วันนี้ (12 กรกฎาคม 2565) เวลา 14.30 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายมาร์ก กุดดิง (H.E. Mr. Mark Gooding) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรียินดีกับเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ เชื่อมั่นว่าความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย ? สหราชอาณาจักรให้เพิ่มพูนและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยพร้อมที่จะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ เพื่อผลักดันความร่วมมือให้ครอบคลุมในทุกมิติ
ด้านเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ กล่าวขอบคุณและยินดีที่ได้มาดำรงตำแหน่งในประเทศไทย โดยไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งยืนยันที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นและต่อยอดความร่วมมือไปยังภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ด้วยการสานต่อความร่วมมือระหว่างกันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกมิติ รวมทั้งยินดีที่จะริเริ่ม ผลักดันข้อตกลงต่าง ๆ ให้เกิดความร่วมมือที่มากขึ้นในอนาคต เช่น ด้านสุขภาพและการแพทย์ เศรษฐกิจ และการศึกษา
ด้านความร่วมมือทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความก้าวหน้าของการจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ไทย - สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 1 และการหารือเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Dialogue) ไทย ? สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 4 ที่กรุงลอนดอน โดยรองนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าจะสามารถขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้านเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ขณะที่เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ ยินดีที่ความคืบหน้าของการจัดการประชุมดังกล่าวเป็นไปได้ด้วยดี โดยปัจจุบันได้หารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ของไทยมาอย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันต่อไป
ด้านความมั่นคง ไทยและสหราชอาณาจักรได้ลงนามบันทึกความเข้าใจและหนังสือแสดงเจตจำนงหลายฉบับ ทั้งในด้านการป้องกันประเทศ การต่อต้านการก่อการร้าย ซึ่งเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ เห็นพ้องว่าจะใช้ประโยชน์จากกรอบดังกล่าวในการยกระดับความร่วมมือทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และขยายความร่วมมือไปสู่สาขาอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ เช่น การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเด็กทางออนไลน์ (Children?s Online Privacy Protection) ซึ่งสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญและมีความเชี่ยวชาญสูง โดยปัจจุบันได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรฯ ได้สอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทย โดยรองนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า ไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง ซึ่งจำเป็นต่อการจัดการเลือกตั้งทั่วไป โดยเมื่อมีผลบังคับใช้แล้วจะมีการประกาศกำหนดวันเลือกตั้งและดำเนินการจัดการเลือกตั้งที่มีความโปร่งใสตามกรอบกฎหมายต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th