วันนี้ (18 พฤษภาคม 2565 ) เวลา 15.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้โอวาทคณะนักเรียนไทยที่ได้รับรางวัลจากการเข้าประกวดและคว้ารางวัลในงาน ?โครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติ ประจำปี 2022 (Regeneron ISEF 2022)? ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม ณ เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมา โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ คณะครูผู้ฝึกสอนและนักเรียนไทยที่กลับจากการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับคณะนักเรียนไทยที่ได้รับรางวัลจากการเข้าประกวดและคว้ารางวัลในงานโครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยที่มีบุคลากรและทรัพยากรที่มีคุณภาพ ไม่น้อยหน้าไปกว่าประเทศอื่น โดยสิ่งที่น่าภูมิใจอย่างยิ่งคือ เยาวชนไทยเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถในด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัย ในการคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ สามารถเข้าร่วมประกวดโครงงานระดับโลกจนได้รับรางวัล ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญของการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศที่เยาวชนคนรุ่นใหม่จะเข้ามามีบทบาทในการคิดค้นพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศ ให้โครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้าและมีชื่อเสียง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการมองอนาคต สร้างโอกาส ด้วยการพัฒนาองค์ความรู้ สร้างการวิจัย สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาที่มีคุณภาพ เพื่อให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสูงบนฐานของเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่าทุกอย่างจะพัฒนาได้ด้วยคน และเยาวชนของเรา ที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าอยู่ในระดับต้นของโลก โดยรัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังคนของประเทศควบคู่กับการพัฒนาทางการศึกษาให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี ประเทศเจริญเติบโตสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต โดยเฉพาะการพัฒนาให้มีความรู้เท่าทัน มีภูมิคุ้มกันที่ดี และได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกช่วงวัย เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงยั่งยืนต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมทุกคนที่ได้รับรางวัล และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และขอให้ทุกคนศึกษา พัฒนาความรู้ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อต่อยอดเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศชาติ โดยย้ำถึงการนำศักยภาพที่ไทยมีอยู่ในด้านต่าง ๆ มาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ รวมถึงศักยภาพของทุกคนมาเป็นกำลังสำคัญในการนำพาประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ได้ ตลอดจนการบูรณาการร่วมกันให้สามารถปรับตัวเข้าหากัน เข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งลดลงมาให้ได้มากที่สุด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายตามที่เรากำหนดไว้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th