พิธีวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางประชาชนชาวไทยและชาวจีน ที่มาร่วมให้กำลังใจนักวิ่งคบเพลิงเป็นจำนวนมาก
การวิ่งคบเพลิงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทย เริ่มขึ้นในวันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โดยพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมกล่าวต้อนรับผู้แทนคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 29 ปี 2008 ที่ได้เดินทางมาร่วมการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทย รวมทั้งคณะผู้วิ่งคบเพลิงโอลิมปิคในประเทศไทยทุกคน และกล่าวแสดงความยินดีกับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้รับการเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 29 ในปี 2008 และย้ำว่าประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนาน ดังนั้น สายสัมพันธ์ของพี่น้องไทย-จีน จึงมีความสนิทแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกันโดยไม่อาจแบ่งแยก
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนสาธารณรัฐประชาชนจีนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 29 ในปี 2008 นี้ มาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศที่มีการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ย่อมยืนยันถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในบางแห่งที่ผ่านมาอาจจะมีการนำเรื่องการเมืองเข้ามาปะปนกับเรื่องกีฬาอยู่บ้างก็ตาม แต่สำหรับประเทศไทยนั้นขอยืนยันหลักการเจตนารมณ์ที่แยกเรื่องการเมืองและการกีฬาออกจากกันเป็นคนละเรื่องอย่างชัดเจน และพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามหลักการของกระบวนการโอลิมปิค และธรรมนูญข้อบังคับโอลิมปิคทุกประการ
จากนั้น นายจาง จิ่ว หวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวพิธีเปิดทั้งภาษาจีนและไทย สรุปว่า พวกเรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาจัดงานวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ที่กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ ท่ามกลางการรอคอยด้วยความกระตือรือร้นของประชาชนชาวกรุงเทพฯ และชาวไทย ไฟโอลิมปิคได้มาถึงประเทศไทยสวยสดงดงาม และในวันนี้จะมีการร่วมวิ่งคบเพลิง ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา พวกเราจึงรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่ง หัวหน้าคณะการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิคฯ และทีมงานต่างประทับใจเป็นอย่างยิ่งต่อความเข้าใจอันดีความนับถือต่อเจตนารมณ์โอลิมปิค ต่อไมตรีจิตมิตรภาพของประชาชนชาวไทยรัฐบาลไทย ที่มีต่อประชาชนชาวจีน เราได้มองเห็นแล้วว่า รัฐบาลไทย คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงประชาชนชาวไทยที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้กล่าวแสดงความขอบคุณและย้ำว่า จีนกับไทยเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองประเทศได้มีการไปมาหาสู่กันฉันท์มิตรเป็นเวลาช้านาน รวมทั้งความร่วมมือของทั้งสองประเทศในด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการต่างประเทศ เพิ่มพูนความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าเมื่อผ่านการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ที่กรุงเทพฯ แล้ว ยิ่งจะทำให้ไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศและความร่วมมือกันจะได้พัฒนาไปอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การวิ่งคบเพลิงถือว่าเป็นกิจกรรมอันสูงส่งและยิ่งใหญ่ อันเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและความสว่างไสว และขอให้การวิ่งคบเพลิงในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยความงดงาม เพื่อนำมาซึ่งความสามัคคีสมานฉันท์ ความเจริญก้าวหน้าต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ตลอดจนความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของประเทศไทยและจีน
ต่อจากนั้น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ขึ้นกล่าวว่า ในนามของกรุงเทพมหานคร ประชาชนชาวกรุงเทพฯ และชาวไทยทั้งประเทศมีความภาคภูมิใจที่ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ปี 2008 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้กรุงเทพมหานคร เป็นเมือง 1 ใน 21 เมืองทั่วโลกที่มีการจัดวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2008 โดยมีกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ และได้ลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับกรุงเทพมหานคร ครบรอบ 15 ปีในปีนี้ และเป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกรุงเทพมหานครที่มีพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เป็นเวลายาวนาน ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย-จีน ได้ผสมผสานกันอย่างสนิทแนบแน่น กรุงเทพมหานครและคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จึงตกลงร่วมกันกำหนดให้บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ หรือซุ้มประตูจีนบริเวณวงเวียนโอเดียนเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งคบเพลิงและจะสิ้นสุดที่ลานพระราชวังดุสิต ซึ่งจะเห็นได้ว่าเราได้รวมพลังแห่งความสามัคคีแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศุ์ทุกพระองค์อย่างแนบแน่นของพี่น้องประชาชนไทย-จีนทุกคน มารวมกันไว้ในเส้นทางการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในวันนี้ จึงนับเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และขอให้การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ทั้งในประเทศไทยและที่จะดำเนินการต่อไปประสบความสำเร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของกระบวนการโอลิมปิคทุกประการ
