นายกฯ ติดตามการพัฒนา อ.บ้านโป่ง แจงรัฐบาลมุ่งผลักดันการพัฒนาด้านการเกษตรครบวงจร พร้อมสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตในพื้นที่ราชบุรี ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกมิติ

ข่าวทั่วไป Monday March 13, 2023 14:50 —สำนักโฆษก

นายกฯ ติดตามการพัฒนา อ.บ้านโป่ง แจงรัฐบาลมุ่งผลักดันการพัฒนาด้านการเกษตรครบวงจร พร้อมสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตในพื้นที่ราชบุรี ขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุกมิติ เพื่อประชาชนอยู่ดี กินดี มีความสุข

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า วันนี้ (13 มีนาคม 2566) เวลา 11.45 น. ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ ตรวจติดตามแนวทางในการพัฒนาอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมี คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง พื้นที่จังหวัดราชบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงร่วมต้อนรับ

นายกรัฐมนตรีรับฟังนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง รายงานการดำเนินโครงการ จำนวน 2 โครงการ ดังนี้ 1) โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองบ้านโป่ง ระยะที่ 1 และ 2) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำแม่กลอง บริเวณสะพานค่ายหลวง - สะพานเขางู - เบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ต่อด้วย นายธนิต ดวงสร้อยทอง ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลเมืองบ้านโป่ง รายงานโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำแม่กลอง บริเวณสวนสุขภาพชุมชนไกรฤกษ์ เพื่อพัฒนาสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความเหมาะสมกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ออกกำลังกาย และพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งจะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่สวยงามและน่าอยู่อาศัย พร้อมรองรับการขยายตัวเศรษฐกิจชุมชน

จากนั้น แพทย์หญิงรุจิรา เข็มเพ็ชร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านโป่ง รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารอุบัติเหตุและบำบัดรักษา 9 ชั้น ภายในประกอบด้วย ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินที่ทันสมัย ห้องตรวจผู้ป่วยนอก ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหารและลำไส้ นอกจากนี้ยังมีแผนการก่อสร้างอาคารสนับสนุนบริการ 8 ชั้น และแผนการก่อสร้างอาคารหอพักเจ้าหน้าที่ 7 ชั้น รวม 96 ห้อง ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งผลให้โรงพยาบาลมีพื้นที่สำหรับให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อด้วยนายนพพร พิสุทธิมาน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 15 กรมทางหลวง รายงานความก้าวหน้าโครงการพัฒนาด้านคมนาคมในเขตพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จำนวน 2 โครงการ ดังนี้ 1) โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3273 ช่วง โคกสูง - หนองเป็ด เพื่อให้การคมนาคมขนส่งมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจและสังคมของจังหวัด เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่าง อ.โพธาราม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และเชื่อมโยง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี อีกทั้งยังเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมด้วย และ 2) โครงการแก้ไขปัญหาจุดตัดแยก ทล.323 - ถนนเลียบคลองชลประทาน (อุโมงค์ลอดสี่แยกหัวโป่ง) เป็นการจัดทำแผนการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงสายหลัก เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด ลดระยะเวลาในการเดินทาง และยกระดับความปลอดภัยการใช้เส้นทางคมนาคม และ นายชูชาติ รักจิตร รองอธิบดีกรมชลประทาน รายงานการดำเนินโครงการสถานีสูบน้ำบ้านห้วยดอกไม้ ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นโครงการเพื่อช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตรกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลเขาขลุงและพื้นที่ใกล้เคียง มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 3,161 ไร่ สนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ 365 ครัวเรือน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งได้เป็นอย่างมาก และส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวพบปะประชาชน สรุปสาระสำคัญตอนหนึ่งว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ไปบวงสรวงขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้จังหวัดราชบุรี ให้คนไทยทุกคนมีความสุข ให้ประเทศชาติมีความปลอดภัย ส่วนแผนงานต่าง ๆ ที่ได้รับรายงานและขอรับการสนับสนุนต้องเป็นไปตามกฎระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน มีการไตร่ตรอง ใคร่ครวญพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาพัฒน์ฯ สำนักงบประมาณ หน่วยงานทางกฎหมาย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ นำเข้าสู่ที่ประชุมหารือเพื่อมีมติออกมาดำเนินการต่อไป โดยการขอรับการสนับสนุนต่าง ๆ รัฐบาลต้องพิจารณาตามขั้นตอน แผนการดำเนินงาน และตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมและไม่ทุจริตเด็ดขาด อีกทั้งยังมุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง มีสถานพยาบาลที่ดีที่สุด และเดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลาง medical hub ของอาเซียนและของโลกด้วย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้มาเยี่ยมเยือน มาดูความเรียบร้อยของการดำเนินงาน มีความประทับใจในความสะอาดเรียบร้อยซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนในพื้นที่ร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยขอเน้นย้ำลดการเผา การกำจัดขยะถูกวิธี ร่วมกันใช้วัสดุธรรมชาติ ส่งเสริมการนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นโดยการแปรรูปหรือใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลาน ซึ่งสถานการณ์ทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องอากาศเป็นพิษจากการเผาหญ้าเผาวัชพืช และจากสาเหตุอื่น ๆ ต้องช่วยกันหาทางออก มีมาตรการแก้ปัญหา ลดการเผา และใช้เทคโนโลยีช่วย

