นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ ส.ส.ทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขอเสนอผ่านสื่อเรียกร้องให้ ส.ส.ทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 อย่างเร่งด่วน โดยในวันที่ 25 มีนาคมนี้ จะหารือกับ ส.ส. ในการประชุมพรรค หลังจากนั้นจะมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อรณรงค์เรื่องนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และขอเรียกร้องให้ทุกคนต้องรับฟังทุกความเห็น รวมทั้งความต้องการของประชาชน อย่ากล่าวอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติของประชาชน แล้วถือเป็นความชอบธรรมที่ต้องยึดถือจนไม่สนับสนุนการแก้ไข ซึ่งต้องเข้าใจเสียใหม่ว่าประชาชนจำนวนมากและส่วนใหญ่ที่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า กลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ว่าควรจะคงหมวด 1 อันเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์เอาไว้ ส่วนที่เหลือให้นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาเทียบเคียง แล้วปรับแก้ให้ตรงตามข้อเท็จจริง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อปลดแอกบ้านเมืองออกจากอำนาจเผด็จการ ประกาศความเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งในทางลายลักษณ์อักษรและในทางปฏิบัติ ส่วนผู้ที่คัดค้านนั้น ส.ส. ต้องใช้ความกล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาเป็นแกนนำประชาชน โดยไม่ต้องคำนึงหรือกังวลกับเสียงคัดค้านทัดทานต่าง ๆ เพราะเสียงส่วนใหญ่เหล่านั้นเป็นเสียงของบุคคลที่มีส่วนร่วมกับการรัฐประหารทั้งสิ้น ทั้งนี้ เราสนับสนุนให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญของกลุ่มบุคคล ส่วนกรณีการยุบพรรคก็ขอให้ดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ขอเสนอผ่านสื่อเรียกร้องให้ ส.ส.ทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 อย่างเร่งด่วน โดยในวันที่ 25 มีนาคมนี้ จะหารือกับ ส.ส. ในการประชุมพรรค หลังจากนั้นจะมีการเสนอให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อรณรงค์เรื่องนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และขอเรียกร้องให้ทุกคนต้องรับฟังทุกความเห็น รวมทั้งความต้องการของประชาชน อย่ากล่าวอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติของประชาชน แล้วถือเป็นความชอบธรรมที่ต้องยึดถือจนไม่สนับสนุนการแก้ไข ซึ่งต้องเข้าใจเสียใหม่ว่าประชาชนจำนวนมากและส่วนใหญ่ที่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า กลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ว่าควรจะคงหมวด 1 อันเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์เอาไว้ ส่วนที่เหลือให้นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มาเทียบเคียง แล้วปรับแก้ให้ตรงตามข้อเท็จจริง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เพื่อปลดแอกบ้านเมืองออกจากอำนาจเผด็จการ ประกาศความเป็นประชาธิปไตยอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งในทางลายลักษณ์อักษรและในทางปฏิบัติ ส่วนผู้ที่คัดค้านนั้น ส.ส. ต้องใช้ความกล้าหาญที่จะลุกขึ้นมาเป็นแกนนำประชาชน โดยไม่ต้องคำนึงหรือกังวลกับเสียงคัดค้านทัดทานต่าง ๆ เพราะเสียงส่วนใหญ่เหล่านั้นเป็นเสียงของบุคคลที่มีส่วนร่วมกับการรัฐประหารทั้งสิ้น ทั้งนี้ เราสนับสนุนให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นรัฐธรรมนูญของประชาชน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญของกลุ่มบุคคล ส่วนกรณีการยุบพรรคก็ขอให้ดำเนินการไปตามกระบวนการของกฎหมาย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--