นายกรัฐมนตรีระบุได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อรับฟังสถานการณ์ความไม่สงบที่มีการก่อเหตุรุนแรงต่อเนื่อง และขณะนี้กลุ่มก่อความไม่สงบพยายามดึงปัญหาภาคใต้ให้เป็นเรื่องนานาชาติ
เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องว่า ได้รับรายงานอย่างละเอียดมาโดยตลอด ซึ่งในการประชุม ครม. วันนี้ได้มีมอบหมายให้ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อไปดูแลและรับฟังรายงานสถานการณ์แทนนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม มีคนไม่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีแสดงความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ดังนั้น เมื่อไม่วิพากษ์วิจารณ์ก็จะตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไร แต่กลับมีความเห็นจากสื่อมวลชนว่าสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการต้อนรับรัฐบาลใหม่ ซึ่งคงไม่จริง เพราะรัฐบาลทำงานมาได้เดือนครึ่งแล้ว จากการรายงานของพื้นที่ระบุว่าฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบจะก่อเหตุร้ายประมาณวันที่ 13-15 มีนาคม แต่สุดท้ายกลุ่มเหล่านี้ได้ก่อเหตุในวันที่ 16 มีนาคม แล้วมีการเผื่อไปถึงวันที่ 20 มีนาคม และที่ไม่มีข่าวออกมานั้น ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำงาน ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินการเป็นการภายในมาโดยตลอด และในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ของตัวเองและสามารถทำได้ แม้จะอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ตาม
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 4 และนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาและติดตามสถานการณ์ภาคใต้มาโดยตลอด แต่ไม่ได้แถลง
“ก็ระวังกันอยู่ระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม แต่มาเกิดเหตุในวันที่ 16 มีนาคม แต่เคราะห์ดีที่ทิ้งหลักฐานไว้จากระเบิดที่ไม่ทำงาน1 ลูก จึงรู้ว่ามีการไปเอามาจากจังหวัดตราด หายไป 21 ลูก นั่งเรือข้ามฟากจากอ่าวไทยมา รู้รายละเอียดหมด รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร นับถือศาสนาไหน อยากจะบอกว่าสังคมไทยสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะเมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมา พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ แต่ปรากฏว่าสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั้งหลาย ทำตัวเป็นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยากออกโทรทัศน์ อยากดัง ตอบคำถามเกือบทั้งหมด ความจริงไม่ใช่หน้าที่ของสื่อที่จะอ้างว่าจะให้ประชาชนได้รู้ ของบางสิ่งบางอย่างควรให้สถานการณ์ฟักตัวเองบ้าง ไม่ใช่หน้าที่สื่อจะมาตั้งคำถาม และตำรวจก็ตอบคำถามทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผมจะแถลงให้ทราบความคืบหน้าเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เท่าที่ข่าวจะเป็นไปได้ ส่วนการจะสอบสวนหาต้นตอต่าง ๆ ยังพูดไม่ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการเสนอความคิดเรื่องนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวบ้าง แต่คงต้องระมัดระวัง เพราะสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของไทยนั้น มีความพยายามที่จะดึงให้ไปสู่ระดับนานาชาติ ฝ่ายรัฐบาลไทยต้องการให้อยู่ในขอบเขตของเรา ในพื้นที่มีอยู่ 6 กลุ่ม มี 2 กลุ่มที่เคลื่อนไหวพยายามทำให้เป็นเรื่องของนานาชาติ ขณะนี้เรารู้ว่ากำลังมีการเจรจาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้อ่านรายงานการเจรจาแล้ว ยังโยนไปโยนมา แต่รัฐบาลไทยได้ยืนยันและยังไม่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของนานาชาติ แต่คงไม่กล้าอวดว่าตนเองรู้ ทั้งหมด คงไม่ได้ แต่รู้ในรายละเอียดเท่าที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรู้ ไม่ใช่นั่งหลับตาแล้วไม่ทำงาน อย่างไรก็ตาม ได้เห็นภาพความโหดร้ายรุนแรง พระถูกฟันศีรษะ พระถูกฆ่ากลางถนน ถึงขนาดกลับไปกินข้าวไม่ได้ เห็นแล้วน้ำตาตกใน ดูแล้วเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ในหัวอก แต่ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ เพราะถ้าพูดแล้วก็จะถูก ต่อว่า แต่ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานอยู่และโปรดเห็นใจกันบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คน 2 กลุ่มที่เคลื่อนไหวพยายามดึงเรื่องใต้ให้เป็นเรื่อของนานาชาติเป็นกลุ่มใด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่ารัฐบาลจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาคใต้อยู่ในระดับสำคัญที่สุดในชีวิต ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวเจรจาในเรื่องใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาต้องการให้รัฐบาลไทยไปเจรจาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเดิมในการพูดคุยกับแกนนำกลุ่มความไม่สงบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาไม่เห็นด้วยที่จะให้รัฐบาลไปเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบ ยังถ่วงเวลาเรื่องนี้อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงจะมาอวดศักดิ์ดาไม่ได้ บทเรียนของตนอย่างกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พูดคำว่า “โจรกระจอก” แค่คำเดียวจนถึงวันนี้ก็ยังพูดกันอยู่ ซึ่งขอบอกอีกครั้งว่าเป็นการพยายามที่จะดึงให้ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องของนานาชาติ และวันนี้ประชาชนอยู่ข้างรัฐบาล อย่างเหตุการณ์ระเบิดที่มัสยิดเช้าวันนี้ (18 มี.ค.) แปลว่าเขากำลังฆ่าคนกันเอง คนที่ลงมือฆ่าเหล่านี้ต้องไม่ใช่เป็นคนพุทธ คนมุสลิม แต่เป็นคนที่ไม่มีศาสนา ซึ่งเชื่อว่าวันหนึ่งพระเจ้าจะไม่เข้าข้างคนผิด สักวันคนผิดต้องถูกลงโทษ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องว่า ได้รับรายงานอย่างละเอียดมาโดยตลอด ซึ่งในการประชุม ครม. วันนี้ได้มีมอบหมายให้ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อไปดูแลและรับฟังรายงานสถานการณ์แทนนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม มีคนไม่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีแสดงความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ดังนั้น เมื่อไม่วิพากษ์วิจารณ์ก็จะตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไร แต่กลับมีความเห็นจากสื่อมวลชนว่าสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการต้อนรับรัฐบาลใหม่ ซึ่งคงไม่จริง เพราะรัฐบาลทำงานมาได้เดือนครึ่งแล้ว จากการรายงานของพื้นที่ระบุว่าฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบจะก่อเหตุร้ายประมาณวันที่ 13-15 มีนาคม แต่สุดท้ายกลุ่มเหล่านี้ได้ก่อเหตุในวันที่ 16 มีนาคม แล้วมีการเผื่อไปถึงวันที่ 20 มีนาคม และที่ไม่มีข่าวออกมานั้น ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำงาน ที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินการเป็นการภายในมาโดยตลอด และในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ของตัวเองและสามารถทำได้ แม้จะอยู่ที่กรุงเทพฯ ก็ตาม
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 4 และนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาและติดตามสถานการณ์ภาคใต้มาโดยตลอด แต่ไม่ได้แถลง
