วันนี้ (8 กรกฎาคม 2565) เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผลงานดีเด่นด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรม ประจำปี 2565 แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อสารมวลชนที่มีผลงานดีเด่นด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวน 70 คน/หน่วยงาน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานส่งเสริม สนับสนุน ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ตั้งใจทำงานด้วยความมุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียร วิริยะ อุตสาหะ สร้างความสงบสุขให้แก่สังคม ทั้งยังเป็นการเผยแพร่เกียรติคุณของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับโล่ฯ อันจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น เพื่อร่วมสร้างสรรค์การทำงานดี ๆ ให้แก่สังคมต่อไป โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บริหารกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้ได้รับรางวัล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีรับชมวีดิทัศน์เกี่ยวกับผลการดำเนินงานการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์และภาพรวมการสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากนั้น นายกรัฐมนตรีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผลงานดีเด่นการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ประจำปี 2565 จำนวน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการบริหารงานการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 8 คน 2) ด้านสืบสวนสอบสวนป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 40 คน และ 3) ด้านการส่งเสริมการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ จำนวน 22 หน่วยงาน แล้วกล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณฯ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และทุ่มเทในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามภัยด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อช่วยแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ทุกคนร่วมกันรักษาความดี เพื่อเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นต่อไปด้วย พร้อมเป็นกำลังใจให้ผู้ทำงานในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับปฏิบัติ ตลอดจนผู้บริหาร เพื่อร่วมกันสร้างความเข้มแข็งในหน่วยงาน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เทคโนโลยีและการสื่อสารต่าง ๆ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญกับวิถีชีวิตของทุกคนมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและความมั่นคงของประเทศ และที่ผ่านมามีประชาชนได้รับผลกระทบและความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจำนวนมาก ทั้งนี้ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด และเป็นประเด็นเร่งด่วนในการแก้ปัญหาเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยมีนโยบายเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยี และดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นระบบ ทั้งการพัฒนาเครื่องมือที่ทันสมัย มีความทันต่อเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อทำให้การสืบสวนสอบสวน ป้องกัน ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหาย และบรรเทาความเดือดร้อนที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน รวมทั้งบูรณาการการทำงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวัง ร่วมมือกันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้ประชาชนมีหลักคิด มีข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้อง และสร้างความสงบสุขในสังคม
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการจัดทำชุดความรู้สื่อประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล โดยมีการบูรณการการทำงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้เกี่ยวกับกลวิธีและการสังเกตพฤติกรรม ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ รวมทั้งการระมัดระวังการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ 5 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมลงนามกับรัฐมนตรีกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ใน MOU เรื่อง ความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam เพื่อเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ไร้พรมแดนในยุคปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นการป้องกันและปราบปรามเหตุดังกล่าวในวงกว้าง นับเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของประเทศ และเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลเพื่อรับมือแนวโน้มอาชญากรรมยุคใหม่ที่มีรูปแบบเป็นภัยทางออนไลน์มากขึ้น
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การประสานความร่วมมือบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานเพื่อดำเนินการกับกลุ่มผู้กระทำความผิด โครงการจ่าฮูกสอนเด็ก จิตอาสาเตือนภัย ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผ่านศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1212 โดยเป็นผู้ร้องเรียนเรื่องการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้วไม่ได้รับสินค้า ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้มีการบันทึกข้อมูลพร้อมให้คำแนะนำขั้นตอนว่าควรทำอย่างไร ในขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้รีบดำเนินการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน สั่งติดตาม ตรวจสอบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป เพราะปัญหาดังกล่าวมีรายงานว่าได้รับแจ้งเข้ามาจำนวนมาก โดยรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ กำลังเร่งจัดระเบียบเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว พร้อมขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th