นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ในระหว่างการประชุมสุดยอด 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่3 (3rd GMS Summit) ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
วันนี้ เวลา 11.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เรื่องการประชุมสุดยอด 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่3 (3rd GMS Summit) ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2551 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าธนาคารพัฒนาเอเชียแห่งเอเชีย (ADB) ได้ริเริ่มและให้ความสนับสนุนในกรอบ 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่มีความถึงยาว 4,000 กิโลเมตรไหลผ่าน คือ ประเทศจีน พม่า สปป.ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีการพัฒนาในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในอนุภูมิภาค ซึ่งกำหนดจัดให้มีการประชุมทุก 3 ปี ครั้งที่ 1 จัดที่ประเทศเวียดนาม ครั้งที่ 2 จัดที่ประเทศจีน ครั้งที่ 3 จัดที่ สปป.ลาว และครั้งที่ 4 จะจัดที่ประเทศพม่า
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานในด้านต่างๆ อาทิ เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน คือถนนสาย 3 จากจีน-ลาว-ไทย ไปยังพม่า โดยจะเชื่อมถึงกันหมดเพื่อขนสินค้า เช่น ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว มีการตรวจสินค้าขาไปและกลับทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ซึ่งมีการเสนอให้ตรวจสินค้าเพียงครั้งเดียว คือ คนไทยต้องไปตรวจสินค้าทั้งขาไปและขากลับที่ฝั่งลาวพร้อมกับลาว เรียกว่า one-stop window ซึ่งต้องแก้ไขกฎหมาย สำหรับประเทศพม่าเสนอเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยปาฐกถานำเรื่องสิ่งแวด ส่วนประเทศไทยเสนอเรื่องทรัพยากรมนุษย์และวงจรท่องเที่ยวรอบ 6 ประเทศ
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า โดยปกติหากไปเยือนประเทศไหน นายกรัฐมนตรีมักจะไปรับประทานอาหารที่ตลาด ประกอบกับตามขั้นตอนการประชุมนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้นำทุกประเทศพร้อมด้วยตัวแทนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาจะนั่งพักที่ห้องรับรอง เมื่อพร้อมทุกท่านแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงถือธงครบทุกประเทศจะนำคณะผู้นำเพื่อเข้าประชุมในห้องต่อไป แต่มีประชุมอยู่ 1 การประชุม เมื่อประชุมเสร็จแล้วได้พักที่ห้องรับรอง นายกรัฐมนตรีได้เข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นมีการถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งไม่อยู่ในกำหนดการ ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ร่วมถ่ายภาพร่วมกับผู้นำในขณะนั้น ส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศไม่สบายใจ และมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีท้องเสีย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีปรารภว่า ในตอนเย็นหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว นายกรัฐมนตรีได้พักผ่อนในห้องพัก แล้วเผลอหลับในขณะนั่งชมโทรทัศน์ตั้งแต่เวลา 10.00 - 02.00 น. ทำให้เกิดอาการไอและเป็นไข้ในวันรุ่งขึ้น หลังจากเข้าร่วมประชุม GMS ตามกำหนดการแล้ว ได้เดินกลับประเทศไทย จึงไม่ได้ไห้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก แต่มีอาการอาเจียน ซึ่งไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษ และในวันรุ่งขึ้นมีไข้ จึงไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ และให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยรับประทานอาหารได้น้อย แต่ในวันรุ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีรู้สึกอยากรับประทานอาหาร และสามารถรับประทานข้าวต้มได้มากขึ้น แสดงว่าอาการดีขึ้น ซึ่งพยาบาลได้ตรวจวัดไข้ในวันนั้น 4 ครั้ง ปรากฏว่าไม่มีไข้ และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านในวันที่ 3 เมษายน 2551
ในระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทานมอบแก่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 11.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เรื่องการประชุมสุดยอด 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่3 (3rd GMS Summit) ระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2551 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าธนาคารพัฒนาเอเชียแห่งเอเชีย (ADB) ได้ริเริ่มและให้ความสนับสนุนในกรอบ 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่มีความถึงยาว 4,000 กิโลเมตรไหลผ่าน คือ ประเทศจีน พม่า สปป.ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม โดยมีการพัฒนาในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมในอนุภูมิภาค ซึ่งกำหนดจัดให้มีการประชุมทุก 3 ปี ครั้งที่ 1 จัดที่ประเทศเวียดนาม ครั้งที่ 2 จัดที่ประเทศจีน ครั้งที่ 3 จัดที่ สปป.ลาว และครั้งที่ 4 จะจัดที่ประเทศพม่า
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานในด้านต่างๆ อาทิ เรื่องโครงสร้างพื้นฐาน คือถนนสาย 3 จากจีน-ลาว-ไทย ไปยังพม่า โดยจะเชื่อมถึงกันหมดเพื่อขนสินค้า เช่น ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว มีการตรวจสินค้าขาไปและกลับทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ซึ่งมีการเสนอให้ตรวจสินค้าเพียงครั้งเดียว คือ คนไทยต้องไปตรวจสินค้าทั้งขาไปและขากลับที่ฝั่งลาวพร้อมกับลาว เรียกว่า one-stop window ซึ่งต้องแก้ไขกฎหมาย สำหรับประเทศพม่าเสนอเรื่องสิ่งแวดล้อมโดยปาฐกถานำเรื่องสิ่งแวด ส่วนประเทศไทยเสนอเรื่องทรัพยากรมนุษย์และวงจรท่องเที่ยวรอบ 6 ประเทศ
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า โดยปกติหากไปเยือนประเทศไหน นายกรัฐมนตรีมักจะไปรับประทานอาหารที่ตลาด ประกอบกับตามขั้นตอนการประชุมนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้นำทุกประเทศพร้อมด้วยตัวแทนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาจะนั่งพักที่ห้องรับรอง เมื่อพร้อมทุกท่านแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงถือธงครบทุกประเทศจะนำคณะผู้นำเพื่อเข้าประชุมในห้องต่อไป แต่มีประชุมอยู่ 1 การประชุม เมื่อประชุมเสร็จแล้วได้พักที่ห้องรับรอง นายกรัฐมนตรีได้เข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นมีการถ่ายภาพร่วมกัน ซึ่งไม่อยู่ในกำหนดการ ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่ได้ร่วมถ่ายภาพร่วมกับผู้นำในขณะนั้น ส่งผลให้กระทรวงการต่างประเทศไม่สบายใจ และมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีท้องเสีย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีปรารภว่า ในตอนเย็นหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว นายกรัฐมนตรีได้พักผ่อนในห้องพัก แล้วเผลอหลับในขณะนั่งชมโทรทัศน์ตั้งแต่เวลา 10.00 - 02.00 น. ทำให้เกิดอาการไอและเป็นไข้ในวันรุ่งขึ้น หลังจากเข้าร่วมประชุม GMS ตามกำหนดการแล้ว ได้เดินกลับประเทศไทย จึงไม่ได้ไห้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว แล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก แต่มีอาการอาเจียน ซึ่งไม่ได้เกิดจากอาหารเป็นพิษ และในวันรุ่งขึ้นมีไข้ จึงไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ และให้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยรับประทานอาหารได้น้อย แต่ในวันรุ่งขึ้น นายกรัฐมนตรีรู้สึกอยากรับประทานอาหาร และสามารถรับประทานข้าวต้มได้มากขึ้น แสดงว่าอาการดีขึ้น ซึ่งพยาบาลได้ตรวจวัดไข้ในวันนั้น 4 ครั้ง ปรากฏว่าไม่มีไข้ และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านในวันที่ 3 เมษายน 2551
ในระหว่างพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้พระราชทานมอบแก่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--