นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ยโสธร ติดตามสถานการณ์น้ำ พบปะให้กำลังใจประชาชน ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาน้ำท่วม
วันนี้ (7 ต.ค. 66) เวลา 10.30 น. ณ บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนาย สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยโสธร ติดตามสถานการณ์อุทกภัย พบปะประชาชนและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยบ้านทรายงาม ซึ่งมีจำนวนครัวเรือน 209 ครัวเรือน ในฤดูฝนจะประสบปัญหาน้ำชีเอ่อล้นเข้าหมู่บ้านเป็นประจำทุกปี ส่วนปีนี้ปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมถนนสูงกว่า 30 เซนติเมตร เป็นช่วง ๆ รวมระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวแรง ขณะนี้มีพื้นที่ผู้ประสบภัยแล้วจำนวน 226 ราย ซึ่งเป็นพื้นที่ทางการเกษตร มีเกษตรกรที่ประสบภัย จำนวน 3,494 ราย มีพื้นที่ทางการเกษตรที่ประสบภัย จำนวน 36,793 ไร และมีพื้นที่ประมงเสียหาย 46.50 ไร่ โดยมีนายสุวัฒน์ เข็มเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ ส่วนราชการทุกภาคส่วน และประชาชนมารอให้การต้อนรับ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงกลุ่มสตรีคำเขื่อนแก้วผูกผ้าขาวม้าต้อนรับ ต่อด้วยนายกรัฐมนตรี เข้ากราบนมัสการพระครูเมธีธรรมบัณฑิต เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว และพระครูโสภิตชาครธรรม เจ้าอาวาสวัดทรายงาม ถวายผ้าไตรและเครื่องไทยธรรม จากนั้น นายกฯ ก้มกราบรับพระพุทธบุษยรัตน์ พระบูชาคู่บ้านคู่เมืองของชาวยโสธร
นายกรัฐมนตรีกล่าวพบปะกับพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า วันนี้มาลงพื้นที่มาดูเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน เรื่องสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรคก็จะดูแลให้ดีขึ้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ใช่ฤดูหาเสียง วันนี้ได้เห็นรอยยิ้มของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ถือเป็นขวัญและกำลังใจให้รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ โดยเมื่อสักครู่ได้นั่งรถเข้ามาได้เห็นน้ำท่วมในหลายพื้นที่ การเดินทางสัญจรมีความยากลำบาก รู้สึกเห็นใจพี่น้องประชาชนในการสัญจรเดินทางไปมา ไปหาหมอก็ลำบาก พืชผลการเกษตรเสียหาย ซึ่งจากการรายงานทราบว่า หมู่บ้านนี้น้ำท่วมทุกปีท่วมทีหนึ่งเป็นเดือน การเดินทางมาในวันนี้ได้นำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มารับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชน
นายกรัฐมนตรีย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันน้ำท่วม ทำได้หลายมิติในระยะยาว เราจะต้องมีการบริหารจัดการน้ำในระยะยาว เช่น การขุดลอกคูคลอง การสร้างเขื่อนเพิ่มขึ้น จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดน้ำท่วมขึ้นอีก หากมีการเกิดน้ำท่วมทุกหน่วยงานต้องมีการบริหารเตรียมความพร้อม ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม มีหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุขเข้ามาช่วยเหลือประชาชน เรื่องการสร้างถนนและสะพาน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมสัญญาว่าจะทำถนนและสร้างสะพานอีก 2 สะพาน ซึ่งน้ำท่วมตรงนี้ต้องจัดการโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เมื่อสักครู่นั่งรถเข้ามาได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐได้แจ้งว่าอำเภอนี้ หมู่บ้านนี้มีความผูกพันกันมาก มีโครงสร้างสถาบันครอบครัวที่แข็งแรง พี่น้องไม่ออกไปทำงานนอกเขต อยากดูแลผู้สูงอายุในบ้าน เรื่องปัญหายาเสพติดไม่มีปัญหา เพราะว่าสถาบันครอบครัวแข็งแรงมีเวลาให้ความอบอุ่นแก่ครอบครัว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสังคมตัวอย่างที่ในหลายอำเภอควรจะนำไปพัฒนาต่อ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนและถุงยังชีพด้านการเกษตร ให้แก่ตัวแทนเกษตรกร เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยโสธรด้วย โดยในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางตรวจเยี่ยมโครงการนาคาพิทักษ์ รักษ์ประชา (โครงการบำบัดผู้ติดยาเสพติด) ณ สถานีตำรวจหัวโทน อำเภอสุวรรณภมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
ที่มา: http://www.thaigov.go.th