ผลการประชุมคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ครั้งที่ 1/2566

ข่าวทั่วไป Wednesday March 15, 2023 15:18 —สำนักโฆษก

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ครั้งที่ 1/2566

เมื่อวันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 เวลา 14.00 น. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาลที่ประชุมได้พิจารณาโครงการและกิจกรรมที่จะจัดขึ้นสำหรับการเฉลิมฉลองพระชนมายุในโอกาสดังกล่าว โดยที่ประชุมเห็นชอบแนวทางในการจัดโครงการและกิจกรรมจะต้องประกอบด้วย (1) การน้อมนำพระดำริที่ทรงพระกรุณาโปรดให้มุ่งเน้นโครงการ/กิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และสาธารณชนในวงกว้างที่จะมีผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาจิตใจและคุณธรรม เพื่อเสริมสร้างสังคมวิถีพุทธ เพื่อความสามัคคีและสันติสุขของคนในชาติ (2) คำนึงถึงความยั่งยืน และผลกระทบในระยะยาว โดยควรเป็นโครงการ/กิจกรรมที่จะเป็นต้นแบบ สามารถต่อยอดและขยายผล ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมและได้นำไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดประโยชน์แก่ตน ตลอดจนการสร้างค่านิยมร่วมในการพัฒนาสังคมและประเทศ และ (3) ควรให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน การศึกษา และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีและการบูรณาการศาสตร์สมัยใหม่มาปรับใช้เพื่อให้เป็นโครงการ/กิจกรรมที่ทันสมัย มีความเป็นสากล และสอดคล้องกับบริบทของสังคมในปัจจุบัน

ที่ประชุมเห็นชอบโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ เช่น

(1) โครงการการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่บริเวณกระทรวงมหาดไทยเดิม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านภูมิประวัติ และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยจะเป็นการพัฒนาพื้นที่สำคัญอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของกรุงรัตนโกสินทร์และของประเทศชาติ การกำหนดรูปแบบและแนวทางการพัฒนาพื้นที่และการปรับปรุงภูมิทัศน์ รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา การศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีซึ่งจะเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ที่มีคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยสืบไป

(2) โครงการสถาบันกรรมฐานศึกษาสมเด็จพระสังฆราช (อมพรมหาเถร) และทุนการศึกษาสมเด็จพระสังฆราช (อมพรมหาเถร) ในพระสังฆราชูปถัมภ์ โดยมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นโครงการตามพระดำริด้านการศึกษา ในส่วนสถาบันกรรมฐานศึกษาจะเป็นสถานปฏิบัติธรรมด้านวิปัสสนาธุระสำหรับพระภิกษุและสามเณร ตลอดจนนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งบูรณาการศาสตร์สมัยใหม่และการส่งเสริมการวิจัยทางการแพทย์ ส่วนทุนการศึกษานั้น จะเป็นการสนับสนุนให้พระภิกษุและสามณรไปศึกษาต่อในต่างประเทศในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อสร้างศาสนทายาทที่มีความรู้ความสามารถสามารถรับภารกิจในการสืบทอดพระพุทธศาสนาในอนาคตได้เป็นอย่างดี

(3) โครงการพัฒนาวัดต้นแบบ ได้แก่ วัดถ้ำสุขเกษมสวรรค์ อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ซึ่งได้ดำเนินโครงการคืนธรรมชาติสู่ธรรม ในพระสังฆราชปถัมภ์ น้อมนำหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ แหล่งน้ำ ป่าไม้ การพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพื่อความยั่งยืน ให้วัดอยู่คู่กับธรรมชาติ ตามแนวทาง "Green Buddhism for Sustainable Development" มีการจัดกิจกรรมปลูกป่า อนุรักษ์แหล่งน้ำ โดยภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทุกภาคส่วนร่วมมือกัน

(4) โครงการธรรมะ สานใจ สูงวัยพลังบวก ภายใต้แนวคิด "บวร" หรือ บ้าน วัด โรงเรียน ในวัดนำร่องและศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จ. พระนครศรีอยุธยา โดยจะขยายไปยังศูนย์ต่าง ๆ ที่มีความพร้อมต่อไป

(5) โครงการจัดสร้างสิ่งสะสมพิเศษเพื่อเป็นที่ ระลึกงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เช่น การจัดทำแสตมป์เพื่อจำหน่าย และการจัดทำเหรียญที่ระลึกสำหรับนำขึ้นถวายสมเด็จพระสังฆราชฯ ต่อไปสำหรับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและการศึกษานั้น รองนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ส่วนราชการร่วมกันดำเนินการ ได้แก่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงการต่างประเทศ โดยมีการจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเพื่อรับผิดชอบการดำเนินการในด้านนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง และคำนึงถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ การประยุกต์ใช้หลักธรรมที่สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และการเรียนรู้ที่เปิดกว้างตลอดชีวิตหน่วยงานภาครัฐที่มีความประสงค์จะจัดทำโครงการ/กิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติและขอใช้ตราสัญลักษณ์ ขอให้แจ้งความประสงค์ไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำหรับภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปที่มีความประสงค์จะจัดทำโครงการ/กิจกรรมร่วมเฉลิมพระเกียรติ และขอใช้ตราสัญลักษณ์เพื่อประดับหรือประดิษฐานบนสิ่งของใด I ให้แจ้งความประสงค์ไปยังสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