นายกฯ เยี่ยมชมความก้าวหน้าเครื่องไทยโทคาแมค-1 พร้อมเดินเครื่องเพื่อวิจัยพลังงานฟิวชันเครื่องแรกในอาเซียน ก.ค.นี้ ชื่นชมทีมนักวิจัยไทย-กำชับความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เร่งพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (13 มิถุนายน 2566) เวลา 08.45 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยนายธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และคณะผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพบ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อประชาสัมพันธ์และรายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับเครื่องโทคาแมค TT-1 (Thailand Tokamak I : TT-1) เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันเครื่องแรกของไทย โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม
โดย สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) ได้ทำการพัฒนาเครื่องโทคาแมค ชิ้นส่วนของเครื่องโทคาแมค HT-6M ที่ได้รับมอบจากสถาบันพลาสมาฟิสิกส์ ประเทศจีน (Institute of Plasma Physics of Chinese Academy of sciences : ASIPP) ตามข้อตกลงความร่วมมือที่ลงนามเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 โดย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นองค์ประธานการรับมอบชิ้นส่วนดังกล่าวเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 เพื่อใช้ศึกษาวิจัยพลาสมาอุณหภูมิสูงในการเรียนรู้เทคโนโลยีอวกาศและฟิวชันซึ่งเป็นพลังงานสะอาดสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าในอนาคต และนวัตกรรมที่ได้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอุตสาหกรรม การเกษตร และด้านการแพทย์ ซึ่งจากการพัฒนาเครื่องโทคาแมคนี้จะทำให้ประเทศมีองค์ความรู้และสามารถสนับสนุนงานด้านวิศวกรรมระบบรางของไทยในอนาคตได้อีกด้วย
?นายกรัฐมนตรีขอบคุณคณะทำงาน ทีมนักวิจัยพัฒนา และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ทุกฝ่าย ชื่นชมศักยภาพบุคลากรไทย ย้ำให้มีการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ พร้อมต่อยอดงานวิจัยและสร้างนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับคนไทย รวมทั้งการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อร่วมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน และการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติ พร้อมกำชับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันพัฒนาต่อไป เร่งสร้างกำลังคนด้านเทคโนโลยีฟิวชัน พัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม เช่น การพัฒนาหลักสูตร การอบรมด้านเทคโนโลยีพลาสมาและฟิวชัน เป็นต้น เพราะพลังงานฟิวชันนอกจากจะเป็นพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังไม่ก่อให้เกิดฝุ่นควันและมลพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้คน รวมถึงไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน อีกทั้งยังเป็นขุมพลังงานที่ยั่งยืน มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดสารกัมมันตภาพรังสีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศ จึงนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติพลังงานและภาวะโลกร้อนในอนาคต? นายอนุชาฯ กล่าว
สำหรับเครื่องโทคาแมค เป็นเครื่องควบคุมการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยาฟิวชัน เลียนแบบการทำงานของดวงอาทิตย์ เป็นอุปกรณ์กักเก็บพลาสมาพลังงานสูงโดยใช้สนามแม่เหล็กซึ่งปลอดภัยและเป็นมิตรกับโลก โดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ สถาบันวิจัยแสงซินโครตอน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมแก้ปัญหาพลังงานขาดแคลนที่กำลังจะเกิดขึ้นและเพื่ออนาคตของคนไทย
ทั้งนี้ สทน. ได้เริ่มติดตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จตามแผน และได้ทดลองเดินเครื่องไทยโทคาแมค-1 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 จึงนับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ โดยจะมีการเดินเครื่องอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2566 และภายใน 10 ปีจะมีการออกแบบและสร้างเครื่องโทคาแมคเครื่องใหม่ขึ้นมาเอง รวมทั้งการประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ตั้งเป้าหมายขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีฟิวชันและกำลังคนระดับสูงด้านเทคโนโลยีฟิวชันของอาเซียน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ที่มา: http://www.thaigov.go.th