นายกรัฐมนตรีระบุหากสื่อรักและอยากช่วยบ้านเมือง อย่าประโคมข่าวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และเชื่อคงไม่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ว่า เห็นด้วยกับ กรณีที่นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบและฉุดเศรษฐกิจของประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันที่ 28 มีนาคมนี้ อาจจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เกิด ถ้าหากสื่อมวลชนรักและอยากช่วยบ้านเมืองก็ต้องไม่ประโคมข่าวเหล่านี้ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในวันดังกล่าวคงไม่มีอะไร เพราะคนที่จะไปร่วมชุมนุมต้องรู้ว่าไปชุมนุมทำเพื่ออะไร บ้านเมืองเพิ่งเปลี่ยนมาได้เดือนกว่า ๆ แล้วจะออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม คนที่จะไปร่วมคงอายประชาชนทั้งประเทศ จะตอบคำถามคนที่บ้านว่าไปทำไม ส่วนคนที่จัดชุมนุมเขาคงไม่อาย เพราะเป็นคนจัดเอง
“ถ้ามีเหตุมีผลสถานการณ์สุกงอมจริง ๆ แล้ว มันก็ปลิดจากขั้วได้ แต่ถ้ายังห่าม ๆ อยู่ ยางยังซึม ๆ อยู่ แล้วจะมาปลิดเลยหรือ อย่างกล้วยหอมสุก ถ้าจับมันก็หลุดออกจากขั้ว แต่ถ้ากล้วยดิบ ๆ จะไปปลิดออกมาก็ต้องฉีกออก เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเตือนบรรดาลูกพรรคพลังประชาชนอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้มีการเตรียมชุมนุมคู่ขนานกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่ได้สนับสนุนในเรื่องดังกล่าว แต่เป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าการที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ไปเคลื่อนไหวและเป็น 1 ใน 5 อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ดังนั้น หากใครจะไปทำบ้าง ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเหมือนกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ว่า เห็นด้วยกับ กรณีที่นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่งผลกระทบและฉุดเศรษฐกิจของประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันที่ 28 มีนาคมนี้ อาจจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เกิด ถ้าหากสื่อมวลชนรักและอยากช่วยบ้านเมืองก็ต้องไม่ประโคมข่าวเหล่านี้ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในวันดังกล่าวคงไม่มีอะไร เพราะคนที่จะไปร่วมชุมนุมต้องรู้ว่าไปชุมนุมทำเพื่ออะไร บ้านเมืองเพิ่งเปลี่ยนมาได้เดือนกว่า ๆ แล้วจะออกมาเคลื่อนไหวชุมนุม คนที่จะไปร่วมคงอายประชาชนทั้งประเทศ จะตอบคำถามคนที่บ้านว่าไปทำไม ส่วนคนที่จัดชุมนุมเขาคงไม่อาย เพราะเป็นคนจัดเอง
“ถ้ามีเหตุมีผลสถานการณ์สุกงอมจริง ๆ แล้ว มันก็ปลิดจากขั้วได้ แต่ถ้ายังห่าม ๆ อยู่ ยางยังซึม ๆ อยู่ แล้วจะมาปลิดเลยหรือ อย่างกล้วยหอมสุก ถ้าจับมันก็หลุดออกจากขั้ว แต่ถ้ากล้วยดิบ ๆ จะไปปลิดออกมาก็ต้องฉีกออก เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเตือนบรรดาลูกพรรคพลังประชาชนอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้มีการเตรียมชุมนุมคู่ขนานกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนไม่ได้สนับสนุนในเรื่องดังกล่าว แต่เป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตย ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าการที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ไปเคลื่อนไหวและเป็น 1 ใน 5 อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ดังนั้น หากใครจะไปทำบ้าง ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเหมือนกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--