นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและดร.ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย แถลงข่าวร่วม ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ ในโอกาสเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 26-28 มีนาคม 2551
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ ดร. ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดี และรัฐบาลอินโดนีเซีย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะในการเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรกนี้ ซึ่งทำให้การเยือนครั้งนี้เป็นไปด้วยดีและประสบผลสำเร็จ ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีได้พบปะหารือกัน ในบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเข้าใจและความเป็นมิตร ทั้งสองฝ่ายมีความพอใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ซึ่งที่ผ่านมามีความใกล้ชิดมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน และจะฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ 60 ปี ในปี 2553 รวมทั้งจะกระชับความร่วมมือกันในทุกระดับ
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเห็นพ้องกันที่จะจัดตั้งกลไกการพบปะประจำปีระหว่างผู้นำ (Annual Consultation) ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าได้หารือกันในประเด็นความร่วมมือหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การลงทุน การค้า พลังงาน และความมั่นคงด้านอาหาร โดยได้ย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของความเป็น พันธมิตรเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย สำหรับความร่วมมือด้านอาหาร ประเทศไทยได้ให้ ความสำคัญเป็นลำดับแรกต่อข้อเสนอของอินโดนีเซียที่จะซื้อข้าวจากไทย สำหรับด้านการลงทุนและการค้าทั้งสองฝ่ายมีความพอใจในตัวเลขปริมาณและมูลค่าการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ปี 2550 มูลค่าการค้าระหว่าง ไทยกับอินโดนีเซีย มีมูลค่า 8.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นร้อยละ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ภายในปี 2553 หรืออีกใน 2 ปีข้างหน้า มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียน่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวถึง 20 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลง จัดตั้งคณะกรรมการการค้าภายหลังการลงนามความตกลงทางการค้า ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยผลักดันให้เพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และ เสริมสร้าง ความพึ่งพาทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ ดร. ซูซิโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดี และรัฐบาลอินโดนีเซีย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะในการเยือนอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรกนี้ ซึ่งทำให้การเยือนครั้งนี้เป็นไปด้วยดีและประสบผลสำเร็จ ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีได้พบปะหารือกัน ในบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเข้าใจและความเป็นมิตร ทั้งสองฝ่ายมีความพอใจต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ซึ่งที่ผ่านมามีความใกล้ชิดมากขึ้นในทุก ๆ ด้าน และจะฉลองการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ครบรอบ 60 ปี ในปี 2553 รวมทั้งจะกระชับความร่วมมือกันในทุกระดับ
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเห็นพ้องกันที่จะจัดตั้งกลไกการพบปะประจำปีระหว่างผู้นำ (Annual Consultation) ระหว่างไทยกับอินโดนีเซียนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าได้หารือกันในประเด็นความร่วมมือหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ การลงทุน การค้า พลังงาน และความมั่นคงด้านอาหาร โดยได้ย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานของความเป็น พันธมิตรเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย สำหรับความร่วมมือด้านอาหาร ประเทศไทยได้ให้ ความสำคัญเป็นลำดับแรกต่อข้อเสนอของอินโดนีเซียที่จะซื้อข้าวจากไทย สำหรับด้านการลงทุนและการค้าทั้งสองฝ่ายมีความพอใจในตัวเลขปริมาณและมูลค่าการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ปี 2550 มูลค่าการค้าระหว่าง ไทยกับอินโดนีเซีย มีมูลค่า 8.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นร้อยละ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ภายในปี 2553 หรืออีกใน 2 ปีข้างหน้า มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอินโดนีเซียน่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวถึง 20 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลง จัดตั้งคณะกรรมการการค้าภายหลังการลงนามความตกลงทางการค้า ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือช่วยผลักดันให้เพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน และ เสริมสร้าง ความพึ่งพาทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--