หลังจากนั้นคบเพลิงโอลิมปิคได้ถูกจุดขึ้น โดยนายเจียง เซี่ยว หยี รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิค เป็นผู้จุดคบเพลิง และส่งต่อให้นายจาง จิ่ว หวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมส่งมอบให้นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้วิ่งคบเพลิงคนแรก โดยการวิ่งคบเพลิงครั้งนี้มีผู้วิ่งทั้งหมด 80 คน ทั้งนี้ เส้นทางการวิ่งเริ่มออกจากซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ไปตามถนนเยาวราช ถนนเจริญกรุง ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนราชวิถี ถนนอู่ทองใน ก่อนจะสิ้นสุดที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต รวมระยะทางทั้งสิ้น 10.5 กิโลเมตร
สำหรับบรรยากาศตลอดเส้นทางการวิ่งคบเพลิง ได้มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ประชาชนชาวจีน เข้าร่วมให้กำลังใจแก่ผู้วิ่งคบเพลิงเป็นจำนวนมาก ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้น ทางกรุงเทพมหานครได้ระดมเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับตำรวจนครบาลกว่า 3,000 นาย ควบคุมขบวนวิ่งคบเพลิงอย่างหนาแน่น และไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ต่อมา ในเวลา 18.05 น. ไฟคบเพลิงโอลิมปิคเดินทางมาถึงลานพระราชวังดุสิต ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมพิธีกว่า 5,000 คน นางสาวปวีณา ทองสุข นักยกน้ำหนักหญิงเหรียญทองโอลิมปิคของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้วิ่งคนสุดท้าย ได้เดินชูคบเพลิงไปจุดยังกระถางคบเพลิงใหญ่บนเวที จากนั้นพลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นกล่าว นายณัฐ อินทรปาณ คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (OIC) ประจำประเทศไทย ขึ้นอ่านสาส์นจากประธานโอลิมปิค นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขึ้นกล่าว ต่อด้วย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายเจียง เซี่ยว หยี รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิคเกมส์
จากนั้นผู้แทนของจีนมอบคบเพลิงโอลิมปิคให้พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ผู้แทนของจีนมอบเกียรติบัตรให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสร็จแล้วเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากประเทศไทยและจีน ก่อนที่จะมีการดับไฟที่กระถางคบเพลิง ทั้งนี้ ไฟคบเพลิงโอลิมปิคจะได้เดินทางต่อไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยจะออกเดินทางในเวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
การวิ่งคบเพลิงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทย เริ่มขึ้นในวันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โดยพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดพร้อมกล่าวต้อนรับผู้แทนคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 29 ปี 2008 ที่ได้เดินทางมาร่วมการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในประเทศไทย รวมทั้งคณะผู้วิ่งคบเพลิงโอลิมปิคในประเทศไทยทุกคน และกล่าวแสดงความยินดีกับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้รับการเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 29 ในปี 2008 และย้ำว่าประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนาน ดังนั้น สายสัมพันธ์ของพี่น้องไทย-จีน จึงมีความสนิทแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกันโดยไม่อาจแบ่งแยก
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนสาธารณรัฐประชาชนจีนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ครั้งที่ 29 ในปี 2008 นี้ มาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นประเทศที่มีการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ย่อมยืนยันถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในบางแห่งที่ผ่านมาอาจจะมีการนำเรื่องการเมืองเข้ามาปะปนกับเรื่องกีฬาอยู่บ้างก็ตาม แต่สำหรับประเทศไทยนั้นขอยืนยันหลักการเจตนารมณ์ที่แยกเรื่องการเมืองและการกีฬาออกจากกันเป็นคนละเรื่องอย่างชัดเจน และพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามหลักการของกระบวนการโอลิมปิค และธรรมนูญข้อบังคับโอลิมปิคทุกประการ
จากนั้น นายจาง จิ่ว หวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวพิธีเปิดทั้งภาษาจีนและไทย สรุปว่า พวกเรารู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาจัดงานวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ที่กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ ท่ามกลางการรอคอยด้วยความกระตือรือร้นของประชาชนชาวกรุงเทพฯ และชาวไทย ไฟโอลิมปิคได้มาถึงประเทศไทยสวยสดงดงาม และในวันนี้จะมีการร่วมวิ่งคบเพลิง ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา พวกเราจึงรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นอย่างยิ่ง หัวหน้าคณะการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิคฯ และทีมงานต่างประทับใจเป็นอย่างยิ่งต่อความเข้าใจอันดีความนับถือต่อเจตนารมณ์โอลิมปิค ต่อไมตรีจิตมิตรภาพของประชาชนชาวไทยรัฐบาลไทย ที่มีต่อประชาชนชาวจีน เราได้มองเห็นแล้วว่า รัฐบาลไทย คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงประชาชนชาวไทยที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
