นายกฯ พบปะชาวสมุทรสงคราม หารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่าและการยกระดับรายได้ประชาชนในพื้นที่-รับฟังข้อเสนอผู้แทนประชาชน ย้ำเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหา ยืนยันการทำงานของนายกฯ คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 13.15 น. ณ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางมาพบปะประชาชนเพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่าและการยกระดับรายได้ของประชาชนชาวสมุทรสงคราม พร้อมรับฟังข้อเสนอจากผู้แทนประชาชน 4 กลุ่ม และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดสมุทรสงคราม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังข้อเสนอจากผู้แทนเครือข่ายประชาชน 4 กลุ่ม ซึ่งประกอบด้วย 1. กลุ่มเครือข่ายสภาเกษตรกรปรับปรุงคุณภาพไม้ผล จังหวัดสมุทรสงคราม ขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานเทศกาลผลไม้และของดี เพื่อกระตุ้นตลาดสินค้าเกษตร การดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในจังหวัด 2. สมาพันธ์ชาวนาเกลือทะเลไทย ขอความอนุเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาราคาเกลือทะเลตกต่ำ นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนสะสม เกิดปัญหาหนี้สิน และทำให้การทำนาเกลือลดลง 3. สมาคมประมงสมุทรสงคราม ขอความอนุเคราะห์แก้ไขความเดือดร้อนของชาวประมง จังหวัดสมุทรสงคราม กรณีการแก้ไขปัญหา IUU ตั้งแต่ปี 2558 ที่ส่งผลกระทบต่อชาวประมง ตลาดปลา อุตสาหกรรมต่อเนื่อง 4. สมาพันธ์ชาวสวนมะพร้าวจังหวัดสมุทรสงคราม ขอความอนุเคราะห์แก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ การแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวผล และมะพร้าวอ่อนอย่างยั่งยืน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รวบรวมนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เป็นไปอย่างเหมาะสมเกิดประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงเรื่องความเดือดร้อนของชาวประมง นายกรัฐมนตรีได้สั่งการกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาแล้ว โดยกรมการจัดหางาน ได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยกำหนดให้นายจ้างภาคประมงที่มีลูกจ้างแรงงานต่างด้าวที่ไม่มี CI หรือพาสปอร์ต สามารถนำลูกจ้างแรงงานต่างด้าวมาต่อใบอนุญาตทำงานผ่านระบบออนไลน์ https://alien13febrenewal.doe.go.th ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 และนำเอกสาร CI หรือพาสปอร์ต มายื่นภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 ซึ่งทางสมาคมประมงสมุทรสงครามและชาวประมง ได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพเกิดผลจริง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาเยี่ยมเยียนชาวจังหวัดสมุทรสงครามอีกครั้ง ซึ่งเป็นเมืองที่มีศักยภาพในหลายด้าน ทั้งการมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่น การเป็นเวนิสตะวันออกของไทย รวมถึงสินค้าเกษตรที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) นาเกลือ ดอนหอยหลอด ตลาดน้ำอัมพวา และตลาดร่มหุบ เป็นต้น สำหรับปัญหาต่าง ๆ ตามที่ประชาชนได้เสนอมานั้น นายกรัฐมนตรีจะเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป และจะกำกับติดตามความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลโดยเร็ว โดยขอให้เจ้าหน้าที่และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระดับต้องทำงานสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี ภายใต้การดำเนินการที่ถูกต้องตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ของแต่ละหน่วยงาน พร้อมยืนยันการทำงานทุกอย่างของนายกรัฐมนตรีคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศจะได้รับเป็นสำคัญ โดยการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องเป็นไปตามกฎหมาย เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ตราบใดที่มีหน้าที่ในการดูแลประชาชนก็จะทำหน้าที่ตนเองอย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมีความสุขตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยพิจารณาดำเนินการตามความจำเป็นเร่งด่วน สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด ทั้งแนวทางการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟสายแม่กลอง (วงเวียนใหญ่ ? มหาชัย ? บ้านแหลม ? แม่กลอง) และโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักและระบบป้องกันน้ำท่วม ชุมชนเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม (ระยะที่ 1) รวมไปถึงรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศและสถานการณ์โลก โดยเฉพาะการศึกษาเล่าเรียนต้องตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อจบออกมาจะได้มีงานทำ มีอาชีพและรายได้ สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตตามเป้าหมายที่กำหนด
นายกรัฐมนตรีย้ำถึงการเพาะปลูกพืชทางการเกษตรต้องปลูกในพื้นที่ถูกต้องและถูกกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศ เพราะจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงผลผลิตต่าง ๆ ได้ ดังนั้นต้องเร่งขับเคลื่อนเกษตร GI และเกษตรปลอดภัย ตามแนวทางขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจ BCG ตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคามยากจนของประชาชนทุกกลุ่มในการขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการขึ้นรถไฟที่ออกเดินทางจากป้ายหยุดรถลาดใหญ่ ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง โดยขบวนรถดีเซลรางที่ 4383 (ป้ายหยุดรถลาดใหญ่ - สถานีรถไฟแม่กลอง) เพื่อตรวจติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ณ สถานีรถไฟแม่กลอง ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม โดยระหว่างเดินทางโดยรถไฟนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศที่โดยสารมากับรถไฟขบวนดังกล่าว ต่างชื่นชมการดำเนินการด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนท้องถิ่นของไทย รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกของจังหวัดสมุทรสงคราม คือ ?ตลาดร่มหุบ? ด้วย ซึ่งได้เห็นบรรยากาศการค้าขายของตลาดร่มหุบ ได้เห็นรอยยิ้มของนักท่องเที่ยว รอยยิ้มของประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าก็รู้สึกอิ่มเอมใจ จังหวัดสมุทรสงครามจึงเป็นจังหวัดที่น่าไปเยี่ยมเยือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยากไปสัมผัส ดังนั้น การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงครามไปสู่ความยั่งยืนต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีของดีขึ้นชื่อจังหวัดสมทุรสงคราม เช่น ผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูป จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านสบายใจ ผลิตภัณฑ์มะพร้าวแปรรูป จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านตันหยง ขนมวงโบราณ จากกลุ่มตลาดน้ำ 3 อำเภอ (อำเภอบางคนที อัมพวา วัดเพลง) และผลิตภัณฑ์แป้งร่ำเกลือจืด จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลบางนางลี่ โดยนายกรัฐมนตรีแนะนำให้เกษตรกรพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า และประยุกต์ให้เข้ากับโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ ให้สามารถเป็นแรงขับเคลื่อนให้กับจังหวัดและประเทศต่อไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th