?นายกฯ ตรวจติดตามโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ตั้งเป้าระบายน้ำแนวเหนือ-ใต้สู่อ่าวไทย บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ยืนยันรัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนประเทศทุกมิติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ประชาชนมีความสุข
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ (3 มีนาคม 2566) เวลา 15.30 น. ณ วัดใหม่หญ้าไทร ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมพื้นที่พร้อมติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่เป็นแผนงานลำดับที่ 4 ของแผนบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างรวม 9 แผนเพื่อแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทั้งด้านอุทกภัย ปัญหาการขาดแคลนน้ำ คุณภาพน้ำและการบริหารจัดการน้ำให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแนวทางการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม ซึ่งมีเป้าหมายระบายน้ำในแนวเหนือ-ใต้ ตั้งแต่คลองเจ้าเจ็ดต่อเนื่องไปออกสู่ทะเลอ่าวไทยให้ได้มากที่สุด เพิ่มขึ้นจาก 52 เป็น 130 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดปริมาณการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนและแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วยระบายน้ำท่วมในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่คลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน จนถึงทะเลอ่าวไทย สามารถรองรับปริมาณน้ำหลากตอนบนของพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา และช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บกักน้ำในแก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย เพื่อนำน้ำไปใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง โดยมีการปรับปรุงขุดลอกคลองเดิม พร้อมก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ ขุดคลองใหม่ 1 สาย (คลองร่วมถนน) มีอุโมงค์ระบายน้ำ พร้อมปรับปรุงแนวคันควบคุมน้ำทะเล ซึ่งได้มีการจัดทำข้อมูลเชิงพื้นที่ ศึกษารายละเอียด พร้อมทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้และชี้แจงความสำคัญของโครงการให้กับผู้ได้รับผลกระทบในทุกระดับ พร้อมเตรียมแผนบูรณาการความร่วมมือเพื่อลดปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวทักทายและร่วมถ่ายรูปอย่างอบอุ่น โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางมาตรวจเยี่ยม พร้อมติดตามการขับเคลื่อนและการดำเนินงานงานต่าง ๆ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาหลายครั้ง มีความสุขมากทุกครั้งที่ได้มาเยือน และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยในช่วงเช้าได้ไปติดตามงานตามนโยบายรัฐบาลในด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งดูเศรษฐกิจระดับฐานรากเพื่อสร้างรายได้ภายในท้องถิ่นให้ได้อย่างมากที่สุด ซึ่งหากชุมชนเข้มแข็ง ภาคประชาชนเข้มแข็งทุกอย่างจะมั่นคงตามมา ทั้งนี้ ต้องมีความเข้าใจว่าอยุธยาอยู่ในเขตชลประทานขอให้ทุกคนเข้าใจในสภาพภูมิอากาศ และลักษณะทางธรรมชาติ ในส่วนการแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนนั้น รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นทำต่อไปเพื่อให้ทุกคนมีรายได้สูงขึ้น นอกจากนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องทำและคำนึงถึงคือความเท่าเทียมโดยเฉพาะความเท่าเทียมของโอกาสในทุกด้าน รวมทั้งการเสริมสร้างความเท่าเทียมภายใต้กฎหมายเดียวกัน และความเป็นธรรมสำหรับผู้มีรายได้น้อยและคนทุกกลุ่ม โดยรัฐบาลตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคนไทยทั้งประเทศและคำนึงถึงอนาคตของลูกหลานเป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมสูงวัยและการเตรียมรับมือปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต และการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีความโดดเด่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาตร์ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เป็นเมืองกรุงเก่าที่มีมนต์เสน่ห์ มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ประชาชนมีมิตรไมตรี สมดังคำขวัญที่ว่า ?ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา เลอคุณค่ามรดกโลก? รวมทั้งยังมีสินค้าเกษตรที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่น GI เช่น ละมุด บ้านใหม่ มีสินค้า OTOP ประจำจังหวัดที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ เช่น มีดอรัญญิก ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการขนส่งรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนได้อย่างดี ซึ่งจากศักยภาพที่โดดเด่นในด้านการท่องเที่ยว และมีความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองอยุธยาจึงได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 50 เมืองทั่วโลกที่ควรเดินทางเยือนในช่วงหลังการระบาดของโรคโควิด-19 และยังเป็น 1 ใน 8 แห่งของทวีปเอเชียด้วย รัฐบาลจึงมุ่งผลักดันและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งถือเป็น soft power ที่สำคัญสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลกำลังขับเคลื่อน และให้การสนับสนุนควบคู่กับการมีมัคคุเทศก์น้อย เป็นไกด์นำเที่ยว แนะนำให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือน รวมทั้งทำให้ระบบ เศรษฐกิจของจังหวัดขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่าการมาติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เป็นไปอย่างมีระบบ ทำให้น้ำระบายได้ดีขึ้น ลดปริมาณน้ำท่วมให้น้อยลงและท่วมในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทยให้ได้มากที่สุดเพื่อจะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาชน และสิ่งสำคัญที่จะทำให้การดำเนินงานเกิดผลสำเร็จได้คือการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนโดยการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลมีความตั้งใจมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดินเพื่อขับเคลื่อนประเทศในทุกมิติ และเพื่อทำให้ประชาชนทุกคนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลยังไม่หยุดเดินหน้าพัฒนาประเทศ หลายโครงการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว บางโครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งยังมีอีกหลายโครงการที่ยังต้องทำต่อให้แล้วเสร็จ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีอาชีพ มีรายได้ ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ และนับเป็นกำลังใจอันมีค่าให้รัฐบาลมีกำลังใจในการทำงานต่อไปและก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประเทศไทยอันเป็นที่รักและเพื่อความสุขของคนไทยทุกคน
ทั้งนี้ ก่อนพบประชาชน นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เข้ากราบสักการะพระประธาน จุดธูปเทียนบูชา ถวายพวงมาลัย และนมัสการพระครูสังฆรักษ์เที่ยงเพ้ง สจฺจวโร เจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทร พร้อมถวายผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม ณ อุโบสถด้วย
ที่มา: http://www.thaigov.go.th