“ก็ระวังกันอยู่ระหว่างวันที่ 12-15 มีนาคม แต่มาเกิดเหตุในวันที่ 16 มีนาคม แต่เคราะห์ดีที่ทิ้งหลักฐานไว้จากระเบิดที่ไม่ทำงาน1 ลูก จึงรู้ว่ามีการไปเอามาจากจังหวัดตราด หายไป 21 ลูก นั่งเรือข้ามฟากจากอ่าวไทยมา รู้รายละเอียดหมด รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร นับถือศาสนาไหน อยากจะบอกว่าสังคมไทยสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะเมื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นมา พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ แต่ปรากฏว่าสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั้งหลาย ทำตัวเป็นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยากออกโทรทัศน์ อยากดัง ตอบคำถามเกือบทั้งหมด ความจริงไม่ใช่หน้าที่ของสื่อที่จะอ้างว่าจะให้ประชาชนได้รู้ ของบางสิ่งบางอย่างควรให้สถานการณ์ฟักตัวเองบ้าง ไม่ใช่หน้าที่สื่อจะมาตั้งคำถาม และตำรวจก็ตอบคำถามทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผมจะแถลงให้ทราบความคืบหน้าเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เท่าที่ข่าวจะเป็นไปได้ ส่วนการจะสอบสวนหาต้นตอต่าง ๆ ยังพูดไม่ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการเสนอความคิดเรื่องนี้ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวบ้าง แต่คงต้องระมัดระวัง เพราะสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาคใต้ของไทยนั้น มีความพยายามที่จะดึงให้ไปสู่ระดับนานาชาติ ฝ่ายรัฐบาลไทยต้องการให้อยู่ในขอบเขตของเรา ในพื้นที่มีอยู่ 6 กลุ่ม มี 2 กลุ่มที่เคลื่อนไหวพยายามทำให้เป็นเรื่องของนานาชาติ ขณะนี้เรารู้ว่ากำลังมีการเจรจาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้อ่านรายงานการเจรจาแล้ว ยังโยนไปโยนมา แต่รัฐบาลไทยได้ยืนยันและยังไม่ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของนานาชาติ แต่คงไม่กล้าอวดว่าตนเองรู้ ทั้งหมด คงไม่ได้ แต่รู้ในรายละเอียดเท่าที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรู้ ไม่ใช่นั่งหลับตาแล้วไม่ทำงาน อย่างไรก็ตาม ได้เห็นภาพความโหดร้ายรุนแรง พระถูกฟันศีรษะ พระถูกฆ่ากลางถนน ถึงขนาดกลับไปกินข้าวไม่ได้ เห็นแล้วน้ำตาตกใน ดูแล้วเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ในหัวอก แต่ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ เพราะถ้าพูดแล้วก็จะถูก ต่อว่า แต่ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานอยู่และโปรดเห็นใจกันบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คน 2 กลุ่มที่เคลื่อนไหวพยายามดึงเรื่องใต้ให้เป็นเรื่อของนานาชาติเป็นกลุ่มใด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่ารัฐบาลจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาภาคใต้อยู่ในระดับสำคัญที่สุดในชีวิต ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวเจรจาในเรื่องใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาต้องการให้รัฐบาลไทยไปเจรจาด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเดิมในการพูดคุยกับแกนนำกลุ่มความไม่สงบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ได้รับฟังจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาไม่เห็นด้วยที่จะให้รัฐบาลไปเจรจากับกลุ่มก่อความไม่สงบ ยังถ่วงเวลาเรื่องนี้อยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงจะมาอวดศักดิ์ดาไม่ได้ บทเรียนของตนอย่างกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พูดคำว่า “โจรกระจอก” แค่คำเดียวจนถึงวันนี้ก็ยังพูดกันอยู่ ซึ่งขอบอกอีกครั้งว่าเป็นการพยายามที่จะดึงให้ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องของนานาชาติ และวันนี้ประชาชนอยู่ข้างรัฐบาล อย่างเหตุการณ์ระเบิดที่มัสยิดเช้าวันนี้ (18 มี.ค.) แปลว่าเขากำลังฆ่าคนกันเอง คนที่ลงมือฆ่าเหล่านี้ต้องไม่ใช่เป็นคนพุทธ คนมุสลิม แต่เป็นคนที่ไม่มีศาสนา ซึ่งเชื่อว่าวันหนึ่งพระเจ้าจะไม่เข้าข้างคนผิด สักวันคนผิดต้องถูกลงโทษ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--