รัฐบาลเตรียมพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันทำประชาคมหมู่บ้านและชุมชน เพื่อจัดสรรงบประมาณโครงการ SML ลงทุกพื้นที่
วันนี้ เวลา 14.45 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ อาทิ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตรวจสภาพรถโดยสารที่จะขนส่งประชาชนจากกรุงเทพฯ ออกไปภูมิภาค มาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม - 11 เมษายน และตั้งแต่วันที่ 9-12 เมษายน ทางกระทรวงคมนาคมได้จัดเตรียมรถที่จะขนส่งประชาชนเพิ่มขึ้นจากปกติในอัตรา 40 เปอร์เซ็นต์ของทุกเที่ยวทุกจังหวัด รวมทั้งมีการอบรมผู้ประกอบการเดินรถ ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง ก่อนออกเดินทางจากสถานีหมอชิต สถานีเอกมัย สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเช็คบัญชีรายชื่อพนักงานขับรถ ทะเบียนรถ เวลาที่รถออก โดยทุกด่าน สามารถตรวจสอบได้จากบัญชีรายชื่อนี้ สำหรับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ได้รับความสะดวก ไม่ว่าจะปัญหาการจำหน่ายตั๋วโดยสารเกินราคา หรือกรณีที่ซื้อตั๋วแล้วไม่ได้ขึ้นรถ ก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่สถานีขนส่งทุกแห่งหรือสายด่วนหมายเลข 1584 ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานยังได้ตั้งจุดบริการตรวจสภาพรถยนต์ เครื่องยนต์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้านกระทรวงพลังงานก็จัดให้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.และบางจาก เป็นจุดตรวจเช็คเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีขนส่งต่าง ๆ และจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจสภาพการจราจรที่จังหวัดสระบุรี ที่มีการคาดการณ์ว่าการจราจรจะติดขัดพอสมควร พร้อมทั้งจะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย และมุ่งหวังที่จะทำให้มาตรการดูแลความปลอดภัยในครั้งนี้ ส่งผลให้มีจำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือจำนวนอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวกตามจุดบริการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 24 เมษายนนี้ กระทรวงการคลังจะจัดสรรงบประมาณโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กระจาย ลงไปยังท้องถิ่น ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจะได้ทำประชาคมหมู่บ้านและชุมชนของตนเองเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน และหากพื้นที่ใดทำประชาคมเสร็จก่อน สามารถเสนอโครงการมายังสำนักงานพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สพศ.) ได้ก่อน เพื่อจะได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณลงไปให้โดยเร็ว
ทั้งนี้ หลังเทศกาลสงกรานต์แล้วนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ประกาศไว้ จะทยอยนำมาใช้ ไม่ว่าจะโครงการ SML หรือโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษา นอกจากนี้ จะมีข่าวดีในเรื่องที่จะมีการสรุปแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รัฐธรรมนูญตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นของขวัญให้ประชาชนหลังเทศกาลสงกรานต์
“ไม่ต้องไปวิตกกังวลกับการเคลื่อน ไหวหรือการพยายามจะคัดค้านใด ๆ ขอเรียนว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ จากทุกกลุ่ม และเคารพการเคลื่อนไหวใดๆ แม้จะแตกต่างกับแนวทางการทำงานของรัฐบาล หากอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ภารกิจหลักของรัฐบาลคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน และนำพาบ้านเมืองไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น แนวทางที่รัฐบาลประกาศแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงถือเป็นแนวทางหลักแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลจะเดินหน้า ส่วนข้อกังวล ข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่มีรากฐานของข้อเท็จจริงมารองรับนั้น ขอให้ประชาชนอย่าได้ไปใช้พื้นที่ความคิด ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหารเงียบหรือการจะนำไปสู่กลียุคนองเลือด เพราะเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยไม่มีข้อเท็จจริงใด ๆ และขอเรียนว่ารัฐบาลชุดนี้จะต่อต้านการทำรัฐประหารในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเงียบหรือรัฐประหารเอะอะโวยวายใดๆ ก็ตาม และขอเรียนว่ากลุ่มบุคคลที่พยายามกล่าวอ้างว่าจะต่อต้านการรัฐประหารเงียบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันที่ไม่เคยออกมาแสดงความคัดค้านหรือต่อต้านใดๆ ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองมีการรัฐประหารอย่างเปิดเผย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.45 