นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (24 ตุลาคม 2565) เวลา 09.50 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงเรือท้องแบนเพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชนและเยี่ยมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย ณ หมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ของ จ.สิงห์บุรี ที่ประสบปัญหาจากแม่น้ำเจ้าพระยาและปริมาณฝนตกสะสมทั้งต่างพื้นที่และในพื้นที่ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย มีประชาชนได้รับผลกระทบ 8 หมู่บ้าน จำนวน 2,335 ครัวเรือน โดยขณะนี้ จ.สิงห์บุรี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 6 อำเภอ 25 ตำบล 167 หมู่บ้าน 13 ชุมชน 20,419 ครัวเรือน 58,811 ราย พื้นที่การเกษตร 44,803.03 ไร่ ประมง 165.25 ไร่ (เสียชีวิต 6 ราย) โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และผู้ว่าราชการสิงห์บุรี ร่วมตรวจเยี่ยมด้วย
นายกรัฐมนตรีได้ลงเรือท้องแบนเพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชนและเยี่ยมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย ณ หมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยระหว่างนั่งเรือ นายกรัฐมนตรีได้โยน EM ball เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ ช่วยย่อยตะกอนให้กลายเป็นอาหารของสัตว์เล็ก ๆ และช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีในน้ำ ทำให้เกิดการย่อยสลายที่มากขึ้น และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ ทำให้สภาพของน้ำสมดุล โดยบ้านเรือนประชาชนบริเวณนี้ได้รับผลกระทบประมาณ 289 ครัวเรือน ซึ่งสถานการณ์น้ำโดยรวมขณะนี้เริ่มมีแนวโน้มลดลง สอดคล้องกับการระบายของเขื่อนเจ้าพระยาและระดับน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เริ่มลดลงเช่นกัน ทำให้ จ.สิงห์บุรี ได้วางแผนที่จะเร่งสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่บ้านเรือนประชาชนไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาให้สัมพันธ์กับสถานการณ์น้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ และให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กดปุ่มเปิดเครื่องสูบน้ำเพื่อเป็นสัญญาณในการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ก่อนที่วันพรุ่งนี้ทางจังหวัดจะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่บ้านเรือนประชาชนทุกหมู่บ้านโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ หากไม่มีการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยามาเพิ่ม และไม่มีฝนตกลงมาอีก คาดการณ์ว่าจะสามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่ทุกหมู่บ้านได้ภายในประมาณสัปดาห์หน้า รวมทั้งจังหวัดได้มีการเตรียมซ่อมแซมฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชน ตลอดจนการเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์และกฎระเบียบที่กำหนดไว้ต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนถึงการเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัยทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ด้วยความห่วงใย รวมทั้งกำชับสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่บ้านเรือนประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมกับย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนดูแลตนเองให้ปลอดภัยในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนด้วย ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ ต่างก็ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการทำงานเพื่อประชาชน โดยบอกว่า ?รักลุงตู่ ลุงตู่สู้ ๆ? และขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่
ที่มา: http://www.thaigov.go.th