พร้อมกันนี้ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้กล่าวแสดงความขอบคุณและย้ำว่า จีนกับไทยเป็นพี่น้องกัน โดยทั้งสองประเทศได้มีการไปมาหาสู่กันฉันท์มิตรเป็นเวลาช้านาน รวมทั้งความร่วมมือของทั้งสองประเทศในด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการต่างประเทศ เพิ่มพูนความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น และมั่นใจว่าเมื่อผ่านการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ที่กรุงเทพฯ แล้ว ยิ่งจะทำให้ไมตรีจิตมิตรภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศและความร่วมมือกันจะได้พัฒนาไปอย่างลึกซึ้งและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การวิ่งคบเพลิงถือว่าเป็นกิจกรรมอันสูงส่งและยิ่งใหญ่ อันเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและความสว่างไสว และขอให้การวิ่งคบเพลิงในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยความงดงาม เพื่อนำมาซึ่งความสามัคคีสมานฉันท์ ความเจริญก้าวหน้าต่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย ตลอดจนความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของประเทศไทยและจีน
ต่อจากนั้น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ขึ้นกล่าวว่า ในนามของกรุงเทพมหานคร ประชาชนชาวกรุงเทพฯ และชาวไทยทั้งประเทศมีความภาคภูมิใจที่ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคฤดูร้อน ครั้งที่ 29 ปี 2008 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้กรุงเทพมหานคร เป็นเมือง 1 ใน 21 เมืองทั่วโลกที่มีการจัดวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2008 โดยมีกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ และได้ลงนามสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องกับกรุงเทพมหานคร ครบรอบ 15 ปีในปีนี้ และเป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งกรุงเทพมหานครที่มีพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เป็นเวลายาวนาน ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไทย-จีน ได้ผสมผสานกันอย่างสนิทแนบแน่น กรุงเทพมหานครและคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์จึงตกลงร่วมกันกำหนดให้บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ หรือซุ้มประตูจีนบริเวณวงเวียนโอเดียนเป็นจุดเริ่มต้นของการวิ่งคบเพลิงและจะสิ้นสุดที่ลานพระราชวังดุสิต ซึ่งจะเห็นได้ว่าเราได้รวมพลังแห่งความสามัคคีแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศุ์ทุกพระองค์อย่างแนบแน่นของพี่น้องประชาชนไทย-จีนทุกคน มารวมกันไว้ในเส้นทางการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ในวันนี้ จึงนับเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และขอให้การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิค 2008 ทั้งในประเทศไทยและที่จะดำเนินการต่อไปประสบความสำเร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ของกระบวนการโอลิมปิคทุกประการ
หลังจากนั้นคบเพลิงโอลิมปิคได้ถูกจุดขึ้น โดยนายเจียง เซี่ยว หยี รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิค เป็นผู้จุดคบเพลิง และส่งต่อให้นายจาง จิ่ว หวน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมส่งมอบให้นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นผู้วิ่งคบเพลิงคนแรก โดยการวิ่งคบเพลิงครั้งนี้มีผู้วิ่งทั้งหมด 80 คน ทั้งนี้ เส้นทางการวิ่งเริ่มออกจากซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ไปตามถนนเยาวราช ถนนเจริญกรุง ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ถนนสวรรคโลก ถนนราชวิถี ถนนอู่ทองใน ก่อนจะสิ้นสุดที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต รวมระยะทางทั้งสิ้น 10.5 กิโลเมตร
สำหรับบรรยากาศตลอดเส้นทางการวิ่งคบเพลิง ได้มีประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ประชาชนชาวจีน เข้าร่วมให้กำลังใจแก่ผู้วิ่งคบเพลิงเป็นจำนวนมาก ส่วนการรักษาความปลอดภัยนั้น ทางกรุงเทพมหานครได้ระดมเจ้าหน้าที่เทศกิจร่วมกับตำรวจนครบาลกว่า 3,000 นาย ควบคุมขบวนวิ่งคบเพลิงอย่างหนาแน่น และไม่มีเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ต่อมา ในเวลา 18.05 น. ไฟคบเพลิงโอลิมปิคเดินทางมาถึงลานพระราชวังดุสิต ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมพิธีกว่า 5,000 คน นางสาวปวีณา ทองสุข นักยกน้ำหนักหญิงเหรียญทองโอลิมปิคของประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้วิ่งคนสุดท้าย ได้เดินชูคบเพลิงไปจุดยังกระถางคบเพลิงใหญ่บนเวที จากนั้นพลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขึ้นกล่าว นายณัฐ อินทรปาณ คณะกรรมการโอลิมปิคสากล (OIC) ประจำประเทศไทย ขึ้นอ่านสาส์นจากประธานโอลิมปิค นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขึ้นกล่าว ต่อด้วย นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายเจียง เซี่ยว หยี รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิคเกมส์
จากนั้นผู้แทนของจีนมอบคบเพลิงโอลิมปิคให้พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ผู้แทนของจีนมอบเกียรติบัตรให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสร็จแล้วเป็นการแสดงศิลปวัฒนธรรมจากประเทศไทยและจีน ก่อนที่จะมีการดับไฟที่กระถางคบเพลิง ทั้งนี้ ไฟคบเพลิงโอลิมปิคจะได้เดินทางต่อไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยจะออกเดินทางในเวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--