นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (30 สิงหาคม 2565) เวลา 09.00 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำผู้บริหารบริษัท น้ำตาลสระบุรี จำกัด ผู้บริหารบริษัท ไทยสแตนเลย์ การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าพบ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย
สำหรับโครงการแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกษตรทฤษฎีใหม่ พร้อมส่งเสริมให้นายจ้าง ลูกจ้างสามารถพึ่งพาตนเองได้ ภายใต้สถานการณ์วิกฤตตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และลดภาระค่าใช้จ่ายภายใต้สถานการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจ สังคม และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกจ้างอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ในปี 2564 มีสถานประกอบกิจการทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ จำนวน 99 แห่ง ลูกจ้างได้รับประโยชน์ จำนวน 26,426 คน สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนของลูกจ้างได้เฉลี่ยคนละ 500-1,500 บาทต่อเดือน และเพิ่มรายได้ในครัวเรือนของลูกจ้างได้เฉลี่ยคนละ 500-2,500 บาทต่อเดือน และยังคงขยายผลโครงการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน ปี 2565 มีสถานประกอบกิจการทั่วประเทศที่เห็นความสำคัญและเข้าร่วมเพิ่มเติมอีกจำนวน 303 แห่ง รวม 402 แห่ง ลูกจ้างได้รับประโยชน์ 41,752 คน คิดเป็นมูลค่า 21,552,127 บาท และในปี 2566 มีเป้าหมายให้สถานประกอบกิจการทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 300 แห่ง
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมผลการดำเนินงานโครงการแรงงานพันธุ์ดี ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ขอให้ร่วมกันพัฒนาและขับเคลื่อนโครงการฯ ต่อไป เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกจ้างและเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน พร้อมเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานทุกคน.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th