วันนี้ (15 สิงหาคม 2565) เวลา 09.00 น. ณ จังหวัดสระบุรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ จังหวัดสระบุรี เพื่อตรวจสอบความพร้อมกลไกต่าง ๆ และแผนรับมือการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง ไม่ให้กระทบชุมชนท้ายน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก พร้อมรับฟังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลสรุปการดำเนินงานจัดการน้ำ
รองนายกรัฐมนตรีรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำภาพรวม แผนด้านทรัพยากรน้ำสระบุรี ความก้าวหน้า 13 มาตรการรับมือน้ำฤดูฝน แผนบริหารจัดการน้ำเขื่อนป่าสัก และแนวทางระบายน้ำฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง จากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ณ ศาลากลางจังหวัดสระบุรี
รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการ สทนช. ร่วมกับกรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และฝ่ายปกครองระดับจังหวัด บูรณาการการทำงานร่วมกับศูนย์อำนวยการส่วนหน้า สทนช. ที่จัดตั้งขึ้น ดำเนินการให้เป็นไปตามแผนรับมือฤดูฝน 13 มาตรการ โดยให้ปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องจากมรสุมในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลพื้นที่หลายจังหวัดมีน้ำท่วมขังสูง โดยเฉพาะพื้นที่ริมลำน้ำสายหลักยังคงต้องเฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศแจ้งเตือนประชาชนให้ทันกับสถานการณ์ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนทันที เน้นการมีส่วนร่วมมากขึ้น
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวกำชับเพิ่มเติมให้กรมชลประทาน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และแม่น้ำป่าสัก รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก เพื่อรองรับการระบายมวลน้ำทางตอนเหนือลงพื้นที่ท้ายน้ำ ไม่ให้กระทบชุมชนท้ายน้ำริมเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล พร้อมกันนี้ ขอให้เร่งรัดซ่อมคันดิน 23 วา คลองชัยนาท - ป่าสัก ที่เสียหายจากพายุเตี้ยนหมู่ในปี 2564 ให้เสร็จทันเดือนสิงหาคม 2565 นี้ เพื่อควบคุมระดับน้ำไม่ให้กระทบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเดิมกว่า 16,500 ไร่ และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองวางแผนจัดทำเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักในพื้นที่จังหวัดสระบุรีต่อเนื่อง
รวมทั้ง รองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางลงพื้นที่ ตรวจสอบความคืบหน้าจุดซ่อมแซมคันกั้นน้ำ คลองชัยนาท - ป่าสัก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเริงลา อำเภอบ้านหมอ การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสัก และการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณวัดเชียงราก พร้อมกับพบปะ สอบถามทุกข์สุข และเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยย้ำว่ารัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือ ร่วมแก้ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น และให้การช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยทั่วกัน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th