แท็ก
คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ
นายสมัคร สุนทรเวช
ทำเนียบรัฐบาล
กระทรวงกลาโหม
ตึกไทยคู่ฟ้า
นายกรัฐมนตรี
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) ครั้งที่ 2 / 2551
วันนี้ เวลา 15.50 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) ครั้งที่ 2 / 2551 โดยมี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกิจการพิเศษ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการประชุมว่า ที่ประชุม กตช.เห็นชอบตามที่ ก.ตร. เสนอการกำหนดตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่มจากเดิม อย่างละ 1 ตำแหน่ง โดยเป็นการเปิดตำแหน่งที่เป็นไปตามข้อกฎหมาย แต่ยังมิได้มีการพิจารณาตัวบุคคล
จากนั้น โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการกำหนดลักษณะงานสำหรับการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยที่ประชุมได้พิจารณาตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การกำหนดลักษณะงานสำหรับการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจากเดิมที่มี 6 ด้านนั้นมีความซ้ำซ้อนกัน ในเรื่องของการป้องกันอาชญากรรม สืบสวนปราบปรามอาชญากรรม และสืบสวนสอบสวน จึงเห็นชอบให้กำหนดลักษณะงานเป็น 4 ด้านคือ 1. งานด้านบริหาร 2. งานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 3. งานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ 4. งานด้านกฎหมายและสอบสวน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะนำเสนอเรื่องการกำหนดลักษณะงานสำหรับการบริหารงานของ สตช. รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ซักถามข้อคิดเห็นจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้วจึงนำมาปรับตามข้อคิดเห็นที่ได้รับมาเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม กตช. ในวันนี้
“ ท่านนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเรื่องทั่ว ๆ ไป อาทิ เรื่องความคืบหน้าที่ สตช. เปิดรับสมัครบุคคลที่จบปริญญาตรีเพื่อสอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวน ว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนใด เรื่องงบประมาณของตำรวจจำนวน 60,000 กว่าล้านบาท ว่ามีปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องอะไรหรือไม่ เพราะ สตช. มีบุคลากรมาก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ สตช. ไปพิจารณาว่า ตำรวจอาจจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อจะหาทางเพิ่มค่าตอบแทนให้ตำรวจได้สูงขึ้น ตำรวจคนหนึ่งอาจจะต้องทำงาน 2 หน้าที่เพื่อจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าจะหาเงินเพิ่มให้อย่างเดียวคงจะเป็นอุปสรรคเรื่องงบประมาณในภาพรวม” โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 15.50 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) ครั้งที่ 2 / 2551 โดยมี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายกิจการพิเศษ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการประชุมว่า ที่ประชุม กตช.เห็นชอบตามที่ ก.ตร. เสนอการกำหนดตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพิ่มจากเดิม อย่างละ 1 ตำแหน่ง โดยเป็นการเปิดตำแหน่งที่เป็นไปตามข้อกฎหมาย แต่ยังมิได้มีการพิจารณาตัวบุคคล
จากนั้น โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการกำหนดลักษณะงานสำหรับการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยที่ประชุมได้พิจารณาตามข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า การกำหนดลักษณะงานสำหรับการบริหารงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจากเดิมที่มี 6 ด้านนั้นมีความซ้ำซ้อนกัน ในเรื่องของการป้องกันอาชญากรรม สืบสวนปราบปรามอาชญากรรม และสืบสวนสอบสวน จึงเห็นชอบให้กำหนดลักษณะงานเป็น 4 ด้านคือ 1. งานด้านบริหาร 2. งานด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม 3. งานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ 4. งานด้านกฎหมายและสอบสวน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะนำเสนอเรื่องการกำหนดลักษณะงานสำหรับการบริหารงานของ สตช. รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ซักถามข้อคิดเห็นจากรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้วจึงนำมาปรับตามข้อคิดเห็นที่ได้รับมาเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม กตช. ในวันนี้
“ ท่านนายกรัฐมนตรีได้สอบถามเรื่องทั่ว ๆ ไป อาทิ เรื่องความคืบหน้าที่ สตช. เปิดรับสมัครบุคคลที่จบปริญญาตรีเพื่อสอบเข้ารับราชการเป็นตำรวจชั้นประทวน ว่าดำเนินการไปถึงขั้นตอนใด เรื่องงบประมาณของตำรวจจำนวน 60,000 กว่าล้านบาท ว่ามีปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องอะไรหรือไม่ เพราะ สตช. มีบุคลากรมาก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ สตช. ไปพิจารณาว่า ตำรวจอาจจะต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อจะหาทางเพิ่มค่าตอบแทนให้ตำรวจได้สูงขึ้น ตำรวจคนหนึ่งอาจจะต้องทำงาน 2 หน้าที่เพื่อจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งถ้าจะหาเงินเพิ่มให้อย่างเดียวคงจะเป็นอุปสรรคเรื่องงบประมาณในภาพรวม” โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--