นายกฯ มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี 2565 แก่บุคคล หน่วยงาน และโครงการ ที่ทำประโยชน์-ความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติ

ข่าวทั่วไป Friday July 7, 2023 14:43 —สำนักโฆษก

นายกฯ มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น ?ค่าของแผ่นดิน? ประจำปี 2565 แก่บุคคล หน่วยงาน และโครงการ ที่ทำประโยชน์-ความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติ ขอให้ช่วยกันขยายผลโครงการฯ เพื่อพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (7 ก.ค. 66) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น ?ค่าของแผ่นดิน? ประจำปี 2565 ให้แก่ บุคคล หน่วยงาน และโครงการ ที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ มีคุณค่าแก่การยกย่อง และมีคุณค่าแก่การชื่นชม เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ และเป็นขวัญกำลังใจที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประชาชน สังคม และประเทศชาติ รวมทั้งเป็นต้นแบบแห่งการสร้างสรรค์ความดี อันพึงเป็นคุณลักษณะที่ดีแก่สังคมไทยด้วย โดยมี นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวอรนุช ศรีนนท์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น ?ค่าของแผ่นดิน? ประจำปี 2565 ให้แก่บุคคล หน่วยงาน และโครงการ จำนวน 54 ราย แบ่งเป็นผลงานที่มีความโดดเด่น และมีคุณค่าแก่การยกย่อง ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวน 46 ราย และเป็นผลงานที่มีคุณค่าแก่การชื่นชม ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ จำนวน 8 ราย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น ?ค่าของแผ่นดิน? ประจำปี 2565 อันน่าภาคภูมิใจนี้ โดยย้ำว่าทุกคนที่ได้รับรางวัลล้วนเป็นผู้มีความมุ่งมั่นทำประโยชน์และทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติ ซึ่งการทำประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ เป็นหน้าที่ของทุกคนในฐานะพลเมืองของประเทศ รวมถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ เสียสละและอุทิศใจกาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน สังคม และชาติบ้านเมือง อย่างไรก็ตามการทำประโยชน์ในแต่ละสาขาอาชีพนั้นต้องใช้ระยะเวลาและกระทำอย่างต่อเนื่อง จนเกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เป็นที่ประจักษ์ โดยจะเป็นกำลังใจให้แก่ทุกคนในการทำความดีในโอกาสต่อ ๆ ไป

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ?ค่าของแผ่นดิน? เป็นคำที่มีความหมายและมีความสำคัญอยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน โดยแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นของคนไทยทุกคน ซึ่งเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ต้องตอบแทนคุณของแผ่นดินคือการทำให้ประชาชนในประเทศหรือแผ่นดินนั้นมีความเจริญเติบโต มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงเหมาะสมผ่านโครงการต่าง ๆ ซึ่งโครงการ ?ค่าของแผ่นดิน? ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญ ภายใต้หลักการเผื่อแผ่และแบ่งปัน โดยการทำความดีให้กับคนอื่นและสังคม ประเทศชาติ ซึ่งสุดท้ายแล้วความดีงามที่ทุกคนได้ทำนั้นก็สะท้อนส่งผลดีกลับคืนมาสู่ผู้กระทำความดีให้พบกับความเจริญและมีความสุขเช่นกัน พร้อมกันนี้ ขอให้ทุกคนได้ช่วยกันขยายผลโครงการ ?ค่าของแผ่นดิน? ไปในบุคคล หน่วยงานและพื้นที่ต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อนำพาพัฒนาขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังขอให้ทุกคนยึดมั่นในการทำความดี น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันเป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งเป็นหลักการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและการทำประโยชน์ เพื่อชาติบ้านเมืองของเรา พร้อมขอบคุณผู้ดำเนินโครงการ ผู้จัดงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนที่จัดกิจกรรมนี้ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน

สำหรับการการสรรหาบุคคล หน่วยงาน และโครงการ ?ค่าของแผ่นดิน? ประจำปี 2565 มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อคัดเลือกจำนวน 847 ราย แบ่งเป็นประเภทบุคคล จำนวน 588 ราย ประเภทหน่วยงาน จำนวน 179 และประเภทโครงการ จำนวน 80 ราย โดยคณะอนุกรรมการดำเนินโครงการ ?ค่าของแผ่นดิน? และคณะอนุกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์และกลั่นกรองบุคคล หน่วยงาน โครงการ เพื่อคัดเลือกประกาศเกียรติคุณเป็น ?ค่าของแผ่นดิน? ได้ประชุมร่วมกันและเห็นชอบผลงานที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือกได้รับประกาศเกียรติคุณเป็น ?ค่าของแผ่นดิน? จำนวน 54 ราย แบ่งเป็นผลงานที่มีความโดดเด่น และมีคุณค่าแก่การยกย่องได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ จำนวน 46 ราย และเป็นผลงานที่มีคุณค่าแก่การชื่นชมได้รับใบประกาศเกียรติคุณ จำนวน 8 ราย ประกอบด้วยด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านการพัฒนาสังคมและส่งเสริมคุณภาพชีวิต 2. ด้านการส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. ด้านการส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. ด้านการส่งเสริมและพัฒนาสาธารณสุข 5. ด้านการส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรม 6. ด้านการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร 7. ด้านการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา และ 8. ด้านอื่น ๆ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