รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการเรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาได้ทำงานในช่วงปิดเทอมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมค้าปลีก สถานประกอบการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด บริษัท โกเด้นโดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ฯลฯ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาได้ทำงานในช่วงปิดเทอมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยมี หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน นักเรียน นักศึกษา ทั้งในส่วนกรุงเทพมหานครและ ต่างจังหวัด ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน จำนวน 800 คน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อขอบคุณที่ให้การสนับสนุนการจัดโครงการดังกล่าว จากนั้น นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" ว่า สืบเนื่องจาก กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียนตามนโยบายรัฐบาล โดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กยากจน ครอบครัวมีรายได้น้อย หรือได้รับผลกระทบภัยพิบัติต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มเด็กที่ประสงค์จะทำงานเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ทำงานในช่วงปิดภาคเรียน ได้รับความรู้ เพิ่มทักษะประสบการณ์ ให้เกิดรายได้ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว เกิดค่านิยมที่ดีในการทำงานและมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของสังคมโดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดบูธรับสมัครงาน ระหว่างวันที่ 21 - 25 เมษายน 2551 เวลา 09.00-16.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ บริเวณศูนย์อาหารชั้น 2 อาคารรัชมังคลาภิเษก พร้อมจัดกิจกรรมแสดงภาพลักษณ์ในการทำงานของนักเรียน นักศึกษา การแนะแนวอาชีพ การวัดแวว การวัดความสามารถในการทำงาน และเวทีเสวนาความรู้ ด้วย เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการและงบประมาณงบกลางประจำปี พ.ศ.2551 จำนวน 185 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานภาคราชการทั้งในส่วนราชการและสถานศึกษาในเป้าหมาย 74,380 คน ซึ่งงานที่จ้างจะเป็นงานที่ก่อให้เด็กเกิดความรู้ การพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความยั่งยืนในการประกอบอาชีพในอนาคต ก่อให้เกิดค่านิยมในการทำงาน และก่อให้เกิดกระแสสังคมในการสนับสนุนส่งเสริมการทำงานระหว่างเรียนหรือเวลาว่างของนักเรียน นักศึกษา และนอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัท สถานประกอบการในการส่งเสริม สนับสนุนการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาทำงานในเวลาว่างด้วยงบประมาณของตนเองเป็นจำนวนมากด้วย อนึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 - 2550 กระทรวงศึกษาธิการสามารถส่งเสริมสนับสนุนเด็กให้เกิดการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาทำงานภาคราชการ และภาคเอกชน รวม 281,995 คน ซึ่งนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองมีความพึงพอใจการดำเนินโครงการดังกล่าวและขอให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่วนราชการ สถานประกอบการภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพร้อมให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว
โอกาสนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาเปิดโครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็น 1 ในนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะให้มีการเรียนรู้ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ซึ่ง ส่วนมากมักจะมีความเข้าใจไปว่าเป็นการช่วยเหลือเฉพาะเด็กที่พ่อแม่ขาดทุนทรัพย์ และใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียน เพื่อทำงานหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรู้สึก แต่ไม่ใช่นโยบายที่รัฐบาลต้องการดำเนินการเพียงแค่นั้น ทั้งนี้ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดว่าการเรียนต้องมีการปฏิบัติด้วย ซึ่งการเรียนรู้งานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการทำงาน เป็นการสอนให้รู้จักวิธีปฏิบัติ นำเรื่องที่เราเรียนรู้ในห้องเรียนมาปฏิบัติ มาฝึกและอบรม และมาทำงานจริง ๆ เพื่อจะได้รู้ความหมายการเรียนรู้ขั้นสุดท้าย ฉะนั้นจะต้องไม่ลืมว่าวัตถุประสงค์สุดท้ายของการที่เราเข้าสู่สถาบันการศึกษาคืออะไร เพื่อจะได้ไม่หลงประเด็น บางคนเรียนเพื่อให้ได้ความรู้และปริญญาบัตร ซึ่งความคิดตรงนี้ยังไม่ตลอดรอดฝั่ง จึงทำให้การเรียนบางครั้งเด็กเรียนโดยไม่ทราบว่าตัวเองมีความถนัดอะไร และต้องการทำงานแบบไหน ดังนั้นการที่รัฐบาลส่งเสริมให้เด็กมีงานทำระหว่างเรียนจึงมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ประการแรก คือ ช่วยเพิ่มรายได้ของครอบครัว ประการที่สอง คือ ต้องการให้เด็กเห็นและรู้สึกถึงความยากลำบากในการทำงาน โดยต้องรู้จักมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา