นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (21 ธันวาคม 2565) เวลา 14.15 น. ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมโครงการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้พืชมูลค่าสูงที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ สร้างรายได้ ลดปัญหาความยากจน และสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน โดย หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ และนางสาวนพรัตน์ จันทร์สว่าง ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม ได้บรรยายสรุปภาพรวมโครงการฯ
?นายกรัฐมนตรีชื่นชมผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ ย้ำการสร้างองค์ความรู้และถ่ายทอดให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ศึกษา วิจัย ทดลองและพัฒนาเพื่อเพิ่มรายได้ ลดปัญหาความยากจน และสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน โดยได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งผลักดันและร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศให้มีความก้าวหน้าและเป็นต้นแบบที่จะนำไปขยายผลในพื้นที่เกษตรกรรมอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีเข้าไปผสมผสานเพื่อช่วยพัฒนาการเกษตรรูปแบบเดิมอย่างเป็นรูปธรรมตามแนวคิดเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ เพื่อช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มของพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำเรื่องการศึกษากำลังการผลิตในอนาคตให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาด การจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอ พร้อมทั้งกำชับการใช้พื้นที่ทางการเกษตรให้มีความคุ้มค่า ใช้พื้นที่น้อยที่สุดให้เกิดประโยชน์สูงสุด? นายอนุชาฯ กล่าว
สำหรับโครงการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ระบบสมาร์ทฟาร์มโรงเรือนอัจฉริยะ (Smart farming) ณ ศูนย์ฝึกอบรมผาหมี เป็นศูนย์การเรียนรู้พืชมูลค่าสูง เช่น วานิลลา โกโก้ และกัญชง เป็นต้น โดยนำร่องปลูกพืชวานิลลาบนพื้นที่ไหล่เขาและชายขอบ รวมถึงการปลูกพืชในโรงเรือนแบบ EVAP (Evaporative Cooling System) เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาการเกษตร ภายใต้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่มุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรดิจิทัลในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น การให้น้ำ ให้ปุ๋ย และการเก็บเกี่ยวผ่านระบบมือถือแทนการใช้แรงงานคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ตรงความต้องการของผู้บริโภคและตลาด นับเป็นการส่งเสริมอาชีพทางเลือก กระจายความเสี่ยงในการพึ่งพาพืชชนิดเดียว เพิ่มรายได้ต่อตารางเมตร และสร้างอาชีพให้คนรุ่นใหม่กลับบ้านเพื่อพัฒนาบ้านเกิด
ทั้งนี้ ในส่วนของพืชวานิลลาได้มีการพัฒนาและศึกษาวิจัย มีพื้นที่ต้นแบบเพื่อการต่อยอด ปรับกระบวนการแปรรูปฝักวานิลลาแห้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม มีแผนการขายและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น เครื่องดื่ม ไซรัป ไอศครีม เบเกอรี่ กาแฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการปลูกแก่เกษตรกรกลุ่มนำร่องด้วย และจากการนำเทคโนโลยี 5G Smart Farming มาใช้ในการส่งเสริมเกษตรดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้การจัดการแปลงตัวอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จัดการข้อมูลได้รวดเร็วแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมการปลูกแก่เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการขยายผลไปยังพืชทดลองชนิดอื่น นอกจากนี้ยังมีการเก็บข้อมูลพืชเพื่อวิเคราะห์ผล และจะมีการขยายผลไปยังเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในอนาคต
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชิมไอศครีมวานิลลา พร้อมชื่นชมว่ากลิ่นหอมอร่อยมาก ก่อนเยี่ยมชมโครงการนำร่องเกษตรอินทรีย์ด้วยเทคโนโลยี 5 การบริหารจัดการระบบ Smart farm การตากฝักวานิลลา เยี่ยมชมแปลงทดลองการปลูกวานิลลา และสอบถามถึงกระบวนการปลูกและผลิตวานิลลาด้วยความสนใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กดปุ่ม iPad เพื่อรดน้ำต้นวานิลลาโดยเป็นการควบคุมและสั่งการระบบผ่านเทคโนโลยี 5G
นายกรัฐมนตรียังได้ทักทายประชาชนที่มาร่วมงาน และทักทายทักทายชนเผ่าอาข่าที่มารอต้อนรับแล้วเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์โครงการหลวงดอยตุง เช่น ผ้าทอมือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย กระเป๋าผ้า ผลิตภัณฑ์จากขยะพลาสติก ซึ่งเป็นศิลปะแห่งการผสมผสานความทันสมัยและรากฐานทางวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างงดงามลงตัว และเยี่ยมชมผลงานในโครงการบูรณาการภาครัฐและเอกชน สาขาช่างตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ของสมาคมคนพิการอำเภอแม่สาย เช่น เสื้อผ้า ของที่ระลึก ของใช้ต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นโครงการที่ให้การสนับสนุนองค์ความรู้จัดหางานให้ผู้พิการได้มีการพัฒนาผลงานเพื่อการสร้างรายได้ ช่วยให้คนพิการในพื้นที่ห่างไกลได้รับโอกาส มีอาชีพ มีงานทำอย่างทั่วถึง สามารถพึ่งพาตนเองได้ทัดเทียมคนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นการมอบโอกาสในการสร้างอาชีพเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนพิการอย่างยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และย้ำว่ารัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี ซึ่งทั้งสองอย่างต้องทำไปพร้อมกัน โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งขับเคลื่อนนโยบย BCG Model ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมที่มุ่งเน้นการพัฒนา 3 เศรษฐกิจไปพร้อมกัน ทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มของทรัพยากรชีวภาพ เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคุ้มค่าหรือยาวนานที่สุด และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) การพัฒนาเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม โดยขอให้ทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย BCG Model โดยการประกอบอาชีพและการทำกิจการ ธุรกิจต่าง ๆ ด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการเจริญเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้หลายประเทศต่างก็ชื่นชมการดำเนินการขับเคลื่อนนโยบาย BCG ของไทย ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพิจารณาดำเนินการตามลำดับความสำคัญและเร่งด่วน คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th