นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (24 ตุลาคม 2565) เวลา 10.50 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปยังวัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์น้ำและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ซึ่ง อ.ท่าช้าง เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ 3,611 ครัวเรือน ประชาชน 9,708 ราย
นายกรัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณหมู่ที่ 3 ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่และจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ล้นตลิ่งเข้าทุ่งวิหารขาวและทุ่งพิกุลทอง ประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 5 หมู่บ้าน 1,194 ครัวเรือน โดยนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นรถของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สิงห์บุรี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณโดยรอบวัดพิกุลทอง ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ขณะนี้ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลงตามการระบายของเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งวางแผนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็ว โดยทางจังหวัดได้มีการเตรียมแผนเร่งผันน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่ ให้สัมพันธ์สอดคล้องกับระดับน้ำที่ลดลงของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ถวายพวงมาลัยกราบสักการะพระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ หลวงพ่อใหญ่ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วยความห่วงใยและกล่าวว่าสิ่งที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน นายกรัฐมนตรีก็รู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน พร้อมให้กำลังใจประชาชนทุกคนร่วมกันผ่านพ้นความยากลำบากครั้งนี้ไปให้ได้ รวมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ฟื้นฟูเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์และกฎระเบียบที่กำหนดต่อไป โดยรัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาให้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญในการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนให้ทราบถึงขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือ หากจังหวัดได้สำรวจความเสียหายด้านใดเรียบร้อยแล้ว ให้เร่งดำเนินการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอและจังหวัด โดยไม่ต้องรอการสำรวจความเสียหายให้เสร็จสิ้นครบทุกด้าน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติโดยเร็ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ทักทายเด็ก ๆ และเยาวชนในพื้นที่ แนะให้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาศักยภาพของตนเองให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี และทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งเรียนให้สอดคล้องตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพื่อเรียนจบออกมาแล้วจะได้มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวต่อไป จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปให้กำลังใจเจ้าที่อาสาสมัครที่ร่วมกันทำ EM Ball ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรีก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th