เคารพในคำสั่งของนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชา รวมทั้งต้องเอาใจลูกค้าและดูแลผู้ที่ร่วมงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้และเรียนรู้ในห้องเรียน และเมื่อนักเรียน นักศึกษา รู้แล้วจะทำให้บุคลากรของเรามีคุณภาพที่ดีเพิ่มขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวฝากนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองทุกคนให้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้ทำกิจกรรมในระหว่างปิดภาคเรียน โดยอาจไม่ต้องทำงานที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยเฉพาะ แต่อาจจะเป็นการทำงานช่วยงานในบริษัทของคุณพ่อ หรือคุณแม่ก็ได้ และขอให้เด็กและเยาวชนอย่าอยู่ว่างเปล่า ถึงแม้จะมีการเที่ยวเล่นไปบ้างตามวัยแต่ก็ขอให้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง ขณะเดียวถ้าเป็นลูกคนที่มีฐานะที่ดีก็ควรจะทำงานถ้ามีโอกาส เพื่อจะได้พึ่งตัวเองได้และสามารถรักษาทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ไว้ได้ เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ด้วย ซึ่งตรงนี้ทำให้เห็นว่าการทำงานเป็นการสอนตัวเอง คือจะทำให้รู้วิธีการทำงาน และรู้วิธีการปกครองคน รวมทั้งรู้วิธีการลงทุนและใช้เงิน เพราะฉะนั้นแม้แต่คนที่จบการศึกษาแล้ว ก่อนจะเริ่มทำงานจริง ๆ ก็ต้องมีการฝึกงาน ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ รัฐบาลเห็นว่ามีความจำเป็นและมีความสำคัญ
ทั้งนี้ โครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" เป็นโครงการที่ดีรัฐบาลจะสนับสนุนส่งเสริมต่อไป ทั้งนี้นอกจากโครงการดังกล่าวแล้วในส่วนโครงการอื่น ๆ หากเป็นสิ่งที่ดีรัฐบาลก็ยินดีจะสนับสนุนต่อไปด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายและแนวทางการดำเนินการในเบื้องต้น แต่สุดท้ายแรงงานจะอยู่ในภาคเอกชน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันทำโครงการอย่างนี้ต่อไป เพื่อช่วยกันสร้างชาติ โดยเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้หาประสบการณ์ ได้เข้าสู่วงจรชีวิตที่ถูกต้องและมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมต่อไป
จากนั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกันสัมผัส I BALL เพื่อทำพิธีเปิดโครงการดังกล่าว และเยี่ยมชมบูธและนิทรรศการ จากสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กระทรวงศึกษาธิการ โทร.02 - 628-6356-60 หรือสายด่วน 1579 หรือเว็บไซต์ www.meo.go.th
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดโครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" จัดโดยกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมค้าปลีก สถานประกอบการทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด บริษัท โกเด้นโดนัท (ประเทศไทย) จำกัด ฯลฯ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาได้ทำงานในช่วงปิดเทอมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยมี หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน นักเรียน นักศึกษา ทั้งในส่วนกรุงเทพมหานครและ ต่างจังหวัด ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน จำนวน 800 คน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณให้กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อขอบคุณที่ให้การสนับสนุนการจัดโครงการดังกล่าว จากนั้น นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" ว่า สืบเนื่องจาก กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการมีงานทำของนักเรียน นักศึกษาให้มีรายได้ระหว่างเรียนตามนโยบายรัฐบาล โดยมี วัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กยากจน ครอบครัวมีรายได้น้อย หรือได้รับผลกระทบภัยพิบัติต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มเด็กที่ประสงค์จะทำงานเพื่อใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ทำงานในช่วงปิดภาคเรียน ได้รับความรู้ เพิ่มทักษะประสบการณ์ ให้เกิดรายได้ ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว เกิดค่านิยมที่ดีในการทำงานและมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของสังคมโดยกระทรวงศึกษาธิการได้จัดบูธรับสมัครงาน ระหว่างวันที่ 21 - 25 เมษายน 2551 เวลา 09.00-16.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ บริเวณศูนย์อาหารชั้น 2 อาคารรัชมังคลาภิเษก พร้อมจัดกิจกรรมแสดงภาพลักษณ์ในการทำงานของนักเรียน นักศึกษา การแนะแนวอาชีพ การวัดแวว การวัดความสามารถในการทำงาน และเวทีเสวนาความรู้ ด้วย เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการและงบประมาณงบกลางประจำปี พ.