ไทย-ญี่ปุ่น ยืนยันสานต่อความความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด พร้อมกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการลงทุน
วันนี้ (13 กันยายน 2566) เวลา 16.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า นายนาชิดะ คาซูยะ (H.E. Mr. Nashida Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีรู้สึกยินดีที่ได้พบปะกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ ในวันนี้ พร้อมแสดงความขอบคุณไปยังนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่มีสารแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งด้วย หวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะกันระหว่างการประชุม UNGA78 ที่สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทยและญี่ปุ่นที่มีมาอย่างใกล้ชิดมายาวนาน และทั้งสองประเทศต่างมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นในทุกระดับ โดยเฉพาะระดับราชวงศ์ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระเกียรติครบ 6 รอบ 72 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2567
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในทุกมิติอย่างเต็มที่ พร้อมหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือกันระหว่างผู้นำระดับสูงมากขึ้น เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีวางแผนเดินทางเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายสะดวก เพื่อจะได้หารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถึงความร่วมมือในทุกมิติ
เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้เป็นโอกาสอันดีในการหารือถึงแนวทางความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น โดยที่ผ่านมาทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดและร่วมมือในทุกมิติและทุกระดับ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นพร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับญี่ปุ่น (Comprehensive Strategic Partnership: CSP) ที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมประกาศเมื่อปี 2565 ในโอกาสครบรอบ 135 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน และพร้อมสานต่อความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมสีเขียว การเกษตร การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือ สนามบิน รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือเพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงความสำคัญของนักลงทุนญี่ปุ่นที่เป็นนักลงทุนต่างชาติที่สำคัญของไทยมานาน ญี่ปุ่นจึงถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ยินดีส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้เกิดการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น พร้อมเชิญชวนญี่ปุ่นสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ และลงทุนในสาขาที่ญี่ปุ่นเชี่ยวชาญ
ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ กล่าวว่า การลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทยคิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด จึงมุ่งหวังให้มีการกระชับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ผ่านการพบปะหารือหรือสัมมนาระหว่างผู้นำของไทยกับภาคเอกชนญี่ปุ่น นอกจากนี้ ในปี 2566 ยังครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ จึงขอเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุม ASEAN-Japan Commemorative Summit ณ กรุงโตเกียว ในปลายปีนี้ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีพิจารณาเข้าร่วมการประชุมฯ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th