อบริษัท ครีโม ครีมเหมือนกัน แต่ครีม แต่ถ้าราชบัณฑิตยสถานต้อง ก ไอศกรีม นี่เป็นการทำไอศกรีมที่หมู่บ้าน ทำเสร็จคงจะกินกันที่นั่นละครับ นี่อุปมาอุปมัยนะครับ หมายความว่าหมู่บ้านมีคิดมีอ่านจะทำอะไรต่ออะไรอย่างไร
เป็นนายกรัฐมนตรีที่เรียนจบกฎหมายรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ
เหมือนจะทำโอท็อปนี่ ถ้า 2-3 วัน เบรกไม่ทันก็ยุ่งเหมือนกันนะครับ จะจัดงานโอท็อป รีบร้อนจะจัด เจ้าหน้าที่ปัจจุบันไม่ออกว่าเป็นใคร ไปจ้างออร์แกไนเซอร์ 85 ล้านบาท จัดงานโอท็อป เอาราษฎรทั้งประเทศ ยังไม่ได้รู้ว่าโอท็อปจะเอาอะไรมาทำ ยังไม่ทันทำ จะรีบจัดอย่างไรไม่ทราบ 85 ล้าน วันที่ 29 มีนาคม เชิญผมไปเปิด ตรวจสอบแล้ว ยังเปิดไม่ได้ แล้วใช้ออร์แกไนเซอร์ 85 ล้าน ผมไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยเลย จะโฆษณาอย่างไรให้คนไป นั่นแหละสำคัญ แต่ออร์แกนไนเซอร์ไปจัด ไปทำอะไร ใช้เงิน 85 ล้าน ไม่เกี่ยวกับโอท็อป แต่จะให้มาจัดงานโอท็อป เห็นไหมครับว่ารัฐบาลนี้ถี่ถ้วนแค่ไหน ถี่ถ้วนอย่างนี้ไม่มีคอลัมน์ไหนเขียนชมหรอกครับ ไม่มีครับ ไม่เห็น ผมเลยเอามาบอกให้รู้กันเองว่าเราถี่ถ้วนครับ จะบอกให้ทราบครับว่าที่คุยที่เล่าให้ฟัง เมื่อเช้าฟังท่านสันติกโรไปแล้ว อยู่ที่ใจครับ ว่าไป จะเขียนดุด่าว่ากล่าวอย่างไรท่านว่าไปเถอะ ผมเป็นคนเหมือนพวกพม่า ธรรมะธรรมโม วันนี้จะพูดถึงหน่อยเพราะว่าไปเยี่ยมเขามา เขาเป็นคนธรรมะ เขาแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนเลวอย่างที่คนในโลกชี้หน้าเขา ผมก็แน่ใจว่าผมไม่ใช่หัวหน้านักการเมืองเลวอย่างที่หนังสือพิมพ์รุมโขกกัน พูดก็พูดเถอะครับ ใครอ่านแล้วไม่เจอบ้างที่เขาว่าผม กระทบกระแทกแดกดันว่ากล่าว ยกย่องสรรเสริญคนนี้ ด่าคนนี้ ไม่ได้กินหรอกครับ เพราะเหตุว่าดูในสภาพจริง ๆ ผมจะไปลาออกกับใครที่ไหน แล้วทำไมปล่อยให้ขนขึ้นบันไดมาถึงข้างบนเสร็จปั๊บ พอคนนี้บอกสปิริต นายสมัครไม่มีสปิริต ท่านที่เขียนคอลัมน์ท่านคิดสิครับ ที่ผมพูดนี้จริงหรือเท็จ แล้วถ้ากฎหมาย ไปดูในตัวบทกฎหมายก็ได้ ผมไม่ใช่เป็นคนมาจากที่อื่น ผมเรียนกฎหมายครับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้ปริญญาเหมือนกับท่านทั้งหลายที่ออกความเห็น ก็รู้กฎหมาย มาเป็นนายกรัฐมนตรีผมรับผิดชอบในสิ่งที่ผมทำ ก็กำลังบริหารบ้านเมืองกันดี ๆ ถ้าผม ขอประทานโทษครับ ขออภัย ถ้าผมจะดัดจริตไปเต้นตามนี้ลงไป ถามว่าออกไปแล้วเกิดอะไรขึ้นครับ หัวหน้ารัฐบาลหยุดพักงาน คณะรัฐมนตรีก็หยุดหมด เปลี่ยนใหม่หมดเลยครับ แล้วทำอย่างไรกันสำหรับวันนี้ หาคนทำงานใหม่ หานายกรัฐมนตรีมาใหม่ ต้องตั้งมาใหม่ ต้องจัดการอะไรกันใหม่ ไม่ปั่นป่วนวุ่นวายกันหมดหรือครับ เดินหน้ามาอย่างนี้ ประเทศชาติล้มลุกคลุกคลานมา 16 เดือน ตั้งตัวได้กว่าจะเอาชนะเลือกตั้งกันมาได้ สู้กันได้ ทั้งระบบทั้งระเบียบ เสร็จแล้วไป ๆ มา ๆ 2 — 3 วันผมอาจจะถูก กกต. ฆ่าตายก็ได้ บอกว่าเป็นนอมินี ลงมติเลย ยุบพรรคพลังประชาชน หมด 37 คนผู้บริหาร เลิกกันเลย ก็ให้มันปั่นป่วนกันใหม่
