วันนี้ (18 สิงหาคม 2565) เวลา 11.00 น. ณ อาคารรัฐสภา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 1 นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 1 และนายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับมอบหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนประชาชนชุมชนรอบวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร กรณีที่ทางวัดขอให้ผู้เช่าออกจากพื้นที่เช่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้เช่าที่เป็นร้านค้าและที่อยู่อาศัยโดยรอบ รวมถึงทำลายอาคารสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์อายุกว่า 100 ปี
ที่ผ่านมาทางวัดได้ออกหนังสือ ที่ 066/2563 ลงวันที่ 18 ธันวาคม 2563 แจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยระบุเนื้อความว่าทางวัดมีโครงการจะก่อสร้างอาคารปฏิบัติ ในปี 2565 โดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติงดต่อสัญญาเช่าที่ดินและอาคารศาสนสมบัติของทางวัด โดยให้ผู้เช่าออกจากพื้นที่เช่าภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งประชาชนโดยรอบมองว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นการทำลายศาสนสมบัติอันทรงคุณค่าของชาติ โดยเฉพาะอาคารที่มีสถาปัตยกรรมงดงามที่ตั้งอยู่บนถนนตรีทอง แขวงราชบพิตร เขตพระนคร มีอายุกว่า 100 ปี รวมถึงชุมชนโดยรอบที่มีอาคารและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ หากทางวัดไม่ร่วมอนุรักษ์ชุมชนดังกล่าวให้อยู่คู่กับวัด จะขัดต่อหลักปฏิบัติ ?บวร? คือ บ้าน วัด โรงเรียน อยู่ร่วมกันในชุมชนอย่างสงบสุข
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน ในส่วนของการดำเนินการขั้นต่อไปตนจะเร่งหารือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที เพื่อพิจารณาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ประชาชนในพื้นที่ วัด โรงเรียน สามารถอยู่ร่วมกันด้วยความปกติสุข รวมถึงร่วมกันอนุรักษ์สมบัติของวัดซึ่งเป็นศาสนสมบัติอันทรงคุณค่าของชาติ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหานี้ด้วยความละเอียด ถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงความสุขของประชาชนและประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติมากที่สุด
ด้าน ส.ส.กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า พื้นที่ที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่อาศัยมากว่า 100 ปี ประกอบกับมีอาคารบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์งดงาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงการเป็นเขตพระนคร เขตเมืองเก่าที่หายากในปัจจุบัน และเพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่สามารถอยู่อาศัยได้ จึงขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาพิจารณาเรื่องนี้โดยคำนึงถึงพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th