รองนายกฯ วิษณุฯ หารือ เอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและมีพลวัตมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมร่วมกันเพิ่มพูนความร่วมมือที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน
วันนี้ (วันพุธที่ 29 มีนาคม 2566) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรอง ชั้น 11 กระทรวงยุติธรรม นายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและยินดีกับการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย พร้อมทั้งขอบคุณเอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันตลอดมาตั้งแต่เข้ารับหน้าที่ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเวียดนามมีความใกล้ชิดและมีพลวัตมาอย่างต่อเนื่อง โดยรองนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลไทยพร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเวียดนาม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้น
เอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าเยี่ยมคารวะในวันนี้ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนามให้มีความก้าวหน้ามาโดยตลอด ชื่นชมรองนายกรัฐมนตรีว่าเป็นผู้มีความรู้ และความสามารถของไทย โดยไทยกับเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง มีความร่วมมือระหว่างกันที่ครอบคลุมในทุกมิติ และในปีนี้ถือเป็นปีครบรอบ 10 ปีของการยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ซึ่งเอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ยืนยันพร้อมสานต่อและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันจะดำเนินไปได้อย่างมีเสถียรภาพในอนาคต
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ไทยและเวียดนามเป็นคู่ค้าที่สำคัญของกันและกัน และมีมูลค่าการค้าทวิภาคีขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ชื่นชมศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ไทยลงทุนในเวียดนามเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมในหลายธุรกิจ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี รองนายกรัฐมนตรีเห็นว่าทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือได้อีกมาก โดยขอให้เอกอัครราชทูตเวียดนามฯ ผลักดันการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน พร้อมทั้งดูแลอำนวยความสะดวกในเรื่องการลดอุปสรรคด้านการลงทุนให้แก่ภาคเอกชนไทยที่ไปลงทุนในเวียดนาม โดยเฉพาะอุปสรรคทางด้านภาษี เพื่อให้การลงทุนของไทยในโครงการต่าง ๆ มีความคืบหน้าโดยเร็ว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับ โดยที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ เป็นส่วนช่วยผลักดันความร่วมมือระหว่างกันให้คืบหน้าเป็นรูปธรรมมากขึ้นหลายด้าน และในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ (Joint Cabinet Retreat: JCR) ไทย - เวียดนาม ครั้งที่ 4 ซึ่งทางเวียดนามเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเอกอัครราชทูตเวียดนามฯ เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนช่วยเพิ่มพลวัตในการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกัน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th