วันนี้ (18 พ.ค. 2565) เวลา 9.30 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสตีฟ เทรนท์ (Mr. Steve Trent) ผู้อำนวยการมูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environment Justice Foundation: EJF) เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมการหารือด้วย สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับผู้อำนวยการมูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง หลังจากได้พบกันเมื่อปี 2562 ซึ่งได้หารือกันในหลายประเด็น โดยเฉพาะความสำเร็จของไทยในการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing: IUU) ทั้งนี้ ขอบคุณ EJF ที่ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลไทยมุ่งมั่นการดำเนินการเพื่อปฏิรูปการประมงไทยให้มีความโปร่งใส ยั่งยืน และครอบคลุมในทุกมิติ
ผู้อำนวยการมูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อมยินดีที่ได้พบรองนายกรัฐมนตรี และหารือกับคณะผู้แทนจากฝ่ายรัฐบาลไทยในวันนี้ พร้อมหารือเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมการประมงไทย โดย EJF ได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และชื่นชมการเป็นผู้นำของรองนายกรัฐมนตรีที่ทุ่มเทแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายและปัญหาด้านแรงงานจนมีความก้าวหน้า ทั้งนี้ EJF ในฐานะพันธมิตรของรัฐบาลไทยเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะประสบความสำเร็จการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายได้ในที่สุด และหวังว่าในอนาคตความสำเร็จเหล่านี้จะช่วยพิสูจน์ยืนยันถึงความพยายามต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาโดยตลอด
รองนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการมูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อมได้หารือถึงการพัฒนาการประมงไทย ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไทยยังคงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการต่อต้านการประมงผิดกฎหมาย โดยได้ออกมาตรการ 4 แนวทาง ได้แก่ 1) การดำเนินการตามนโยบาย ในการพัฒนาการประมงของไทยให้ปลอดสัตว์น้ำและสินค้าสัตว์น้ำที่มาจากการทำประมง IUU (IUU-Free Thailand) อย่างมีประสิทธิภาพ 2) การสร้างความเข้มแข็งในความร่วมมือ การติดต่อสื่อสาร และแลกเปลี่ยนข้อมูล 3) การพัฒนามาตรฐานการควบคุมการนำเข้าสัตว์น้ำและสินค้าสัตว์น้ำ และ 4) การปรับปรุงระบบการตรวจสอบย้อนกลับของไทย นอกจากนี้ กรมประมงยังได้จัดทำโปสเตอร์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์แนวปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และแนวปฏิบัติกรณีลูกเรือเกิดอุบัติเหตุ โดยได้จัดทำทั้งภาษาไทยและอังกฤษ พร้อมขอรับการสนับสนุนจาก EJF ในการจัดแปลแนวปฏิบัติดังกล่าวเป็นภาษากัมพูชา และเมียนมา ซึ่งผู้อำนวยการ EJF หวังว่าไทยจะร่วมมือกับ EJF อย่างต่อเนื่อง พร้อมยินดีสนับสนุนการแปลแนวปฏิบัติฯ เป็นภาษากัมพูชาและเมียนมา
รองนายกรัฐมนตรียืนยันแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ของไทยสอดคล้องกับหลักการเพื่อความโปร่งใสในอุตสาหกรรมประมงและอาหารทะเลทั่วโลกของมูลนิธิฯ และยืนยันความร่วมมือกับประเทศในอาเซียนในการต่อต้านการทำประมง IUU ผ่านศูนย์เครือข่ายอาเซียน โดยได้พัฒนาระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการประมงออนไลน์ ซึ่งได้นำเสนอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนรับทราบ และภายใต้กรอบความร่วมมือของเอเปค ไทยได้มีการจัดทำ Roadmap ในการต่อต้านการทำประมง IUU โดยได้ร่วมกับสหรัฐฯ และมาเลเซีย จัดทำโครงการจัดการเครื่องมือประมงที่ถูกละทิ้งหรือสูญหาย เพื่อส่งเสริมการทำประมงที่ถูกกฎหมายและยั่งยืน ผู้อำนวยการ EJF ยินดีที่ทราบว่า รัฐบาลไทยมีความคืบหน้าอย่างมากในด้านการใช้กลไกที่โปร่งใส เชื่อว่าการนำหลักปฏิบัติด้านความโปร่งใสของ EJF มาปรับใช้จะช่วยสร้างภาคการประมงไทยให้ยั่งยืนได้ รวมทั้งเชื่อมั่นว่า ไทยจะใช้เวทีเอเปคที่ไทยเป็นเจ้าภาพให้นานาชาติได้รับทราบถึงความสำเร็จที่ไทยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th