ปรับย้ายข้าราชการตามความจำเป็น
ผมไม่ได้ต้องการมาพูดจาเพื่อจะได้ผลประโยชน์กับผม แต่เราต้องคิดกันบ้างไหมครับว่า บ้านเมืองมาจนถึงป่านนี้ยังตามล่าตามล้างจะเอาให้เป็นให้ตาย ใครที่ทำอย่างนี้ ลองดูสิครับ ก็เอาสิเอาให้สำเร็จสิครับ ยังไม่ทันไร อยู่มาเดือนกว่าปลุกระดมกันแล้ว จะเป็นรัฐตำรวจ หัวหน้าตำรวจหน่อยเท่านั้นจะตั้งรัฐตำรวจ ไปอ่านคำแถลงสิครับ (แถลงการณ์ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) บ้านเมืองสู่วิกฤตแล้ว นายสมัครจะตั้งรัฐตำรวจ ฟังดูแล้วมันอะไรกันนักหนา ยังไม่ถึงวันที่ 28 ประกาศแล้วมี 30,000 มีคนเขียนจดหมายมาถึง ย้ายข้าราชการ คำถามคือว่าจะย้ายอีกไหม ผมจะตอบตรงนี้เลยครับว่าผมจะต้องย้ายอีก คำอธิบายคืออะไร ที่แล้วมามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองบ้านเมืองนี้ ยึดอำนาจเข้ามาได้ ย้ายเป็นแผง ย้ายกันไปสุดลูกหูลูกตา เงียบไม่มีใครพูดอะไร ย้ายๆๆๆ ดีไหมครับ แล้ว 16 เดือนที่ผ่านมานั้นดีไหมครับ มันทนทุกข์ทรมานไหมครับ เสียหายไหม เสร็จเรียบร้อยแล้วมีเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ แล้วผมจะต้องนั่งงอมืองอเท้าอยู่ตรงนั้นหรือครับ ให้เป็นอย่างนั้นหรือครับ เวลาที่มีการปลุกระดมกัน ใครครับที่ระดมเอาราษฎรสั่งเอาเข้ามาช่วยการปลุกระดม ใครครับ คนอย่างนี้ที่เคยทำอย่างนี้จะปล่อยให้เขาทำต่อไปไหม วันที่ 28 นี่จะเอากันอีกแล้ว จะปล่อยให้คนทำอย่างนี้จะสั่งราษฎรเข้ามาที่โน่นเท่านี้ ที่นี่เท่านี้ส่งเข้ามา เอาเข้ามาทำอย่างนี้ ถ้าคนทำอย่างนี้อยู่ ยังต้องให้อยู่ต่อไปในตำแหน่งไหม ผมตอบคำถามได้ว่าถ้าผมจำเป็นจะต้องย้าย
ตอบกระทู้ย้ายข้าราชตำรวจระดับรองผู้บังคับการ
แล้วผมเดือดร้อนอะไรไหม วันก่อนเขาย้ายตำรวจกัน ย้ายตำรวจ ต้องเข้าสภาฯ ระดับรองผู้บังคับการ ถามกระทู้นายกรัฐมนตรี(นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถาม) ผมต้องไปตอบกระทู้ ท่านผู้ชมอาจจะไม่ได้ฟังวันนั้น เขาบอกว่าตำรวจคนนี้เก่ง ทำ กกต. เป็นอะไรต่ออะไรหมด เก่งเชี่ยวชาญเรื่องจับใบแดง ให้ใบแดงคนนี้ ๆ ถึงได้ถูกย้าย ผมบอกคนกระทู้ถาม คุณองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผมบอกว่านี่ถ้าหากว่าผมรู้ว่าตำรวจคนนี้เก่งในเรื่องปราบใบแดงจริง ๆ ผมไม่ย้ายไปศรีสะเกษหรอก ที่ย้ายไปศรีสะเกษคนทางโน้นเขาว่าง เขาขอตัวส่งไปช่วย ถ้าผมรู้จริง ๆ ผมจะย้ายไปเพชรบูรณ์ เพราะเพชรบูรณ์มีอะไร จับโคราชเงิน 13,000 โดนใบเหลืองใบ 3 คนสมควรแก่เหตุ จับเพชรบูรณ์ใบแดง 1,300,000 ให้ใบเหลืองเหมือนกัน เห็นไหมครับ ผมบอกว่ารองผู้บังคับการที่เพชรบูรณ์ไม่เก่ง ต้องเอารองผู้บังคับการบุรีรัมย์ย้ายไปเพชรบูรณ์ ก็ทางการเมืองละครับก็ว่ากันไปอย่างนั้น แล้วอีกวันเขาก็ย้ายครับ เขาย้ายตำรวจทั้งโรงพักเลย ที่มีตู้ม้าตู้อะไรของเขา เขาเอามากางเลย นี่เขียนว่าจะต้องมีคุณธรรมอะไรต่าง ๆ ตกลงพอคุณธรรมพอเล่นตู้ม้าก็ย้ายไม่ได้ ก็คุณเอามาอ้างว่า นายกรัฐมนตรีประกาศจะต้องมีคุณธรรมในการอย่างโน้นอย่างนี้ อ้างอันนี้เสร็จแล้ว แปลว่าปล่อยให้เล่นในตู้ม้ากันต่อไป ปล่อยให้เล่นการพนันกันต่อไป ปล่อยให้มีบ่อนกันต่อไปอย่างนั้น เพราะว่าย้ายไม่ได้มีคุณธรรม แล้วถ้าใครเคยระดมเอาคนเข้ามาปลุกระดมขับไล่รัฐบาลเก่า แล้วล้มรัฐบาลเก่า ยังนั่งหัวโด่อยู่อย่างนี้ แล้ววันหนึ่งไปจับย้ายเข้า ย้ายไม่ได้ ตกลงเลือกตั้งเข้ามาทำไม เปลี่ยนรัฐบาลทำไม ที่แล้วมาถ้าเขาบอกว่ารัฐบาลที่แล้วเลว เขาก็เปลี่ยนเข้ามา เขาก็จัดการย้าย ๆ ไม่เป็นไร ปฏิวัติไม่มีใครกล้าแหกปากว่า แต่ว่าเลือกตั้งเข้ามาแล้วว่าเอา ๆ ย้ายไป 4 ตำแหน่งเท่านั้นเองครับ
หมอกำลังมีทุกข์เพราะถูกฟ้องคดีอาญา
เอาละครับผมจะบอกให้ฟังมาถึงตำแหน่งคนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไปเรียกเขาคุณหมอไชยา ไชยาเขาไม่ชอบเขาไม่ได้เป็นหมอ ชอบนักใครเป็นรัฐมนตรีฯ สาธารณสุขชอบคุณหมอ เขาเข้ามาเขาทนทุกข์ทรมานของเขา เรื่องโน้นเรื่องนี้โดนด่าฟรีไป เสร็จแล้วไป ๆ มา ๆ ซีแอลก็ซีแอล ทำค้างคากันไว้ เขาบอกว่าขอดูสิว่าอย่างไร กระทรวงพาณิชย์เก่ามาว่ากระทรวงสาธารณสุขใหม่ ต้องตั้งต้นใหม่ทำใหม่ พอตอนจบก็ดำเนินการกันต่อไป แต่รัฐมนตรีฯ ไชยาฯ โดนสับโดนโขกโดนชี้เดินหน้า โดนเข้าชื่อจะไล่ออกเสียแล้ว ทำไมถึงโดนอย่างนั้น โดนบ่นว่าหมอ รายการผมใส่โฆษณาไว้ เรื่องทุกข์ของหมอ หมอเขามีทุกข์ครับ เวลานี้หมอมีทุกข์ครับ เพราะว่าหมอโดนลงโทษทางอาญาจำคุก 3 ปี หมดเลยครับกระทบกระเทือนหมด เพราะอะไร เพราะในโลกนี้เขาไม่มีการฟ้องคดีอาญาหมอ ไปประเทศไหนก็ไม่มี เขาฟ้องคดีแพ่ง จะแพ่งมากแพ่งน้อยสุดแท้แต่ คดีอาญาไม่มีครับ เพราะเขาคิดว่าหมอมีจิตใจจะมาช่วยรักษาคนไข้ accident อะไรไปก็ย่อมเกิดขึ้นได้ ของพรรค์อย่างนี้ถ้าจะเทียบเคียงกันไป เหมือนบางอาชีพอื่น ทำอะไรต่ออะไรไป ทำอะไรไม่เป็นไรครับ ทำผิดก็ไม่เป็นไรมีกฎหมายรับรองด้วยว่าไปเอาความผิดไม่ได้ แต่หมอไม่มีความต้องการอย่างนี้
มีปัญหาโรงพยาบาลชุมชนไม่กล้าผ่าตัดคนไข้ต้องส่งให้โรงพยาบาลใหญ่
