แท็ก
พระราชพิธีพระราชทานเพลิง
พิธีพระราชทานเพลิงพระศพ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
นายสมัคร สุนทรเวช
พระเจ้าพี่นางเธอ
กระทรวงกลาโหม
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประกอบพิธียกเสาเอกพระเมรุพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จ พระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ บริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้ โดยมีคณะรัฐมนตรีและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมในพิธี
วันนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานพิธียกเสาเอกพระเมรุ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ บริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้
โดยมีคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อเวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงมณฑลพิธี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ กล่าวรายงานสรุปว่า ตามคติความเชื่อของไทยนั้น พระบรมวงศ์ในราชตระกูล ล้วนได้รับนับถือว่าสืบเชื้อสายจากสมมติเทพ จึงเชื่อกันว่า เมื่อถึงวาระสุดท้ายแห่งพระชนมชีพ ทุกพระองค์จะเสด็จสู่ทิพยสถาน ณ พระสุเมรุบรรพต ดังนั้น เมื่อจะถวายพระเพลิงพระศพ จึงมีการสร้างพระเมรุ เสมือนจำลองเขาพระสุเมรุจากสรวงสวรรค์มาประดิษฐาน ณ บริเวณมณฑลพิธีใจกลางพระนคร แม้พระเมรุจะมีรูปลักษณ์และขนาดแตกต่างกันตามพระอิสริยยศ แต่องค์ประกอบต่าง ๆ ยังคงความวิจิตรบรรจง ตามคุณลักษณะของศิลปะสถาปัตยกรรมของไทยทุกประการ เพื่อให้งดงามสมพระเกียรติ
การสร้างพระเมรุเป็นงานสถาปัตยกรรมชั้นสูง ต้องใช้ช่างที่มีความรอบรู้มีฝีมือและมีทักษะในงานศิลปกรรมและกระบวนการช่างไทยทุกสาขามาร่วมกันปฏิบัติงาน สิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณีครบถ้วนทุกขั้นตอน ซึ่งการยกเสาเอกเป็นประเพณีสำคัญของการเริ่มก่อสร้างอาคารทางสถาปัตยกรรม เพื่อเป็นขวัญและเป็นสิริมงคลแก่คณะทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการผ่ายจัดสร้างพระเมรุฯ จึงกำหนดจัดพิธียกเสาเอกพระเมรุสำหรับประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ขึ้นในวันนี้
จากนั้นพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เปิดปฐมฤกษ์ประกอบพิธีพราหมณ์ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนที่เครื่องบวงสรวง พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวง กระทั่งเวลา 10.09 น. นายกรัฐมนตรีทำการปิดทอง ผูกผ้าสีชมพูที่เสา พรมน้ำอบไทยที่เสาเอกพระเมรุ โปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องบวงสรวง และชักสายสูตรยกเสาเอกขึ้นตั้ง รดน้ำเทพมนต์ ติดใบมะตูมและเจิมเสา พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา รำบวงสรวง นายกรัฐมนตรีถวายจัตตุปัจจัยไทยธรรม และภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 10 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี
ทั้งนี้ พิธียกเสาเอกพระเมรุในวันนี้ (28 มีนาคม 2551) ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน จุลศักราช 1369 เวลา 10.09 น. พระอาทิตย์เสวย ภูมิปาโลฤกษ์ พระจันทร์เสวย สมโณฤกษ์ เป็นมงคลกาล ตำแหน่งเสาเอกทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามหลักโหราศาสตร์เป็นช่วงที่ตกพญานาค ศีรษะพาดไปทางทิศตะวันออก หางอยู่ทางทิศตะวันตก หลังอยู่ทิศเหนือ ท้องอยู่ทิศใต้ ซึ่งตรงช่วงระหว่างท้องพอดีเป็นตำแหน่งหลุมเสาเอก เมื่อยกเสาเอกขึ้นหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีความหมายถึงฤกษ์เดือน 4 เหมาะแก่การยกเสาปลูกบ้าน แข็งแรงและมั่นคง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นประธานพิธียกเสาเอกพระเมรุ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ บริเวณสนามหลวงด้านทิศใต้
โดยมีคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุธา ชันแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายธีรพล นพรัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท. วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้าร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อเวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงมณฑลพิธี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุและบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ กล่าวรายงานสรุปว่า ตามคติความเชื่อของไทยนั้น พระบรมวงศ์ในราชตระกูล ล้วนได้รับนับถือว่าสืบเชื้อสายจากสมมติเทพ จึงเชื่อกันว่า เมื่อถึงวาระสุดท้ายแห่งพระชนมชีพ ทุกพระองค์จะเสด็จสู่ทิพยสถาน ณ พระสุเมรุบรรพต ดังนั้น เมื่อจะถวายพระเพลิงพระศพ จึงมีการสร้างพระเมรุ เสมือนจำลองเขาพระสุเมรุจากสรวงสวรรค์มาประดิษฐาน ณ บริเวณมณฑลพิธีใจกลางพระนคร แม้พระเมรุจะมีรูปลักษณ์และขนาดแตกต่างกันตามพระอิสริยยศ แต่องค์ประกอบต่าง ๆ ยังคงความวิจิตรบรรจง ตามคุณลักษณะของศิลปะสถาปัตยกรรมของไทยทุกประการ เพื่อให้งดงามสมพระเกียรติ
การสร้างพระเมรุเป็นงานสถาปัตยกรรมชั้นสูง ต้องใช้ช่างที่มีความรอบรู้มีฝีมือและมีทักษะในงานศิลปกรรมและกระบวนการช่างไทยทุกสาขามาร่วมกันปฏิบัติงาน สิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามโบราณราชประเพณีครบถ้วนทุกขั้นตอน ซึ่งการยกเสาเอกเป็นประเพณีสำคัญของการเริ่มก่อสร้างอาคารทางสถาปัตยกรรม เพื่อเป็นขวัญและเป็นสิริมงคลแก่คณะทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการผ่ายจัดสร้างพระเมรุฯ จึงกำหนดจัดพิธียกเสาเอกพระเมรุสำหรับประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ขึ้นในวันนี้
จากนั้นพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าพราหมณ์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เปิดปฐมฤกษ์ประกอบพิธีพราหมณ์ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนที่เครื่องบวงสรวง พราหมณ์อ่านโองการบวงสรวง กระทั่งเวลา 10.09 น. นายกรัฐมนตรีทำการปิดทอง ผูกผ้าสีชมพูที่เสา พรมน้ำอบไทยที่เสาเอกพระเมรุ โปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องบวงสรวง และชักสายสูตรยกเสาเอกขึ้นตั้ง รดน้ำเทพมนต์ ติดใบมะตูมและเจิมเสา พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ บัณเฑาะว์ ดนตรีบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา รำบวงสรวง นายกรัฐมนตรีถวายจัตตุปัจจัยไทยธรรม และภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 10 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา ประธานกรวดน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี
ทั้งนี้ พิธียกเสาเอกพระเมรุในวันนี้ (28 มีนาคม 2551) ตรงกับแรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีกุน จุลศักราช 1369 เวลา 10.09 น. พระอาทิตย์เสวย ภูมิปาโลฤกษ์ พระจันทร์เสวย สมโณฤกษ์ เป็นมงคลกาล ตำแหน่งเสาเอกทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามหลักโหราศาสตร์เป็นช่วงที่ตกพญานาค ศีรษะพาดไปทางทิศตะวันออก หางอยู่ทางทิศตะวันตก หลังอยู่ทิศเหนือ ท้องอยู่ทิศใต้ ซึ่งตรงช่วงระหว่างท้องพอดีเป็นตำแหน่งหลุมเสาเอก เมื่อยกเสาเอกขึ้นหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีความหมายถึงฤกษ์เดือน 4 เหมาะแก่การยกเสาปลูกบ้าน แข็งแรงและมั่นคง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--