พลเอก ประวิตร ฯ ลงพื้นที่ภาคใต้ ประชุม กพต. ตามขับเคลื่อนเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน 3 จชต. ย้ำเสริมภาคประชาสังคมเข้มแข็ง รับฟังปัญหาและพัฒนาไปด้วยกัน
โดยได้ประชุม กพต. ณ ห้องประชุม ม.สงขลานครินทร์ อ.เมือง จว.ปัตตานี รับทราบการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ( เป็นการส่วนพระองค์ ) กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการงานที่สำคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาทักษะแรงงาน และการสอนภาษานานาชาติ การขับเคลื่อนโครงการแก้ปัญหาความยากจน ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้ครัวเรือน โดยขยายการช่วยเหลือเพิ่ม 1,200 ครอบครัวในปี 66 โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล ซึ่งมีเกษตรกรนำร่อง 5 จว. 171 กลุ่ม ความก้าวหน้าการจัดทำแผนพัฒนา จว.นราธิวาสและปัตตานี
พร้อมทั้งได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบหลักการโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับชุมชนหมู่บ้าน ปี 66-70 รวมทั้ง โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้นำทุกศาสนาในพื้นที่ จชต. ปี 66-70 และ (ร่าง) แผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในการแก้ปัญหา จชต. ปี 67-70 ซึ่งมีองค์กรกว่า 200 องค์กรเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น
พลเอก ประวิตรฯ แสดงความพอใจที่โครงการต่างๆมีพัฒนาการไปมาก พร้อมกำชับ ศอ.บต.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแก้ปัญหาแบบมีส่วนร่วมไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะระดับพื้นที่หมู่บ้าน มีกำนันผู้ใหญ่เป็นแกนกลาง เน้นการมีส่วนร่วมของผู้นำทุกศาสนาและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยต้องเพิ่มศักยภาพภาคประชาสังคมและดึงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วม ทั้งการร่วมคิด ร่วมทำและรับประโยชน์ไปด้วยกันอย่างทั่วถึง พร้อมย้ำ ต้องรับฟังปัญหาและความต้องการจากภาคประชาสังคมอย่างรอบด้านไปพร้อมๆกัน สำหรับแผนงานโครงการที่เห็นชอบร่วมกัน ขอให้เร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการให้เป็นไปตามแผนงาน โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ใช้งบประมาณอย่างเต็มประสิทธิภาพ และโปร่งใส
ต่อจากนั้น ได้ชมนิทรรศการและติดตามขับเคลื่อนมติ กพต. ?เมืองปูทะเลโลก? โดยร่วมเปิดโรงเพาะเลี้ยงปู และเยี่ยมชมการขับเคลื่อน Soft Power ด้านอาหาร ภายใต้แนวคิด ?มหานครแห่งอาหารและบริการฮาลาลสู่ตลาดโลก?
หลังจากนั้น ได้พบปะและรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ โดยย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาล ในการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้มีงาน มีอาชีพและรายได้ต่อการดูแลตัวเองได้อย่างยั่งยืน จึงต้องการความร่วมมือและกำลังหลักจากประชาชนในระดับพื้นที่ ให้ความสำคัญกับการริเริ่มโดยประชาชนและการแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ พร้อมย้ำ รัฐบาลมีความจริงใจและพร้อมสนับสนุนการพัฒนาอย่างเท่าเทียม เป็นธรรมทั่วถึง ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อนำพามาซึ่งความสงบและสันติสุขของประชาชนในพื้นที่
และบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร? พร้อมคณะ จะเดินทางไป จว.ภูเก็ต ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งแผนป้องกันอุทกภัย จว.ภูเก็ต และการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งหาดทรายแก้ว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th