ท่านทั้งหลายครับ ตัวหนังสือตัวเลขที่เขารายงานเข้ามา ปีนี้สอบเข้าหมอได้ 100 คน ไม่ยอมเข้า 25 คน แต่ก่อนแย่งกันนั่งรอว่าใครจะถอน ออกไป 25 คนไม่รับ ตามสถิติมีคนหนึ่งไม่เรียนหมอครับ ไปเรียนนิติศาสตร์ สอบได้หมอแล้วครับไปเรียนนิติศาสตร์ต่อ เพราะอะไร กลัวกันหมด กลัวเกรงกันหมด ไปอ่านคำพิพากษาสิครับว่าน่ากลัวอย่างไร หมอจบมา 2 ปีรู้ว่าตัวไม่มีความสามารถ ต้องระมัดระวังยิ่งกว่าธรรมดา รู้ว่าไม่มีวิสัญญีแพทย์จะไปทำอย่างนั้น ทราบไหมครับโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ 720 โรงมีวิสัญญีแพทย์โรงเดียวอยู่ที่อุดรธานี อีก 700 กว่าโรงไม่มีครับ แล้วกำลังนี้เกิดอะไรขึ้น โดนจำคุก 3 ปีเพราะเหตุการณ์อย่างนี้ หมดเลยครับ โรงพยาบาลชุมชนไม่มีใครกล้าผ่าตัด ส่งเข้าไปโรงพยาบาลใหญ่หมด แต่ก่อนมี 20 เกือบ 30 ราย เดี๋ยวนี้มี 200 รายครับ ต้องไปโรงพยาบาลใหญ่หมด เพราะหมอเชี่ยวชาญอยู่ที่นั่น หมอทำใหม่ 1 ปี 2 ปี 3 ปี ทำไม่ได้ ภาษาฝรั่งการไปปฏิบัติงานเขาใช้คำว่า practice medical practice แปลว่าไปทำงานเป็นหมอ practice ทุกวัน อายุเท่าไรก็ยังต้อง practice เป็น medical practice เพราะมันใหม่มันมาต้องทำอยู่เรื่อย
เล่าทุกข์ของหมอให้คนทั้งประเทศได้ฟัง
โดนเข้าไปอย่างนี้หมดเลยครับ ถ้าไม่วานคนอย่างผมเป็นนายกรัฐมนตรีมาช่วยบ่น แล้วจะทำอย่างไรครับ จะนั่งงึกงักกันอยู่อย่างนั้นหรือ ผมต้องมาช่วยเพราะเขาเสนอกฎหมาย อย่างน้อยก็มีกฎหมายให้หน่อยว่าไม่ได้คุ้มครองนะ แต่ให้ว่าถึงดีกรีไหนตรงไหนถึงค่อยเอา ถึงค่อยอย่างไร กฎหมายจะเข้าสภาฯ ครับ ต้องมาเล่าให้ฟังก่อน วันนี้ผมใส่หัวข้อว่า “ทุกข์ของหมอ” เขาทุกข์จริง ๆ ครับ เป็นทุกข์ของหมอทั้งประเทศ แล้วเขาจะทำการอย่างกับใคร จะมาหยุดจะมาสไตรท์เขาไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ แต่เขามีความทุกข์ แล้วความทุกข์ของหมอมาถึงคนเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่เอาความทุกข์ของหมอมาเล่าให้คนทั้งประเทศฟัง แล้วจะทำอย่างไรครับ นี่เป็นช่องทางที่ดีที่สุด ขอบพระคุณท่านทั้งหลายครับที่เขาบอกว่าท่านอุตส่าห์ฟังพระเทศน์แล้วก็ต่อมาฟังผมคุย ผมก็พยายามครับ 1 ชั่วโมงกำลังดีอย่าให้มากอะไรกว่านี้เลยครับ เขายกป้ายเวลาจวนหมดแล้ว หาเรื่องตอบคำถามครับ ถ้าไม่ตอบคำถามไม่มีเรื่องครับ แต่ว่าตอบคำถามก็ไม่อยากให้มีเรื่องละครับ แต่ว่าดูหน่อย
คำถาม เรื่องรถไฟอยากให้มีมาตรฐาน แก้ปัญหารถด่วนที่มาแทนรถธรรมดา รถชานเมือง
