พลเอก ประวิตร ฯ รองนายกรัฐมนตรี หารือที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติญี่ปุ่น พร้อมสนับสนุนความร่วมมือเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและภูมิภาค เชื่อมั่นความร่วมมือจะสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค และเสริมการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน
วันนี้ (7 มีนาคม 2566) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายอะคิบะ ทาเคโอะ (Mr. Akiba Takeo) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนไทย สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและยืนยันความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับญี่ปุ่นขับเคลื่อน ?หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน Comprehensive Strategic Partnership)? ให้เกิดเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศและภูมิภาคโดยรวม ทั้งนี้ ไทยพร้อมจะพัฒนาความร่วมมือกับญี่ปุ่นด้านความมั่นคง การแลกเปลี่ยนข่าวกรอง และการป้องกันประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศได้ประสานการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีเสมอมา ทั้งนี้ ไทยยินดีร่วมมือกับญี่ปุ่นเพื่อขยายความร่วมมือเรื่องการบรรเทาภัยพิบัติ ความมั่นคงทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้าย และความมั่นคงทางไซเบอร์ในกรอบอาเซียน โดยเฉพาะประเด็นความมั่นคงทางไซเบอร์ซึ่งไทยเป็นที่ตั้งของศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่นเพื่อพัฒนาบุคลากรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติญี่ปุ่นกล่าวขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีสำหรับการต้อนรับ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายคิชิดะ ฟูมิโอะ ฝากความปรารถนาดีและอวยพรให้นายกรัฐมนตรีไทยหายจากอาการป่วยโดยเร็ว ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณและกล่าวเพิ่มเติมว่าอาการป่วยมือขวาอักเสบของนายกรัฐมนตรีไม่น่าห่วงกังวลอะไร ทั้งนี้ ที่ปรึกษาฯ ได้กล่าวว่า ขอบคุณประเทศไทย สำหรับความเข้าใจ และความร่วมมือระหว่างกันที่มีมาอย่างยาวนาน รวมทั้งการสนับสนุนความเชื่อมโยงระหว่างเอกสารมุมมองอาเซียนต่ออินโด ? แปซิฟิก (ASEAN Outlook on the Indo-Pacific : AOIP) ของอาเซียนกับแนวคิด Free and Open Indo-Pacific : FOIP ของญี่ปุ่น ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณที่ญี่ปุ่นสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียนและพร้อมประสานความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องการให้เสถียรภาพและความมั่นคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และพัฒนาการในประเทศและในภูมิภาคอย่างยั่งยืน โดยรองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยสนับสนุนการส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศที่ช่วยต่อยอดการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค
ที่มา: http://www.thaigov.go.th