ลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (20 มีนาคม 2566) เวลา 14.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดพังงา รับทราบสถานการณ์วิกฤตน้ำในพื้นที่หลังจากฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้แหล่งน้ำธรรมชาติในหลายพื้นที่แห้งขอด โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้การต้อนรับ โดยรับทราบสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ภาพรวมพื้นที่มีลักษณะเป็นภูเขาและทะเล ประชาชนเดือดร้อนและขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร ระบบชลประทานมีความจำเป็นเพื่อการเกษตร โดย ปี 2561 - 2566 รัฐบาลดำเนินโครงการแล้วกว่า 248 โครงการ ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 20,000 ครัวเรือน และปี 2567 ได้จัดเตรียมงบประมาณรองรับ 96 โครงการ ประชาชนได้รับประโยชน์ 24,000 ครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มแห้งขอดจากฝนทิ้งช่วง
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าโครงการฝายคลองกะปง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ ตำบลท่านา อำเภอกะปง จังหวัดพังงา โดยภาพรวมสามารถกักเก็บน้ำดิบได้ 120 ลูกบาศ์กเมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ 5 หมู่บ้าน 1,082 ครัวเรือน 3,884 คน สามารถสร้างรายได้ให้ประชาชนกว่า 6.3 ล้านบาท พร้อมทั้งพบปะรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่
โดย รองนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สนับสนุนจังหวัดพังงาในการพัฒนาและจัดหาแหล่งน้ำสำรองเร่งด่วนเพิ่มเติมทั้งบนดินและใต้ดิน รองรับระบบประปาหมู่บ้าน และให้ส่วนราชการในพื้นที่ช่วยสนับสนุนสนับสนุนน้ำอุปโภคและบริโภคในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งให้พิจารณาแผนงานปี 2567 ให้เชื่อมโยงการเก็บกักน้ำในลำน้ำสายหลักและแหล่งเก็บกักน้ำในพื้นที่ช่วงฤดูฝนมากขึ้น และขอให้กรมฝนหลวงพิจารณาจัดทำฝนหลวงหากมีโอกาสและจำเป็น พร้อมยืนยันการช่วยเหลือจากรัฐบาลจะดำเนินกรต่อเนื่องกันไปและขอเป็นกำลังใจกับประชาชนทุกคนในพื้นที่
ที่มา: http://www.thaigov.go.th