นายกรัฐมนตรีห่วงคนไทยในอิสราเอล แจ้งขอกลับไทยแต่ยังติดอยู่ในพื้นที่ ย้ำหน้าที่นายกฯ คือทำให้คนไทยปลอดภัยเยอะที่สุด
วันนี้ (14 ต.ค. 66) เวลา 14.45 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยจากเหตุความรุนแรงในตะวันออกกลางว่า เมื่อสักครู่นี้ได้รับแจ้งจาก เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ว่า มีเครื่องบินอีกลำที่รับคนไทยออกมาจากอิสราเอลแล้ว ถือเป็นเรื่องดี แต่ยังมีเรื่องที่น่ากังวลใจอยู่ คือมีชาวไทยบางคนมีชื่ออยู่ในผู้ที่แสดงเจตจำนงเดินทางกลับแต่ไม่ปรากฏตัว หรือติดต่อไม่ได้ มี 2-3 คนที่แสดงความจำนงเปลี่ยนใจไม่กลับ และที่น่าเป็นห่วงคือ มีบางคนแสดงเจตจำนงว่าจะกลับ แต่แจ้งว่าออกจากพื้นที่ไม่ได้ เนื่องจากยังมีการยิงจรวดอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นส่วนที่เรายังมีความกังวล เพราะแสดงว่าความรุนแรงไม่ได้ลดน้อยลงไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะทำเต็มที่ที่จะจัดเที่ยวบินให้ได้เยอะที่สุด มาไม่ได้ไม่เป็นไร แต่พยายามลำเลียงออกมา ซึ่งทางเอกอัครราชทูตฯ ก็บอกว่าทางทหารอิสราเอลก็ช่วยเต็มที่ที่จะลำเลียงคนออกมาจากจุดสุ่มเสี่ยง โดยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 1-2 ชม.ที่ผ่านมา
สำหรับกรณีเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย เสนอให้รัฐบาลไทยใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล ในการดึงอิสราเอลเข้าสู่วงเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์ เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในบริเวณฉนวนกาซา รวมถึงคนไทยด้วยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เชื่อว่าคงมีการเจรจากันอยู่แล้ว ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์และได้รับความเดือดร้อน
?หน้าที่ของผมในฐานะนายกรัฐมนตรี คือต้องทำให้คนไทยปลอดภัยเยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคนที่ยังตกค้างอยู่ หรือคนที่ได้รับบาดเจ็บ หรือที่น่ากังวลมากกว่านั้นคือบุคคลที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งสำคัญมาก คงใช้ทุกวิถีทาง ทั้งปาเลสไตน์หรือประเทศอื่นที่มีความสัมพันธ์ที่ดี เพราะสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ที่นั่น? นายกรัฐมนตรี กล่าว
ที่มา: http://www.thaigov.go.th