วันนี้ (วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565) เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางวีโยซา ออสมานี ซาดรีอู (H.E. Mrs. Vjosa Osmani Sadriu) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐคอซอวอ เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ และเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสตรีโลก (Global Summit of Women: GSW) ประจำปี 2565 โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีต้อนรับประธานาธิบดีคอซอวอ พร้อมทั้งชื่นชมบทบาทของประธานาธิบดีคอซอวอที่ได้ผลักดันประเด็นด้านสตรีในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง มีส่วนสร้างการรับรู้เกี่ยวกับคอซอวอแก่สาธารณชนชาวไทย ตลอดจนยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับคอซอวอมีพัฒนาการที่ดีมาตลอดระยะเวลา 9 ปี โดยการเยือนไทยในครั้งนี้ ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ในความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และมีส่วนช่วยเพิ่มพลวัตในความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับการเปิดทำการสถานเอกอัครราชทูตคอซอวอประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งถือเป็นสถานเอกอัครราชทูตคอซอวอแห่งแรกในอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของสถานเอกอัครราชทูตฯ อย่างเต็มที่ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างกัน
ประธานาธิบดีคอซอวอยินดีที่ได้เดินทางเยือนประเทศไทยและพบหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยในนามของประชาชนชาวคอซอวอ ที่ไทยได้ให้การรับรองคอซอวอ โดยไทยเป็นมิตรประเทศที่ดีของคอซอวอ และในปี 2566 จะครบรอบ 10 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ประธานาธิบดีคอซอวอหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างให้ใกล้ชิด ความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว และเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีคอซอวอหวังว่าจะได้มีโอกาสให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีในโอกาสเดินทางเยือนคอซอวอในอนาคต
นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีคอซอวอ เห็นพ้องกันว่า ไทยและคอซอวอยังมีโอกาส และศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างกันได้อีกมาก ได้แก่
ด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับคอซอวอ โดยไทยเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารลำดับต้น ๆ ของโลก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สินค้าฮาลาล และอีกหลายสาขาที่ภาคเอกชนสามารถร่วมมือกันได้ ประธานาธิบดีคอซอวอมีกำหนดการจะพบหารือกับนักธุรกิจสำคัญของไทยในการเยือนครั้งนี้ด้วยจึงถือเป็นโอกาสเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมให้การสนับสนุนหากภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายประสงค์ให้มีการจัดตั้งหอการค้าไทย-คอซอวอ
ด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมมือผลักดันการแลกเปลี่ยนด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมระหว่างกัน ประธานาธิบดีคอซอวอเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งสถานเอกอัครราชทูตคอซอวอประจำประเทศไทยจะมีส่วนช่วยส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนให้มีการหารือร่วมกันเพื่อจัดทำความตกลงด้านวัฒนธรรม แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ตลอดจนร่วมกันประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นผ่านช่องทางสื่อสารที่ทันสมัย
ด้านการพัฒนา นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ยินดีที่จะส่งเสริมความร่วมมือกับคอซอวอในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ อาทิ ความมั่นคงทางอาหาร การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การเกษตรอย่างยั่งยืน และการพัฒนาบุคลากร ภายใต้หลักสูตรฝึกอบรมนานาชาติประจำปี (Annual International Training Courses: AITC) ของกระทรวงการต่างประเทศ คอซอวอขอบคุณน้ำใจของไทย และแสดงความสนใจที่จะมีความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับไทยในสาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการศึกษา
สำหรับประเด็นที่คอซอวอแสดงความสนใจในการจัดทำความตกลงต่าง ๆ กับไทยเพิ่มเติม ได้แก่ ความตกลงเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน อนุสัญญาเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อน และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งกลไกการหารือทางการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมกันในรายละเอียดต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th