วันนี้ (22 สิงหาคม 2565) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล อูชิซเว (H.E. U Chit Swe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับการเข้ารับตำแหน่งของเอกอัครราชทูตฯ เชื่อมั่นว่าความสามารถของเอกอัครราชทูตฯ จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยเมียนมาในฐานะ ?หุ้นส่วนยุทธศาสตร์โดยธรรมชาติ? ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ รัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนการดำรงตำแหน่งของเอกอัครราชทูตฯ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวโยงกันอย่างลึกซึ้งของทั้งสองประเทศ และประสงค์ให้รักษาปฏิสัมพันธ์และความร่วมมือในระดับต่าง ๆ ไว้เสมอ
เอกอัครราชทูตเมียนมาฯ ยินดีที่ได้รับตำแหน่งในประเทศไทย และยินดีที่ได้พบนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะสานต่อความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม และพัฒนาด้านอื่น ๆ ต่อไป โดยชื่นชมศักยภาพของไทยในทุกด้าน รวมทั้งเชื่อมั่นในมาตรการทางเศรษฐกิจของไทย ทั้งนี้ เชิญชวนนักลงทุนไทยให้ไปลงทุนในเมียนมาในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ
ความร่วมมือในการรักษาความสงบตามแนวชายแดนและการแก้ไขประเด็นข้ามแดน นายกรัฐมนตรีปรารถนาที่จะเห็นความสงบเรียบร้อยเพื่อการค้าขาย อย่างไรก็ดี ยังมีข้อห่วงกังวลต่อประเด็นต่างๆ ซึ่งขอขอบคุณเมียนมาที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์และอาชญากรรมข้ามชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะปัญหาแก๊ง Call center และเว็บพนันออนไลน์ พร้อมขอบคุณเมียนมาที่ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานไทยในการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ประสบปัญหาในช่วงที่ผ่านมา
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ยินดีกับการสนับสนุนการทำธุรกรรมระหว่างกัน ซึ่งเมียนมาได้อนุญาตให้ใช้เงินบาทกับเงินจั๊ตได้โดยตรง เป็นประโยชน์กับการค้าชายแดนที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าของทั้งสองประเทศ ซึ่งไทยขอให้รัฐบาลเมียนมาดูแลนักลงทุนไทย และหวังว่าเศรษฐกิจของเมียนมาจะกลับมาฟื้นตัวโดยเร็ว
ความร่วมมือด้านพลังงาน ไทยยินดีกับความร่วมมือระหว่างกันด้านพลังงานที่มีมาตลอดและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ
ความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีขอบคุณแรงงานเมียนมาที่มีส่วนช่วยสร้างการพัฒนาในไทย โดยขอให้แรงงานเมียนมาในไทยปฏิบัติตามขั้นตอน กฎหมายให้ถูกต้อง
ซึ่งในตอนท้ายทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าหวังให้ความสงบและเสถียรภาพกลับคืนสู่เมียนมาในเร็ววัน ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และชื่นชมความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของไทยและเมียนมาที่อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือเพื่อการบริจาควัคซีนโควิด ? 19 เพิ่มเติมแก่เมียนมาในอนาคต
ที่มา: http://www.thaigov.go.th