?นายกฯ รับฟังปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขต อ.เมืองจันทบุรี ยืนยันประโยชน์ของประชาชนสำคัญที่สุด พร้อมผลักดันให้คนไทยทุกคนอยู่ดีกินดี มีที่อาศัย-ที่ทำกิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (22 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 12.55 น. ณ วัดโค้งสนามเป้า ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตอำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึง ได้เข้ากราบสักการะพระประธานในพระอุโบสถ และนมัสการพระราชธรรมเมธี เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี พร้อมถวายผ้าไตรและถวายเครื่องไทยธรรม
จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานสรุปความเป็นมาของปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเขตอำเภอเมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นบริเวณที่ดินราชพัสดุแปลงสนามยิงปืนทุ่งฟ้าผ่า ครอบคลุมพื้นที่ตำบลท่าช้างและตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี มีปัญหาประชาชนบุกรุกถือครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1,027 แปลง เนื้อที่ 3,187 ? 1 ? 14 ไร่ หรือร้อยละ 73.82 ของพื้นที่ทั้งหมด เนื่องจากประชาชนได้อาศัยทำกินมาเป็นระยะเวลานาน และกรมธนารักษ์ได้ให้การรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุแก่ประชาชนที่ประสบปัญหา ด้วยวิธีจัดให้เช่าตามกฎหมายและผ่อนปรนค่าเช่าในอัตราพิเศษให้แก่ประชาชนที่ประสงค์จะเข้าสู่กระบวนการเช่าที่ราชพัสดุ มีราษฎรเช่าที่ดินแปลงดังกล่าว จำนวน 488 ราย และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการผ่อนปรนแล้วปรากฏว่ามีผู้แจ้งความประสงค์ขอเช่าที่ราชพัสดุ เพียง 87 ราย จาก 3,000 กว่าราย โดยส่วนที่เหลือต้องการให้ทางราชการออกโฉนดที่ดินให้ จึงยังไม่ยินยอมเข้าสู่ระบบการแก้ไขปัญหาของทางราชการ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารู้สึกยินดีและอบอุ่นในการต้อนรับของชาวจันทบุรี ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังและติดตามการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วยความเข้าใจและไม่นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในทุกพื้นที่ รัฐบาลเห็นใจและเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้น จะพิจารณาดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ทั้งนี้ ต้องพิสูจน์หลักฐานและดำเนินการอย่างจริงจังให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาทำร้ายประชาชน และจะบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นให้ได้โดยเร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า พื้นที่ต่าง ๆ นั้น ทหารเป็นผู้ดูแลไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ที่ดินทั้งหมดเป็นที่ราชพัสดุรัฐบาลจะพิจารณาดำเนินการหาทางออก โดยจะดำเนินการอย่างเต็มที่ และยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาและดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล ทั้งในสิ่งที่ได้ดำเนินการผ่านมาแล้ว เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม การพัฒนาด้านดิจิทัล เศรษฐกิจ และสินค้า GI เป็นต้น ส่วนสิ่งที่กำลังเดินเนินการหรือกำลังทำอยู่ และยังไม่แล้วเสร็จจะทำต่อให้เสร็จ และทำเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงด้วยโอกาสที่เท่าเทียมกัน ร่วมสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกคน ขอให้คนทุกคนรักกัน ยืนยันว่ารัฐบาลเห็นประโยชน์ของประชาชนสำคัญที่สุด และมาเป็นอันดับแรกเสมอ พร้อมผลักดันให้คนไทยทุกคนได้อยู่ดีกินดี มีที่อาศัย มีที่ทำกิน เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนสืบไป
ที่มา: http://www.thaigov.go.th