นายกรัฐมนตรี จะบอกให้ฟังครับ เรื่องนี้ผมต้องนึกชื่อคุณบรรยง ศรลัมพ์ รถไฟเราจะเป็นรางเดียวครับ รถไฟนี้รถด่วนต้องไปก่อน รถหวานเย็นต้องไปทีหลัง เวลารถหวานเย็นไปเขามีรางหลีก รางหลีกนี้ 500 เมตรทั้งนั้นครับครึ่งกิโลเมตร แล้วรถไฟ 1 ขบวนไปจอดรอ ให้รถด่วนไปก่อนแล้วค่อยออกไป ตามรถด่วนเขาไป นี่ธรรมเนียมไทย แต่ว่าคุณบรรยง ศรลัมพ์ ท่านเป็นผู้ว่าการรถไฟที่ก้าวหน้าครับ ท่านเล่าให้ผมฟังบอกว่า ท่านคิดแก้ไขปัญหา คือแทนที่จะ 500 เมตร ท่านทำรางรถไฟเข้าไปเลย 10 กิโลเมตร วางรางคู่ไปเลย 10 กิโลเมตร พอถึงรถหวานเย็นไป รถด่วนมาทีหลัง อันนี้ก็ออกมา แทนทีจะจอดรอ ไม่จอด วิ่งกึ้ง ๆ ๆ ๆ ลดระดับ วิ่งระดับไป วิ่งไป 10 กิโลเมตร รถด่วนมาก็ไปแล้วเดี๋ยวก็เลี้ยวออก นี่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ เล่าให้ฟังไว้
คำถาม สถานีรถไฟหัวลำโพงตัวเรือดเยอะมาก แนะนำให้ใช้เปลือกทุเรียนเฉือนบาง ๆ 1 เซ็นติเมตรใส่ไว้ใต้เบาะ ฉีดยาไม่หาย สิ้นเปลือง
นายกรัฐมนตรี ผมเพิ่งเคยทราบครับ ผมสมัยเด็ก ๆ ก็โดนเรือดกัด เรือดเป็นของคู่บ้านคู่เมืองมาแต่ก่อน มันชอบอยู่ตามอะไร ตามเบาะรื้อออกมามันก็แอบอยู่ตรงนั้น ในมุ้งในอะไร มุ้งแต่ก่อนนี้ตื่นมาตอนเช้าบีบ ไม่เอามาบี้หรอกบีบทั้งอย่างนั้นแล้วเอามุ้งไปซัก มันเป็นของมีอยู่ มันชอบความอับความสกปรก แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเรือดเพราะเราไม่ใช้มุ้งอย่างหนึ่ง แล้วที่นอนของเราก็คงจะออกแบบอะไรกันมา ยังมีอยู่ตามบ้าน แต่ที่รถไฟมีใครเอาใจใส่ เรื่องนี้แก้ไขได้ครับ ความจริงไม่น่าต้องหยุด 15 หรอกครับ แต่เขาจะเปลี่ยนเบาะใหม่ ทุกคนก็ช่วยกันทำ ดีแล้วครับเรื่องเรือดนั้น อย่าลืมนะครับนักเรียนทั้งหลาย สระเอ ร.เรือ นะครับ เขียน ร.เรือ ล.ลิง ส. เสือ ลายมือถั่วงอกวันหลังจะจัดการเรื่องนี้ เรือดนี้ ร.เรือ ครับ ตัวเรือด ริ้น ไร ร. เรือทั้งนั้น
คำถาม คุณสุมาลี นนทบุรี เป็นแม่ค้าอยากทราบว่าจะมีนโนบายขายของวันจันทร์ - วันเสาร์ - อาทิตย์ หรือไม่
นายกรัฐมนตรี เรื่องนี้น่าสนใจจริง ๆ ตอนผมหาเสียงเลือกตั้งบอกว่าถ้าเป็นรัฐบาลแล้วให้ขายของวันจันทร์ — วันอาทิตย์ได้ จะบอกให้ฟังครับ ขายของวันจันทร์ ผมบอกให้ฟังว่าเป็นนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเขา สมัยก่อนผมมาเป็นผู้ว่าฯ เขาที่นั่นบอกว่าเขาหยุดวันพุธ เขาขายหยุดวันพุธ ผมบอกว่าเลือกผม ผมไม่ค่อยหยุด ผมเลือกวันพุธ ผมมาอยู่ 4 ปีเขาขายกันตลอด 24 ชั่วโมง เพราะกินทุกวันนี่ครับ นี่มาหยุดวันจันทร์ ผมก็ถามว่าช่วยสังเกตหน่อยสิว่าวันจันทร์ผู้ว่าฯ เขาไม่กินข้าวหรืออย่างไร ค้าขาย อะไรกันนักหนา บอกว่าจะล้างถนน ก็ล้างบางถนนล้างให้เห็นหน้า ความจริง 90 เปอร์เซ็นต์ไม่ล้างหรอกครับ จะหยุดเพราะนโยบาย ผมถามครับว่าถ้าขายวันจันทร์จะมีใครตายไหม นี่สำนวนสมัคร ถามเลยว่าถ้าขายวันจันทร์จะมีใครตายไหม แม่ค้าบอกถ้าจะหยุดจริง ๆ แม่ค้าบอกหยุดวันอาทิตย์สิจะได้อยู่กับลูกกับผัว ไปหยุดทำไมวันจันทร์ เห็นไหมนี่แสดงว่าไม่สนับสนุนนโยบายรัฐบาล รัฐบาลเขาบอกว่าวันอาทิตย์วันครอบครัว เอาสิให้เขาหยุดวันอาทิตย์ เรื่องพรรค์อย่างนี้เรื่องอาหารการกินเขาไม่หยุด เขาไม่ปิดกัน ตรุษจีนบางร้านอาหารเขายังเปิดให้เลยสมัยนี้ เห็นไหมครับ หยุดวันจันทร์เพราะอะไร พูดไปเดี๋ยวก็จะว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ก็คนแต่ก่อนนี้เขาหยุดวันพุธ แล้วทำไมนายสมัครไม่ต้องหยุดเลย ทำไมอยู่กันมาได้ 4 ปี พอเปลี่ยนเข้ามาใหม่ต้องหยุดวันจันทร์ มีเหตุผลไหม ไม่มีเหตุผล ทำไปอย่างนั้นครับ แต่ว่ากำลังนี้ต้องพูดกับรองผู้ว่าฯ ครับ รองผู้ว่าฯ เขารักษาการ ลองพูดกับรองผู้ว่าฯ ดูสิว่าจะเลิกหยุดวันจันทร์ได้ไหม เขาได้ทำมาหากิน วันคนมาทำมาหากิน คนออกจากกระทรวงออกจากอะไรต้องไปกินข้าว หยุด ไม่มีหมด ตามร้านขายได้ แล้วร้านราคาเท่าไร ร้านราคา 35 ที่นั่นราคา 20 ร้านราคา 30 ที่นั่นราคา 20 เข้าร้านกันหมด ไม่เข้าท่า เข้าไปอยู่ซอกแซกในซอกในซอยก็ตามไปไล่เขา ที่ก้นซอยต้นสนคนอย่างกับหนอน ก็อยู่ตึกใหญ่โตมโหฬารแต่ก็ออกมาเวลากินข้าว ต้องมาหาที่เล็กทั้งนั้น ต้องกิน 20 - 30 บาท ต้องกินตรงนี้ทั้งนั้น ไปไล่หยุดเขา มีเหตุผลไหม ไม่มีเหตุผลเลย สกปรกเขาก็ไม่ได้สกปรก เกะกะก็ไม่ได้เกะกะ ก้นซอยต้นสนเข้าไปตั้งเกือบ 1 กิโลเมตร 800 กว่าเมตรแล้วไปห้ามเขาขาย ไม่มีเหตุผลครับ ผมบอกได้เลยว่าคณะบริหารที่กำลังทำนี้ไม่มีเหตุผลที่หยุดวันจันทร์ จะอ้างอะไร ถ้าสมมติให้ขายวันจันทร์จะมีใครตายไหมที่กทม. มีไหม ป่วยกันทั้งนั้นไหม ไม่หรอกครับ ก็ดีพ่อค้าแม่ค้าเขาจะได้ขายกันได้ อยู่ดี ๆ ไปตัดรอนเขาไม่เข้าท่าจริง ๆ ต้องบอกแม่ค้าไว้ว่า ผมพูดได้เท่านี้ครับ เพราะนายกรัฐมนตรีก็อยู่ประเทศ แต่เขาเรียกว่าการปกครองส่วนท้องถิ่น นโยบายเขาเป็นอย่างนั้น ความจริงผมยังอยากจะทำที่ว่าช่วยแม่ค้าหน่อย จะให้กระทรวงมหาดไทยเขาหารือ ผู้ว่าฯ ไม่อยู่ รองผู้ว่าฯ อยู่ จะวานรัฐมนตรีฯ เฉลิมฯ ลองเจรจา บอกขายวันจันทร์จะมีใครป่วยตายอะไรที่กทม.ไหม ผมจะลองดูครับ
คำถาม ขอให้นักวิชาการนักวิจารณ์ช่วยหยุดสัมภาษณ์วิจารณ์สัก 6 เดือน รัฐบาลทำงานก่อน
นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องครับ วิจารณ์ได้ เมื่อเช้าฟังท่านสันติกโร (สันติกโรภิกขุ) แล้ว ผมก็คิดอย่างเดียวกัน คือท่านเป็นพระมาก่อน เป็นพระฝรั่งครับแล้วมาพูด คือเขาวิพากษ์วิจารณ์ไม่เป็นไรครับ ผมทนได้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะให้ดูว่าผมจะทนได้อย่างไร มีเพลงหลวงวิจิตรฯ มาให้ได้ดูวันนี้
คำถาม รถไฟรางคู่จากมักกะสัน หัวหมาก จะดีมาก
นายกรัฐมนตรี อันนี้แน่นอนครับ 100 เปอร์เซ็นต์ลงมือแล้ว มาจากฉะเชิงเทรา มาเริ่มต้นเข้ามาตั้งแต่ทับช้าง หัวหมาก เข้ามาเลย คู่เลยครับ ยกระดับบ้างอยู่ข้างล่างบ้าง แล้วรถไฟเป็นรถไฟที่สั่งเข้ามาเพื่อการรถโดยสารชานเมือง พวกนี้อยู่บนราง 1 เมตรเหมือนเดิม ทำได้เร็วลงมือแล้วครับ แล้วจะมาต่อเชื่อมกับสถานี 1.435 อันนี้ลงมือได้ทันทีครับ เสร็จภายใน 42 เดือน ลงมือแล้ว
