นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายรัฐบาลกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย" โดยเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโครงสร้างพื้นฐาน
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ห้องนภาลัยบอลรูม โรงแรมดุสิตธานี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายรัฐบาลกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย" ในการประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 13 ของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เพื่อให้กับสมาชิกของ สรท. รับทราบแนวนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
นายสุชาติ จันทรานาคราช ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย รายงานวัตถุประสงค์การจัดงานประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 13 ว่า เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของ สรท. ในปีที่ผ่านมา และแถลงนโยบายการดำเนินงานของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างสมาชิกและคณะกรรมการของ สรท.
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งออกสินค้าแห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2537 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ส่งออก โดย สรท. มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสมาชิก สรท. ด้วยการพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ และประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน สรท. มีสมาชิกประมาณ 2,800 ราย และมียอดการส่งออกร้อยละ 31.29 ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายรัฐบาลกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย" ว่า เศรษฐกิจไทยสะดุดไป 16 เดือน บัดนี้กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการใน 5 เรื่องหลัก คือ 1) การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโครงสร้างพื้นฐาน โดยระดมทุนจากเงินออมภายในประเทศเพื่อนำมาพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนสามารถขนส่งแรงงานในกรุงเทพมหานครไปยังโรงงานอุตสาหกรรมในปริมณฑลในราคาเดียว 2) รัฐบาลจะสร้างพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานครขึ้นแทนที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ย้ายไปตั้งในปริมณฑล 3) การพัฒนาความสัมพันธ์ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ (GMS) ซึ่งธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เป็นเจ้าภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการค้าระหว่างกัน 4) การผันน้ำจากแม่น้ำโขงมากักเก็บในประเทศ 5) การพัฒนาสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน เพราะ สรท. เป็นหน่วยงานสำคัญในการกระจายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค หรือระบบลอจิสติกส์ของไทย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ห้องนภาลัยบอลรูม โรงแรมดุสิตธานี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายรัฐบาลกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย" ในการประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 13 ของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เพื่อให้กับสมาชิกของ สรท. รับทราบแนวนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล
นายสุชาติ จันทรานาคราช ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย รายงานวัตถุประสงค์การจัดงานประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 13 ว่า เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของ สรท. ในปีที่ผ่านมา และแถลงนโยบายการดำเนินงานของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทยในอนาคต รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการพบปะและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างสมาชิกและคณะกรรมการของ สรท.
ทั้งนี้ สภาผู้ส่งออกสินค้าแห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2537 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้ส่งออก โดย สรท. มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของสมาชิก สรท. ด้วยการพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ และประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน สรท. มีสมาชิกประมาณ 2,800 ราย และมียอดการส่งออกร้อยละ 31.29 ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายรัฐบาลกับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย" ว่า เศรษฐกิจไทยสะดุดไป 16 เดือน บัดนี้กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการใน 5 เรื่องหลัก คือ 1) การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยโครงสร้างพื้นฐาน โดยระดมทุนจากเงินออมภายในประเทศเพื่อนำมาพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อให้ระบบขนส่งมวลชนสามารถขนส่งแรงงานในกรุงเทพมหานครไปยังโรงงานอุตสาหกรรมในปริมณฑลในราคาเดียว 2) รัฐบาลจะสร้างพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพมหานครขึ้นแทนที่โรงงานอุตสาหกรรมที่ย้ายไปตั้งในปริมณฑล 3) การพัฒนาความสัมพันธ์ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือ (GMS) ซึ่งธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เป็นเจ้าภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการค้าระหว่างกัน 4) การผันน้ำจากแม่น้ำโขงมากักเก็บในประเทศ 5) การพัฒนาสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลเรื่องสุขภาพ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน เพราะ สรท. เป็นหน่วยงานสำคัญในการกระจายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค หรือระบบลอจิสติกส์ของไทย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--