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำที่รัฐบาลได้พยายามแก้ไขอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม และยังต้องพยายามปรับแก้ดำเนินการต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง รวมทั้งการปลูกพืชที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ ซึ่งทุกอย่างอยู่ในแผนงานที่ต้องใช้เวลาในการทำงานและขับเคลื่อนต่อไป นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการพัฒนาจัดทำโครงสร้างทางกายภาพ มีโครงการรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง เปิดเส้นทางการเดินทางไปมาหาสู่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน รวมทั้งการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการต่าง ๆ ของรัฐ ดูแลผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้ทุกคนกินดีอยู่ดี ทั้งนี้ ประเทศไทยผ่านความยากลำบากจากสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น โควิด-19 การกีดกันทางการค้า รวมทั้งสถานการณ์สงคราม และปัญหาราคาพลังงานที่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์โลก แต่ประเทศไทยได้รับความชื่นชมจากนานาชาติในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งสถานการณ์โควิด และการดูแลทางการเงินการคลังภาครัฐที่มีความเข้มแข็ง ซึ่งหวังว่าทุกอย่างจะ ดีขึ้นอีกในอนาคต ขอให้ทุกคนมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเพื่อร่วมเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน ในขณะนี้หลายอย่างกำลังจะดีขึ้น แต่มีหลายอย่างที่ยังต้องแก้ไข ซึ่งความร่วมมือร่วมใจกันของทุกคนจะทำให้ผ่านไปได้ พร้อมเน้นย้ำว่าคนไทยต้องมี civilization และรัฐบาลมุ่งเดินหน้าสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี แก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน และการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนจากสิ่งที่มีอยู่แล้วให้มีมูลค่าสูงขึ้น พร้อมแก้ปัญหาการกีดกันทางการค้า และผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย เป็นเกษตรอินทรีย์ เกษตรมูลค่าสูง ที่มีการควบคุมคุณภาพ มีมาตรฐาน GI GMP นอกจากนี้ รัฐบาลยังพร้อมให้การดูแลและเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ไว้สำหรับสังคมผู้สูงวัยด้วย

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงศักยภาพของจังหวัดราชบุรีว่า เป็นเมืองเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ มีศักยภาพสูง ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพระดับส่งออก เช่น มะพร้าวน้ำหอม มะม่วงน้ำดอกไม้ ชมพู่ทับทิมจันทร์ ที่เป็นของดีของดังของจังหวัด และยังมีกล้วยไม้ที่ส่งออกไปทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลมุ่งผลักดันการพัฒนาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร ทั้งการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย เกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุนและสร้างมาตรฐานสินค้ารวมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี และการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรและพัฒนาภาคเกษตร ทั้งการลดต้นทุนปุ๋ย การจัดหาแหล่งที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง สร้างแหล่งกักเก็บน้ำและให้มีการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์ในระยะยาว นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนให้มีการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อเป็นการพัฒนาพื้นที่ทุกมิติ ส่งเสริมการจ้างงาน ให้คนในพื้นที่มีอาชีพ มีรายได้ ลดการย้ายถิ่นฐานเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ ให้คนรุ่นใหม่กลับมายังบ้านเกิดร่วมพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวรู้สึกดีใจที่ได้มาพบปะเยี่ยมเยียนทุกคน ได้มารับฟังปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเต็มกำลัง และยังคงมุ่งมั่นผลักดันการพัฒนาของจังหวัดในทุกด้านเพื่อประโยชน์ของทุกคน ภายใต้ 3 แกนหลักของประเทศ ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พร้อมยืนยันว่าสิ่งต่าง ๆ ที่รัฐบาลทำนั้นได้มีการวางแผนและเริ่มทำมาเป็นระยะ ๆ และจะต้องสานต่อให้แล้วเสร็จเพื่อให้สิ่งที่วางแผนไว้เกิดขึ้นจริง ประชาชนได้รับประโยชน์ถ้วนหน้าและมีความสุข อันจะเป็นพลังให้รัฐบาลเดินหน้าสร้างอนาคตเพื่อคนไทย เพื่อลูกหลานต่อ ๆ ไป ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และยังรวมถึงภาคการศึกษาที่มีส่วนช่วยเติมเต็มและพัฒนาให้เกิดความสำเร็จได้ นอกจากนี้ พลังของคนรุ่นใหม่ก็นับเป็นพลังสำคัญที่จะเข้ามาสร้างสรรค์และมีส่วนช่วยกันขับเคลื่อนจังหวัดและประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพื่อก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน เพื่อประเทศไทยของเราและเพื่อความสุขของคนไทยทุกคนตลอดไป

ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายรามัญ ณ วัดใหญ่นครชุมน์ ตำบลนครชุมน์ อำเภอบ้านโป่ง ต่อไป ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมาตรวจติดตามงานและพบปะประชาชน ณ ศาลาประชาคมฯ นายกรัฐมนตรีและคณะได้สักการะเจ้าแม่เบิกไพร ณ ศาลเจ้าแม่เบิกไพร เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