นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ย้ำความร่วมมือทุกมิติ ส่งเสริมเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ข่าวทั่วไป Friday October 7, 2022 15:56 —สำนักโฆษก

?นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ย้ำความร่วมมือทุกมิติ ส่งเสริมเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

วันนี้ (7 ตุลาคม 2565) เวลา 09.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายโลเรนโซ (H.E. Mr. Lorenzo Galanti) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันของเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไทยกับอิตาลีต่างมีความสัมพันธ์ทางการทูตและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในทุกมิติ โดยในปีนี้เป็นวาระครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 154 ปี รวมทั้งยินดีที่อิตาลีจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้อย่างราบรื่นและฝากความปรารถนาดีไปยัง นาง Giorgia Meloni ซึ่งคาดว่าจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอิตาลี พร้อมอวยพรให้เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ใหม่ เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ขณะดำรงตำแหน่งในไทยจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสัมพันธไมตรีระหว่างไทยและอิตาลี และไทยกับสหภาพยุโรปให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือระหว่างกันต่อไป

เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าอำลาในวันนี้ อิตาลีถือเป็นพันธมิตรที่ดีกับไทย (Friends of Thailand) มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเสมอมา และขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากในนามของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอิตาลีต่อโศกนาฏกรรมในจังหวัดหนองบัวลำภู โดยอิตาลีพร้อมเป็นกำลังใจให้ประเทศไทยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ยืนยันว่าจะต่อยอดความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ และยินดีจะขยายความร่วมมือเพื่อพัฒนาด้านต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านความมั่นคง ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านการแพทย์ เป็นต้น รวมทั้งพร้อมสนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพการจัดการประชุม APEC 2022 ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จและจะเป็นประโยชน์ร่วมกันกับทุกภูมิภาคในการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน

ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้

ด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรียินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือที่ใกล้ชิด ทั้งในด้านหลักสูตรการศึกษาที่มีให้กับโรงเรียนเสนาธิการทหาร นักเรียนนายร้อยของไทย รวมถึงหลักสูตรฝึกอบรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมขอบคุณฝ่ายอิตาลีที่ได้ส่งบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเข้าร่วมงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศที่ไทยจัดขึ้น ซึ่งเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ชื่นชมการจัดงานของไทยและเห็นถึงศักยภาพที่จะสามารถแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีร่วมกันได้ ควบคู่กับการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมให้กับสถานศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ

ด้านวัฒนธรรม นายกรัฐมนตรีชื่นชมเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ที่ได้ริเริ่มจัดทำโครงการภาพยนตร์สารคดีสั้นเรื่อง ?Me and the Magic Door? ร่วมกับหน่วยงานของไทยเพื่อเผยแพร่เกี่ยวกับมรดกสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ที่ได้รับการออกแบบโดยศิลปินชาวอิตาลีในอดีต อาทิ พระที่นั่งอนันตสมาคม บ้านนรสิงห์ ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งทำเนียบรัฐบาล

ด้านโครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งสองฝ่ายยินดีที่เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่าง GISDA และ Italian Space Agency ในด้านอวกาศและดาวเทียม ตลอดจนความร่วมมือระหว่างศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของไทย (Thailand Center of Excellence for Life Science: TCELS) กับหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของอิตาลีในด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยเอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ยินดีที่ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ทันสมัยร่วมกัน

ด้านการศึกษาอบรม นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่เอกอัครราชทูตฯ ได้ผลักดันโครงการอบรมด้านอาชญากรรมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทยเพื่อไปศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่อิตาลี ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ควรสานต่อความร่วมมือด้านการศึกษา แลกเปลี่ยนอบรม และความร่วมมือระดับประชาชน เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันในอนาคต

ด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาค เอกอัครราชทูตอิตาลีฯ ยินดีที่จะมีการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน ? สหภาพยุโรป (ASEAN ? EU Commemorative Summit) ที่กรุงบรัสเซลส์ ในปลายปีนี้ และถือเป็นโอกาสครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - สหภาพยุโรป โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับอิตาลีในการบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการประชุมฯและ เชื่อมั่นว่าจะเป็นเวทีส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภายในภูมิภาคและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างกันต่อไป พร้อมยินดีที่การเจรจาร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านไทย - อียู (PCA) ประสบความสำเร็จ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