เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ยืนยันเอกอัครราชทูตฯ คนใหม่พร้อมสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือให้แน่นแฟ้นและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
วันนี้ (16 สิงหาคม 2566) เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายบ็อกดัน บาเดีย (H.E. Mr. Bogdan Badea) เอกอัครราชทูตโรมาเนียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ภายหลังเสร็จสิ้น นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับ พร้อมชื่นชมบทบาทในการกระชับความสัมพันธ์ไทย-โรมาเนียตลอดวาระการดำรงตำแหน่งของเอกอัครราชทูตฯ โดยเฉพาะการสนับสนุนกิจกรรมของภาคธุรกิจผ่านหอการค้าไทย-โรมาเนีย และสนับสนุนความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับเอกอัครราชทูตฯ คนใหม่ เพื่อส่งเสริมและสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-โรมาเนียครบรอบ 50 ปี ในปีนี้ หวังว่าความร่วมมือระหว่างกันจะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพ
ด้านเอกอัครราชทูตฯ ยินดีที่ได้มาดำรงตำแหน่งที่ประเทศไทย โดยยินดีที่นายกรัฐมนตรีชื่นชมและรับทราบถึงการทำหน้าที่ตลอด 6 ปีของตน โดยเฉพาะบทบาทในการสนับสนุนกิจกรรมของภาคธุรกิจ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ หวังที่จะวางโครงสร้างเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ของภาคเอกชนไทยและโรมาเนียให้แน่นแฟ้น เพื่อให้เอกอัครราชทูตฯ ท่านใหม่สานต่อความสัมพันธ์ในด้านนี้ให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นต่อไป
ด้านเศรษฐกิจและการค้า นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น รวมทั้งให้มีการจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมหอการค้าไทย-โรมาเนีย ที่ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ พร้อมหวังว่าจะได้เห็นกิจกรรมเหล่านี้อีกในอนาคต เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ด้านเอกอัครราชทูตฯ ย้ำว่า ตนให้ความสำคัญกับความร่วมมือในด้านนี้กับไทยเป็นอย่างมาก โดยจะได้เน้นย้ำกับเอกอัครราชทูตฯ ท่านใหม่ถึงการเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับไทยอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียินดีที่มีนักท่องเที่ยวโรมาเนียมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น พร้อมหวังว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นในอนาคต การท่องเที่ยวถือเป็นส่วนส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ชาวโรมาเนียเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 30,000 คน ขณะที่หลังสถานการณ์โควิด-19 มีประมาณ 14,000 คน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ เห็นว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว แต่คาดว่าใน 2-3 ปีข้างหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวชาวโรมาเนียที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวที่ไทยจะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านวัฒนธรรม ไทยหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมากขึ้น อาทิ การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะเนื่องในโอกาสการครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-โรมาเนีย ด้านเอกอัครราชทูตฯ เห็นว่า ทั้งสองประเทศมีส่วนความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรม แต่ด้วยระยะทางที่ห่างกัน ทำให้มีความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนยังไม่มากนัก จึงหวังที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประชาชนชาวไทยและโรมาเนียมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่มา: http://www.thaigov.go.th