ศ.2551 จำนวน 185 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจ้างนักเรียน นักศึกษา ทำงานภาคราชการทั้งในส่วนราชการและสถานศึกษาในเป้าหมาย 74,380 คน ซึ่งงานที่จ้างจะเป็นงานที่ก่อให้เด็กเกิดความรู้ การพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความยั่งยืนในการประกอบอาชีพในอนาคต ก่อให้เกิดค่านิยมในการทำงาน และก่อให้เกิดกระแสสังคมในการสนับสนุนส่งเสริมการทำงานระหว่างเรียนหรือเวลาว่างของนักเรียน นักศึกษา และนอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัท สถานประกอบการในการส่งเสริม สนับสนุนการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาทำงานในเวลาว่างด้วยงบประมาณของตนเองเป็นจำนวนมากด้วย อนึ่งจากการดำเนินการที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 - 2550 กระทรวงศึกษาธิการสามารถส่งเสริมสนับสนุนเด็กให้เกิดการจ้างงานนักเรียน นักศึกษาทำงานภาคราชการ และภาคเอกชน รวม 281,995 คน ซึ่งนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองมีความพึงพอใจการดำเนินโครงการดังกล่าวและขอให้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่วนราชการ สถานประกอบการภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพร้อมให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าว
โอกาสนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาเปิดโครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็น 1 ในนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะให้มีการเรียนรู้ ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ซึ่ง ส่วนมากมักจะมีความเข้าใจไปว่าเป็นการช่วยเหลือเฉพาะเด็กที่พ่อแม่ขาดทุนทรัพย์ และใช้เวลาช่วงปิดภาคเรียน เพื่อทำงานหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความรู้สึก แต่ไม่ใช่นโยบายที่รัฐบาลต้องการดำเนินการเพียงแค่นั้น ทั้งนี้ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดว่าการเรียนต้องมีการปฏิบัติด้วย ซึ่งการเรียนรู้งานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการทำงาน เป็นการสอนให้รู้จักวิธีปฏิบัติ นำเรื่องที่เราเรียนรู้ในห้องเรียนมาปฏิบัติ มาฝึกและอบรม และมาทำงานจริง ๆ เพื่อจะได้รู้ความหมายการเรียนรู้ขั้นสุดท้าย ฉะนั้นจะต้องไม่ลืมว่าวัตถุประสงค์สุดท้ายของการที่เราเข้าสู่สถาบันการศึกษาคืออะไร เพื่อจะได้ไม่หลงประเด็น บางคนเรียนเพื่อให้ได้ความรู้และปริญญาบัตร ซึ่งความคิดตรงนี้ยังไม่ตลอดรอดฝั่ง จึงทำให้การเรียนบางครั้งเด็กเรียนโดยไม่ทราบว่าตัวเองมีความถนัดอะไร และต้องการทำงานแบบไหน ดังนั้นการที่รัฐบาลส่งเสริมให้เด็กมีงานทำระหว่างเรียนจึงมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ประการแรก คือ ช่วยเพิ่มรายได้ของครอบครัว ประการที่สอง คือ ต้องการให้เด็กเห็นและรู้สึกถึงความยากลำบากในการทำงาน โดยต้องรู้จักมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา เคารพในคำสั่งของนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชา รวมทั้งต้องเอาใจลูกค้าและดูแลผู้ที่ร่วมงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้และเรียนรู้ในห้องเรียน และเมื่อนักเรียน นักศึกษา รู้แล้วจะทำให้บุคลากรของเรามีคุณภาพที่ดีเพิ่มขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวฝากนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองทุกคนให้ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้ทำกิจกรรมในระหว่างปิดภาคเรียน โดยอาจไม่ต้องทำงานที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยเฉพาะ แต่อาจจะเป็นการทำงานช่วยงานในบริษัทของคุณพ่อ หรือคุณแม่ก็ได้ และขอให้เด็กและเยาวชนอย่าอยู่ว่างเปล่า ถึงแม้จะมีการเที่ยวเล่นไปบ้างตามวัยแต่ก็ขอให้อยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง ขณะเดียวถ้าเป็นลูกคนที่มีฐานะที่ดีก็ควรจะทำงานถ้ามีโอกาส เพื่อจะได้พึ่งตัวเองได้และสามารถรักษาทรัพย์สมบัติของพ่อแม่ไว้ได้ เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่ด้วย ซึ่งตรงนี้ทำให้เห็นว่าการทำงานเป็นการสอนตัวเอง คือจะทำให้รู้วิธีการทำงาน และรู้วิธีการปกครองคน รวมทั้งรู้วิธีการลงทุนและใช้เงิน เพราะฉะนั้นแม้แต่คนที่จบการศึกษาแล้ว ก่อนจะเริ่มทำงานจริง ๆ ก็ต้องมีการฝึกงาน ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ รัฐบาลเห็นว่ามีความจำเป็นและมีความสำคัญ
ทั้งนี้ โครงการ "เรียนรู้งาน สานฝันเด็กไทย LEARN @ WORK...CATCH YOUR DREAMS" เป็นโครงการที่ดีรัฐบาลจะสนับสนุนส่งเสริมต่อไป ทั้งนี้นอกจากโครงการดังกล่าวแล้วในส่วนโครงการอื่น ๆ หากเป็นสิ่งที่ดีรัฐบาลก็ยินดีจะสนับสนุนต่อไปด้วย
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายและแนวทางการดำเนินการในเบื้องต้น แต่สุดท้ายแรงงานจะอยู่ในภาคเอกชน จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันทำโครงการอย่างนี้ต่อไป เพื่อช่วยกันสร้างชาติ โดยเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้หาประสบการณ์ ได้เข้าสู่วงจรชีวิตที่ถูกต้องและมีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมต่อไป
จากนั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ได้ร่วมกันสัมผัส I BALL เพื่อทำพิธีเปิดโครงการดังกล่าว และเยี่ยมชมบูธและนิทรรศการ จากสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กระทรวงศึกษาธิการ โทร.02 - 628-6356-60 หรือสายด่วน 1579 หรือเว็บไซต์ www.meo.go.th
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--