น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (1 กันยายน 2565) เวลา 09.30 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี? รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและบริโภค ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี ณ สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา ตำบลวังตะเคียน อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมด้วย ซึ่งนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวต้อนรับและนำเสนอสภาพรวมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ นำเสนอสถานการณ์น้ำภาพรวมและสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน นำเสนอการบริหารจัดการน้ำพื้นที่ฝั่งขวาแม่น้ำบางปะกง และผู้แทนการประปาส่วนภูมิภาค สรุปสถานการณ์น้ำต้นทุนเพื่อการผลิตน้ำประปา เพื่อการอุปโภคบริโภคของพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งภาวะน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน และปัญหาน้ำเค็มรุกเป็นประจำในช่วงฤดูแล้งที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงจังหวัดต่าง ๆ ในลุ่มน้ำบางปะกง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานต้องร่วมกันประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อม เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ให้ประชาชน โดยได้เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างรอบคอบ ขณะเดียวกันต้องหาแนวทางแก้ไขให้เป็นระบบในระยะยาวควบคู่ไปด้วย เพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำในอนาคต และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ปัญหาน้ำเค็มบริเวณปากน้ำบางปะกง ป้องกันปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ให้มีปัญหาการใช้น้ำ ซึ่งการประปาจะต้องมีการสำรองน้ำดิบไว้สำหรับผลิตน้ำให้เพียงพอตามความต้องการของประชาชน
รองนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ สทนช. ประสานและบูรณาการขับเคลื่อนแผนหลักการพัฒนาและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกร่วมกับลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และรายงานต่อ กนช. พร้อมมอบให้กรมชลประทานเร่งพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนโดยเฉพาะโครงการที่ได้รับงบประมาณและโครงการสำคัญที่ผ่าน กนช. แล้ว รวมถึงการปรับปรุงเพิ่มความสามารถการบริหารจัดการน้ำพร้อมเร่งดำเนินการก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อสามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน สำหรับการประปาส่วนภูมิภาค ให้วางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมความต้องการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งอย่างเพียงพอ พร้อมหาแหล่งน้ำสำรองไว้แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ และในส่วนของจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เสนอแผนงาน/โครงการสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำให้ครอบคลุมในพื้นที่ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผ่านอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด โดยบูรณาการและเร่งสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่ ซึ่งเมื่อมีน้ำสมบูรณ์ทุกพื้นที่และทุกฤดูกาล จะทำให้ผลผลิตการปลูกพืชไร่ดีขึ้น ส่งผลให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น โดยเน้นย้ำการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนด้วย
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรียังได้ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำที่คลองนครเนื่องเขต (คลองท่าไข่) ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำในช่วงหน้าฝน เป็นแหล่งน้ำดิบที่สำคัญในการผลิตน้ำประปา นอกจากนี้ ยังมีตลาดโบราณคลองนครเนื่องเขตซึ่งมีอายุกว่าร้อยปีอยู่บริเวณที่คลองมาบรรจบกับแม่น้ำบางปะกง เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทราด้วย
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางต่อไปยังสำนักงานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แห่งประเทศไทย ประจำ จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นประธานพิธีเปิดป้ายสำนักงานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แห่งประเทศไทยประจำ จ.ฉะเชิงเทรา
ที่มา: http://www.thaigov.go.th