เอกอัครราชทูตชิลีฯ เข้าพบนายกรัฐมนตรีในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ยืนยันสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์ในทุกระดับให้ก้าวหน้าต่อไป
วันนี้ (9 พ.ค. 2566) เวลา 13.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอเล็กซ์ ไกเกอร์ ซอฟเฟีย (H.E. Mr. Alex Geiger Soffia) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐชิลีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตชิลีฯ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย - ชิลี นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยมีส่วนเพิ่มพูนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นและมีพลวัตมากยิ่งขึ้น พร้อมฝากความปรารถนาดีไปยังประธานาธิบดีกาบริเอล โบริก ฟอนต์ ซึ่งได้พบกันล่าสุดในห้วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีกาบริเอลฯ ความสัมพันธ์ไทย ? ชิลีจะก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ไทยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์กับชิลี ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ให้ราบรื่น มีพลวัต และก้าวหน้าอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
เอกอัครราชทูตชิลีฯ รู้สึกประทับใจที่ได้มาดำรงตำแหน่งในประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างดี โดยไทยและชิลีมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด และได้ฉลองในโอกาสครบรอบ 60 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2565 ความสัมพันธ์และความร่วมมือเติบโตและครอบคลุมทุกระดับ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในภาพรวม โดยเฉพาะความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน วิชาการ การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์ระดับประชาชน
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงความร่วมมือประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่การค้าระหว่างกันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย - ชิลี ที่กำลังจะมีอายุการลงนามครบ 10 ปีในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะนำคณะผู้ประกอบการไทย สาขาสินค้าอุตสาหกรรมและอาหาร เดินทางไปเยือนลาตินอเมริกา รวมถึงชิลี และไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการความตกลงการค้าเสรีไทย - ชิลี ครั้งที่ 4 ในวันที่ 15 พฤษภาคม นี้ เพื่อขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินการภายใต้ FTA ซึ่งนายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตชิลีฯ ต่างมุ่งหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะได้ใช้โอกาสนี้ส่งเสริมการค้า และการใช้ประโยชน์จาก FTA ระหว่างกัน
ความร่วมมือทางวิชาการ เอกอัครราชทูตชิลีฯ ยินดีที่ได้มีส่วนสำคัญในการผลักดันการส่งเสริมการปลูกพืชควินัว และได้ขยายผลไปยังประโยชน์ให้แก่ประเทศอื่นในอาเซียนด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปลูกพืชควินัวได้ช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรไทยสามารถเพาะปลูก และมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือใต้-ใต้ พร้อมสานต่อความร่วมมือทางวิชาการกับชิลี ทั้งในระดับทวิภาคีและไตรภาคี
การเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยได้เสนอจังหวัดภูเก็ตให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 ? Phuket Thailand นำเสนอจุดแข็งด้านสาธารณสุข และเป้าหมายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพ และจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก รวมถึงบทบาทสร้างสรรค์ในการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งชิลีจะช่วยพิจารณาไทยในการเป็นเจ้าภาพงานดังกล่าว
ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียินดีที่ชิลีสนใจกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับไทย ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ จึงยินดีที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีในสาขาดังกล่าวกับฝ่ายชิลี ซึ่งเอกอัครราชทูตชิลีฯ เชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ จะเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ชิลี
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรให้เอกอัครราชทูตชิลีฯ และครอบครัว เดินทางกลับชิลีโดยสวัสดิภาพ ประสบแต่ความสุข ซึ่งเอกอัครราชทูตชิลีฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลและทุกหน่วยงานที่สนับสนุนอย่างดีตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในไทย พร้อมสานต่อการดำเนินงานให้เอกอัครราชทูตชิลีฯ คนใหม่ เพื่อพัฒนาพลวัตความพันธ์และความร่วมมือไทย ? ชิลี ให้ใกล้ชิดต่อไป.
ที่มา: http://www.thaigov.go.th