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ อาทิ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินการตรวจสภาพรถโดยสารที่จะขนส่งประชาชนจากกรุงเทพฯ ออกไปภูมิภาค มาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม - 11 เมษายน และตั้งแต่วันที่ 9-12 เมษายน ทางกระทรวงคมนาคมได้จัดเตรียมรถที่จะขนส่งประชาชนเพิ่มขึ้นจากปกติในอัตรา 40 เปอร์เซ็นต์ของทุกเที่ยวทุกจังหวัด รวมทั้งมีการอบรมผู้ประกอบการเดินรถ ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง ก่อนออกเดินทางจากสถานีหมอชิต สถานีเอกมัย สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจเช็คบัญชีรายชื่อพนักงานขับรถ ทะเบียนรถ เวลาที่รถออก โดยทุกด่าน สามารถตรวจสอบได้จากบัญชีรายชื่อนี้ สำหรับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ได้รับความสะดวก ไม่ว่าจะปัญหาการจำหน่ายตั๋วโดยสารเกินราคา หรือกรณีที่ซื้อตั๋วแล้วไม่ได้ขึ้นรถ ก็สามารถร้องเรียนมาได้ที่สถานีขนส่งทุกแห่งหรือสายด่วนหมายเลข 1584 ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของกระทรวงแรงงานยังได้ตั้งจุดบริการตรวจสภาพรถยนต์ เครื่องยนต์ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้านกระทรวงพลังงานก็จัดให้สถานีบริการน้ำมัน ปตท.และบางจาก เป็นจุดตรวจเช็คเครื่องยนต์ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานีขนส่งต่าง ๆ และจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจสภาพการจราจรที่จังหวัดสระบุรี ที่มีการคาดการณ์ว่าการจราจรจะติดขัดพอสมควร พร้อมทั้งจะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความปลอดภัย และมุ่งหวังที่จะทำให้มาตรการดูแลความปลอดภัยในครั้งนี้ ส่งผลให้มีจำนวนผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต หรือจำนวนอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่คอยอำนวยความสะดวกตามจุดบริการต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 24 เมษายนนี้ กระทรวงการคลังจะจัดสรรงบประมาณโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กระจาย ลงไปยังท้องถิ่น ดังนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์น่าจะเป็นโอกาสดีสำหรับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาจะได้ทำประชาคมหมู่บ้านและชุมชนของตนเองเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน และหากพื้นที่ใดทำประชาคมเสร็จก่อน สามารถเสนอโครงการมายังสำนักงานพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สพศ.) ได้ก่อน เพื่อจะได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณลงไปให้โดยเร็ว
ทั้งนี้ หลังเทศกาลสงกรานต์แล้วนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ประกาศไว้ จะทยอยนำมาใช้ ไม่ว่าจะโครงการ SML หรือโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษา นอกจากนี้ จะมีข่าวดีในเรื่องที่จะมีการสรุปแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้รัฐธรรมนูญตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็นของขวัญให้ประชาชนหลังเทศกาลสงกรานต์
“ไม่ต้องไปวิตกกังวลกับการเคลื่อน ไหวหรือการพยายามจะคัดค้านใด ๆ ขอเรียนว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ จากทุกกลุ่ม และเคารพการเคลื่อนไหวใดๆ แม้จะแตกต่างกับแนวทางการทำงานของรัฐบาล หากอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ภารกิจหลักของรัฐบาลคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน และนำพาบ้านเมืองไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น แนวทางที่รัฐบาลประกาศแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงถือเป็นแนวทางหลักแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลจะเดินหน้า ส่วนข้อกังวล ข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่มีรากฐานของข้อเท็จจริงมารองรับนั้น ขอให้ประชาชนอย่าได้ไปใช้พื้นที่ความคิด ไม่ว่าจะเป็นการรัฐประหารเงียบหรือการจะนำไปสู่กลียุคนองเลือด เพราะเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยไม่มีข้อเท็จจริงใด ๆ และขอเรียนว่ารัฐบาลชุดนี้จะต่อต้านการทำรัฐประหารในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเงียบหรือรัฐประหารเอะอะโวยวายใดๆ ก็ตาม และขอเรียนว่ากลุ่มบุคคลที่พยายามกล่าวอ้างว่าจะต่อต้านการรัฐประหารเงียบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันที่ไม่เคยออกมาแสดงความคัดค้านหรือต่อต้านใดๆ ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองมีการรัฐประหารอย่างเปิดเผย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--