คำถาม อยากให้ท่านนายกฯ ช่วยเรื่องเงินก้อนของผู้สูงอายุ เงินก้อนของผู้เกษียณอายุก่อนราชการ กระทรวงกลาโหม ช่วยเรื่องเงินก้อนของผู้เกษียณอายุ
นายกรัฐมนตรี ต้องไปอ่านให้ชัดเจนหน่อยครับ อ่านแล้วไม่เข้าใจจริง ๆ ผมจะไปดูให้เรื่องนี้ครับ
คำถาม อยากทราบว่าโครงการผันแม่โขงดำเนินการอย่างไร
นายกรัฐมนตรี จะประชุมเรื่องนี้ ผันแม่น้ำโขง ฟังแล้วเหมือนกับไปขุดแม่น้ำโขงเข้าประเทศไทย ไม่ใช่หรอกครับ น้ำโขงมันขึ้นมาสูงเกินจาก 3 เมตร เราจะขอใช้สิทธิของเราทำเป็น tunnel เข้ามาแล้วมาทำอ่าง แล้วเก็บในอ่าง 4 เดือนที่อีสานต้องการใช้จะใส่ท่อแล้วจะคลุมลงไป อันนี้มีเหตุผลครับ แล้วอย่าไปพูดว่าผันแม่น้ำโขง น้ำมันล้นทิ้งลงทะเลไป เราเอาที่ล้นเข้ามาใช้บ้านเรา ดำเนินการแน่นอนขออย่าห่วงเรื่องนี้ แต่มีหลายคนเป็นศาสตราจารย์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บอกเพียงแต่คิดก็โง่แล้ว แล้วจะทำอย่างไรครับ ให้มันแล้งต่อไปอย่างนั้นหรือ พวกคนไม่มีความคิดนี่ละครับ ชอบมาเสนอความเห็นชนิดที่ว่านึกว่าตัวเองแน่ เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ก็เป็นไปเถอะครับ แต่มาเสนอความคิดแบบว่าเพียงแต่คิดจะเอาน้ำมาให้เราก็โง่แล้ว มันแย่จริง ๆ ผมยืนยันลงในหนังสือพิมพ์ ฉบับไหนที่ลงโฆษณาให้เขาลองไปอ่านดูด้วยครับ ลงบทความให้เขา ลงท้ายเลยบอกว่า เรื่องการผันน้ำอย่างที่นายสมัครคิด เพียงแต่คิดก็โง่แล้ว จะดูสิครับว่าใครโง่ใครฉลาดกันแน่ ถ้าผมมีโอกาสได้ทำงานให้บ้านเมืองนี้ต่อไป ที่ต้องย้ำตรงนี้เพราะว่าเขาจะให้มันยุบพรรคกันวันไหนยังไม่รู้ได้ ยังไม่จบครับ ขบวนการตามล่าตามล้างยังไม่จบ ยังพยายามกันอยู่ คือบอกไว้อย่างนี้ไม่ต้องการอะไรหรอกครับ คนอย่างผมได้เคยยืนยันไว้แล้วว่าต้นทุนน้อย ต้นทุนต่ำไม่เป็นไร ก็เป็นอยู่ธรรมดา แต่น่าสงสาร น่าเสียดายบ้านเมืองนี้ กว่าจะมาถึง กว่าจะตั้งตัวได้ ทั่วบ้านทั่วเมืองเขาหันหน้ามาแล้วกำลังจะดำเนินการ อ้าว จะถูกฆ่าเสียให้ตายแล้ว ใครคิดจะฆ่ารัฐบาลนี้ให้ตาย ใครคิดจะล้มล้างรัฐบาลนี้ ใครคิดจะยุบเลิกรัฐบาลนี้ พรรคนี้ ขอให้ใคร่ครวญดูหน่อย ผมไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัวผม ผมอยากเรียกร้องให้คิดถึงบ้านเมืองบ้าง ให้คิดบ้างครับ
