วันนี้ (8 สิงหาคม 2565) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายโจนาทาน เดล คิงส์ (H.E. Mr. Jonathan Dale Kings) เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีกับการเข้ารับตำแหน่งในประเทศไทย หวังว่าจะสานต่อและขยายความร่วมมือทวิภาคี รวมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้นทั้งในระดับภูมิภาค อนุภูมิภาค และเวทีพหุภาคี นอกจากนี้ ยังฝากความระลึกถึงไปยังนายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ ซึ่งได้มีโอกาสหารือทวิภาคีกันในหลายโอกาสถึงความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคต่อจากนิวซีแลนด์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 หวังว่าจะได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในการประชุมผู้นำเอเปคที่ประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้
เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ ยินดีที่ได้รับตำแหน่งในประเทศไทย โดยไทยและนิวซีแลนด์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกมิติต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยถือเป็นมิตรประเทศที่สำคัญ พร้อมยืนยันจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสานต่อความร่วมมือต่าง ๆ ของสองประเทศ ทั้งการเพิ่มมูลค้าทางการค้าและการลงทุน การส่งเสริมความร่วมมือด้านท่องเที่ยวเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี ทั้งในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง อาเซียน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และความร่วมมือในประเด็นระดับโลก
ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การค้าระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ในปี 2564 ขยายตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของทั้งสองประเทศแม้ต้องเผชิญกับโควิด - 19 นายกรัฐมนตรีเชิญชวนนักธุรกิจและนักลงทุนจากนิวซีแลนด์ให้มาร่วมลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่นิวซีแลนด์มีความเชี่ยวชาญ อาทิ การเกษตรอัจฉริยะ และเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ BCG ของไทย และแผนเศรษฐกิจ 30 ปีของนิวซีแลนด์ โดยไทยมุ่งที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีและดิจิทัลเพื่อเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานของโลกอย่างมีศักยภาพ ซึ่งเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ ยินดีผลักดันให้มูลค้าการค้าของทั้งสองฝ่ายเพิ่มมากขึ้น และจะพิจารณาส่งเสริมให้ภาคเอกชนของนิวซีแลนด์เข้ามาลงทุนใน EEC
ด้านการเกษตรและอาหาร นายกรัฐมนตรีหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะแสวงหาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการเกษตรและปศุสัตว์ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมดิบอย่างยั่งยืนของเกษตรกรโคนมไทย เพื่อพัฒนาโคนมระหว่างกัน ตลอดจนความร่วมมือด้านนวัตกรรมอาหารที่นิวซีแลนด์มีศักยภาพ ซึ่งเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ ยินดีแลกเปลี่ยนความร่วมมือและประสบการณ์กับไทย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น
ในตอนท้าย ทั้งสองได้หารือถึงความร่วมมือในกรอบพหุภาคี โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของอาเซียน-นิวซีแลนด์ที่ดำเนินมาอย่างราบรื่นตลอด 47 ปี และขอบคุณนิวซีแลนด์ที่ช่วยอาเซียนในการรับมือกับโควิด - 19 รวมทั้งยินดีที่นิวซีแลนด์ได้แสดงความประสงค์เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ฯ ยังได้หารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเอกอัครราชทูตชื่นชมบทบาทของไทยในการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่เมียนมา พร้อมทั้งยินดีสนับสนุนไทยอย่างเต็มที่ในการเป็นเจ้าภาพเอเปคในปีนี้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th