นายกรัฐมนตรียืนยัน รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน จะผลักดันนิคมสร้างตนเอง จ. อุตรดิตถ์ให้เกิดขึ้นจริงภายใน 6 เดือน
วันนี้ (30 พฤศจิกายน 2566) เวลา 16.30 น. ณ หอประชุมอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการสำคัญในพื้นที่อำเภอน้ำปาดประกอบด้วย 1. โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำและโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำ ตำบลท่าแฝก อำเภอน้ำปาด 2. โครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ กับอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน (สะพานปากนาย) และ 3. โครงการพัฒนาจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ อำเภอบ้านโคก ให้เป็นด่านการค้าชายแดนถาวร สังกัดด่านศุลกากรทุ่งช้าง เป็นจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว แห่งที่ 3 ของประเทศไทยที่เชื่อมต่อกับแขวงไชยบุรี สปป.ลาว และ 4. การออกเอกสิทธิ์ของอำเภอท่าปลาจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์
ภายหลังติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนว่า ดีใจที่ได้มาเยี่ยมเยียนประชาชน และได้มาฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานที่เกึ่ยวข้อง ซึ่งได้นำเสนอโครงการที่สำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสะพานเพื่อเชื่อมโยงระบบคมนาคม ถือเป็นโครงการที่สำคัญ เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือไปยังพื้นที่ต่าง ๆ นอกจากเรื่องคมนาคม ยังเป็นจุดที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ต่อไปในอนาคตจะเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์อีกเรื่อง
ในส่วนของการสร้างด่านศุลกากรถาวร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จากที่ตนเองได้เดินทางไปประชุมกับประเทศจีนได้มีการหารือถึงเรื่องการค้าขายในบริเวณชายแดน ซึ่งเราจะต้องมีการจัดการบริหารระบบคมนาคมให้ดีเพื่อประโยชน์ต่อการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะผลไม้ไทยเป็นที่ต้องการของทั่วโลก ต้องมีการบริหารจัดการระบบขนส่งให้รวดเร็ว ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่กำกับดูแลกรมศุลกากร จะไปผลักดันเรื่องการสร้างด่านถาวรให้ประสบผลสำเร็จให้เกิดขึ้นได้จริง
สำหรับเรื่องที่ดินทำกิน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว ที่เป็นปัญหาหมักหมมมาหลายปี บางท่านที่ทำมาหากินได้เสียชีวิตไปแล้ว รัฐบาลนี้จะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ได้ และจะต้องมีคำตอบชัดเจนภายใน 6 เดือน ในการผลักดันนิคมสร้างตนเองให้เกิดขึ้น ให้สามารถทำมาหากินอย่างสมศักดิ์ศรี
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องการผลักดันสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ รวมถึงวัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เป็นจุดศูนย์กลางในการท่องเที่ยว จากการพูดคุยหารือกับผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะมีการจัดตั้งสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการต่อยอดผลักดันการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงจะมีส่วนช่วยส่งเสริมเรื่องการค้าขายให้ดีขึ้น
?ทั้งหมดที่ผมพูดมา จะเป็นจุดเชื่อมโยงตั้งแต่ระบบการคมนาคมด่านศุลกากรถาวร รวมถึงการท่องเที่ยว เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยให้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้ประชาชนมีความสุข? นายกรัฐมนตรีย้ำ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th