แล้วถามว่าอย่างผมเป็นอย่างไร จะให้ดู วันนี้ที่จริงผมร้องได้ครับ แต่ว่าขอเขา วันนี้ขอคุณโฉมฉาย บอกผมกลัว 2 -3 บรรทัด กลัวจะอ่านเข้าใจผิด ความจริงผมมาตรวจแล้ว แสดงว่าผมเข้าใจถูก ผมเข้าใจคือจำได้หมด สมเด็จย่าท่านบอกไว้ว่าถ้าเรารู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ ให้ดูคนที่เขาเดือดร้อนยิ่งกว่า เรามีทุกข์ขนาดไหน ให้ดูคนที่เขาทุกข์ยิ่งกว่า เราจะได้ไม่ต้องไปทุกข์ทนขนาดอย่างนั้น ผมมีทุกข์กำลังนี้ ผมทุกข์เรื่องบ้านเมืองของผม ผมทุกข์เรื่องบ้านเมืองว่ากำลังจะเดินหน้าออกไป แต่กำลังจะมีคนที่จะฆ่าพรรคการเมืองที่บริหารอยู่ ให้สิ้นสุด จะมีคนยื้อยุดฉุดกัน จะต้องทำให้บ้านเมืองเหมือนกับว่าไม่น่าไว้วางใจ เพราะเขาบอกว่าจะเป็นรัฐตำรวจแล้ว กำลังจะจัดการ จะทำอะไรต่ออะไรเลวทรามต่ำช้า ถึงขนาดนัดกันมาแล้ว นัดกันมาแล้ว ยังไม่ถึงวันที่บอกแล้วว่ามา 30,000 เห็นไหมครับ แล้วคนที่ไปเคยปลุกระดมเอามาช่วยเขา ท่านลองดูสิ ท่านจะฟัดใครวันไหนอย่างไร ย้ำนะครับว่า ยังโยกย้ายข้าราชการอยู่ เพราะถ้าไม่โยกย้ายอย่ามาอาสาทำการเมือง ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะเปลี่ยนไป 4 คนเท่านั้น แต่เวลานี้เขาไม่รู้นโยบายใคร อาศัยขอให้ทำข่าว จะย้ายโน่นจะย้ายนี่ เห็นไหมแต่ก่อนนี้
เพลงโชคมนุษย์ ของหลวงวิจิตรฯ (พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ) เนื้อท่านบอกอย่างนี้ครับ โลกมนุษย์นี้ไม่มีที่แน่นอน ประเดี๋ยวเย็นประเดี๋ยวร้อนช่างแปรผัน โชคหมุนเวียนเปลี่ยนไปได้ทุก ๆ วัน สารพันหาอะไรไม่ยั่งยืน ชีวิตเหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่ ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน ต้องจำฝืนสู้ภัยไปทุกวัน เป็นการง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์ แต่คนที่ควรชมนิยมกัน ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา
ท่านทั้งหลายที่เคยร้องเพลง นึกถึงสุนทราภรณ์ออกไหมครับ ชีวิตเหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่ นี่ละครับ เห็นไหม เป็นงานง่ายยิ้มได้ไม่ต้องฝืน เมื่อชีพชื่นเหมือนบรรเลงเพลงสวรรค์ แต่คนที่ควรชมนิยมกัน ต้องใจมั่นยิ้มได้เมื่อภัยมา วันนี้ไม่ได้มีดนตรีครับ ร้องให้ฟังอย่างนี้ เนื้อเพลงนี้อยู่ในใจผม เหมือนเรือน้อยล่องลอยอยู่เวลานี้ ต้องต่อสู้แรงลมประสมคลื่น ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืน นี่เขาแดกดันกันทุกวันทุกฉบับ ทุกคอลัมน์ ต้องทนทานหวานสู้อมขมสู้กลืนครับ ต้องจำฝืนสู้ภัยไปทุกวัน เพราะว่าไม่รู้ว่าพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบวันไหน คิดดูแล้วกันครับ ใครจะนิติศาสตร์ ใครจะรัฐศาสตร์ ลองตรองดูบ้างครับ ว่าจะให้บ้านเมืองบรรลัยวายวอดลงไปต่อหน้าต่อตา ด้วยการอ้างถ้อยคำเอานิติศาสตร์จะเอากันให้เป็นให้ตาย ก่อนจะทำอะไรก็คิดถึงบ้านเมืองบ้างแล้วกันนะครับ วันนี้เวลาหมด อาทิตย์หน้าพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--