สมช.เตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ วันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ ยกเว้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ เวลา 12.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2551 สรุปดังนี้
ที่ประชุมพิจารณาเห็นถึงความจำเป็นและตามความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี เป็นระยะเวลา 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2551 เนื่องจากการใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการสืบสวน สอบสวน และการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษในชั้นศาล และยังเป็นมาตรการในการป้องกันมิให้ผู้กระทำผิดในพื้นที่ก่อเหตุร้ายได้โดยง่าย จึงเห็นควรให้มีการนัดประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2551 เวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ ยกเว้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี และ 5 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี และสะเดา สำหรับพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ทดแทน โดยมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และกองทัพบกไปพิจารณาในรายละเอียด แล้วนำเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการจัดส่งนักศึกษาไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยต่างๆ ไปอีก 5 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2552-2556 เพื่อช่วยยกระดับการศึกษาของเยาวชนไทยมุสลิมที่ด้อยโอกาสให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาทางด้านสังคมจิตวิทยาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตบุคลากรอาชีพครูเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ของโครงการที่กำหนดเพื่อดำเนินการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ระยะยาวต่อไป รวมทั้งเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาจาก 16 ทุนเป็น 44 ทุน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 12.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2551 สรุปดังนี้
ที่ประชุมพิจารณาเห็นถึงความจำเป็นและตามความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี เป็นระยะเวลา 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึงวันที่ 19 กรกฎาคม 2551 เนื่องจากการใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการสืบสวน สอบสวน และการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษในชั้นศาล และยังเป็นมาตรการในการป้องกันมิให้ผู้กระทำผิดในพื้นที่ก่อเหตุร้ายได้โดยง่าย จึงเห็นควรให้มีการนัดประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ในวันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2551 เวลา 09.00 น. เพื่อพิจารณาการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึกในทุกพื้นที่ ยกเว้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ยะลา ปัตตานี และ 5 อำเภอในจังหวัดสงขลา คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี และสะเดา สำหรับพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ทดแทน โดยมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และกองทัพบกไปพิจารณาในรายละเอียด แล้วนำเสนอสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการจัดส่งนักศึกษาไทยที่นับถือศาสนาอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยต่างๆ ไปอีก 5 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2552-2556 เพื่อช่วยยกระดับการศึกษาของเยาวชนไทยมุสลิมที่ด้อยโอกาสให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาทางด้านสังคมจิตวิทยาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตบุคลากรอาชีพครูเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% ของโครงการที่กำหนดเพื่อดำเนินการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับเยาวชนในพื้นที่ระยะยาวต่อไป รวมทั้งเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาจาก 16 ทุนเป็น 44 ทุน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--