วันนี้ (31 ตุลาคม 2565) เวลา 16.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายไซสมพอน พมวิหาน (H.E. Dr. Xaysompone Phomvihane) ประธานสภาแห่งชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังการหารือ นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกับประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ในโอกาสเยือนไทยในฐานะแขกของรัฐสภา และกล่าวขอบคุณที่ตอบรับเข้าร่วมการประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 (Asia Pacific Parliamentary Forum : APPF) ซึ่งรัฐสภาไทยเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ ไทยและ สปป.ลาว มีความร่วมมือแน่นแฟ้นในทุกมิติ เป็นมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ผู้บริหารของไทย-สปป. ลาว มีโอกาสพบปะกันบ่อยครั้ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้พบนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และได้ร่วมกันวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพไทย ? ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ ? บอลิคำไซ) ซึ่งจะช่วยให้คนไทยและคนลาวเดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวกขึ้น
ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในวันนี้ โดยการมาเยือนไทยครั้งนี้มีโอกาสหารือกับฝ่ายรัฐสภาของไทย เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้น รวมถึงติดตามความร่วมมือต่าง ๆ ที่ยังคั่งค้าง ให้เป็นผลอย่างรูปธรรม ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภาลาวอยู่ในระดับดี การแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศในระดับประธานรัฐสภาอยู่เสมอ หวังว่าในอนาคตจะเกิดการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันมากขึ้น มีกิจกรรมระหว่างกันเพื่อผลักดัน และสานต่อความร่วมมือทางด้านต่าง ๆ ทั้งทางการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจ การเชื่อมโยงด้านคมนาคม และแรงงาน
ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องว่า รัฐสภากับสภาแห่งชาติลาวเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย ? ลาวให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และต่างมุ่งหวังให้ไทยและ สปป.ลาว มีความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐสภาทั้งสองมากยิ่งขึ้น โดยประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสองประเทศร่วมมือกัน โดยเฉพาะความร่วมมือตามแนวชายแดน ทั้งการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุน สปป. ลาว จัดการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลการจับกุมการกระทำผิดตามแนวชายแดน และพร้อมสนับสนุนอุปกรณ์สืบสวนสอบสวนที่ทันสมัย รวมถึงหารือร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามขบวนการแก็งค์ Call Center โดยยินดีร่วมกันดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อหลอกไปทำงานผิดกฎหมาย
ความร่วมมือเรื่องการเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีสนับสนุนนโยบายของ สปป. ลาวในการเปลี่ยนจากประเทศ land-locked เป็นประเทศ land-linked และกล่าวชื่นชมความสำเร็จของโครงการรถไฟลาว - จีน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคได้เป็นอย่างมาก โดยไทยให้ความสำคัญต่อการเชื่อมต่อกับระบบรางของไทยทั้งในทางกายภาพ ตลอดจนมาตรฐานและกฎระเบียบต่าง ๆ ด้านประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ยินดีสนับสนุนการเชื่อมต่อรถไฟลาว - จีน กับระบบรางของไทยในด้าน ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนไทยและลาว
ความร่วมมือด้านแรงงาน ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ทราบว่ามีแรงงานลาวเข้ามาทำงานในไทยจำนวนมาก ขอให้ไทยคุ้มครองแรงงานให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการสังคมตามกฎหมาย ด้านนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงบทบาท ความสำคัญของแรงงานต่างชาติ ไทยพร้อมดูแลแรงงานต่างชาติในไทย รวมถึงชาวลาว ให้ได้รับสิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ ตามกฎหมายแรงงานของไทย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อส่งเสริมให้แรงงานลาวมาทำงานในไทยผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย
ด้านความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ทั้งสองฝ่ายยินดีสานความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันภายใต้แผนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย - ลาว ระยะ 3 ปี (2565-2567) ฉบับใหม่ ที่ไทยและ สปป. ลาว ได้จัดทำแล้วเสร็จ โดยนายกรัฐมนตรียืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับ สปป. ลาวในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรลาว พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่ สปป. ลาว ในหลายสาขา
ด้านเศรษฐกิจ ประธานสภาแห่งชาติ สปป.ลาว ยินดีที่ไทยและ สปป. ลาว มีความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนที่ใกล้ชิด โดยไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญของสปป.ลาว หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันยกระดับการค้าให้มากยิ่งขึ้น ลดอุปสรรคการค้าระหว่างกัน พร้อมกล่าวเชิญชวนภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนใน สปป.ลาว เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนทางด้านพลังงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุนนักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในลาวเช่นกัน
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณสภาแห่งชาติลาวที่มีความร่วมมือกับรัฐสภาไทยมาด้วยดีเสมอมา หวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะสานต่อและกระชับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th