วันนี้ (25 พฤศจิกายน 2565) เวลา 14.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพลเอก เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC ) ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 15 ณ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงเทพฯ โดยฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น
ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้นในทุกระดับและเห็นถึงความสำคัญของกลไกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ( GBC ) ต่อความมั่นคงชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยจะเพิ่มความร่วมมือกิจกรรมทางทหาร รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมข้ามชาติมากขึ้น เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญกรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงข้ามแดน รวมทั้งร่วมเดินหน้าขับเคลื่อนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ตามนโยบายของ นรม.ทั้งสองประเทศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยไม่นำเงื่อนไขของเขตแดนมาเป็นปัญหาในการปฏิบัติงาน
โดย พล.อ.ประวิตรฯ ได้กล่าวขอบคุณกัมพูชา ที่สนับสนุนช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชาที่ถูกหลอกลวง และขอความร่วมมือกัมพูชาช่วยกวาดล้างจับกุมแก๊ง Call Center คนไทย ที่ใช้กัมพูชาเป็นฐานหลอกลวงคนไทยด้วยกัน พร้อมย้ำว่า กระทรวงกลาโหมไทย พร้อมสนับสนุนที่นั่งศึกษาทางทหารระดับต่าง ๆ ให้ ทางกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เพื่อความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นมากขึ้น
โอกาสนี้ พล.อ.ประวิตรฯ และ พล.อ.เตียฯ ได้เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ 15 โดยเน้นย้ำความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างกองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ อันจะนำมาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงตลอดแนวชายแดน และรับทราบความก้าวหน้าของความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น การผ่านแดนและการสัญจรข้ามแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานชายแดน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต การศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม การค้าชายแดน สาธารณสุขและการบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะการขับเคลื่อนกลไกการประชุม ผบ.ทสส.ไทย - กัมพูชา และการจัดตั้งกลไก RBC ประชุมร่วมระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนทั้งสองประเทศ เพื่อแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ นอกจากนั้น ได้สนับสนุนให้หน่วยงานระดับ อำเภอ จังหวัด ร่วมแก้ปัญหายาเสพติด โดยดำเนินงานหมู่บ้านคู่ขนานสีขาวและหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวชายแดน รวมทั้งร่วมปฏิบัติตามแผนแม่น้ำโขงปลอดภัย เพื่อควบคุมปัญหายาเสพติด ซึ่งความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมดังกล่าว สะท้อนถึงพัฒนาการความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในการแก้ปัญหาชายแดนที่มีมากขึ้นต่อเนื่อง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th