?นายกฯ ติดตามการทำเกษตรแปลงใหญ่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญภาคเกษตร มุ่งมั่นผลักดันให้ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตร-เกษตรแปรรูปมูลค่าสูง ด้วยการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะและวัฒนธรรมการเกษตร
วันนี้ (4 ธ.ค. 66) เวลา 14.20 น. ณ วัดสว่างชัยศรี อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ติดตามการทำเกษตรแปลงใหญ่ การแปรรูปสินค้าเกษตร และพบปะประชาชน โดยร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมตรวจติดตามครั้งนี้ด้วย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนมารอให้การต้อนรับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญสรุป ดังนี้
เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมการทำเกษตรผสมผสานแบบพื้นบ้านของนางหนูปาน พรมโคตร แปลง สปก. เลขที่ 1 กลุ่ม 839 เนื้อที่ 10-0-00 ไร่ วันที่ออกหนังสืออนุญาต 2 มิ.ย. 2551 ที่ดินตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 14 ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง โดยเกษตรกรได้นำเสนอแผนการทำการเกษตรต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ส่งนักวิชาการเกษตรลงพื้นที่ให้ความรู้กับเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในพื้นที่เกษตรของตนเอง ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีนั่งรถซาเล้งต่อไปยัง ณ วัดสว่างชัยศรี อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู
จากนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางมาถึงบริเวณงาน นายกรัฐมนตรีรับการผูกผ้าขาวม้าจากกลุ่มสตรีแม่บ้าน อ.ศรีบุญเรือง และได้ร่วมถ่ายภาพกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเองและอบอุ่น พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมกิจกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นและกิจกรรมด้านการเกษตรที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง Soft Power สำคัญของไทยในการช่วยขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ สร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน ดังนี้ 1) เยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน โดยร่วมกิจกรรมตำข้าว โดยใช้ครกมองโบราณ และร่วมฝัดเปลือกข้าว 2) รับฟังแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้สารเคมีในพื้นที่แนวทางการแก้จนภาคการเกษตร การขับเคลื่อนเกษตรแปลงใหญ่ Young Smart Famer 3) รับฟังแนวทางการยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพกลุ่มแปรรูป โดยกรมประมง และประธานกลุ่มแปรรูปปลาบ้านห้วยบง ตรา 1 เดียว 4) ชมการจักสานจากคล้าของผู้สูงอายุ 5) รับฟังแนวทางการยกระดับและผลักดัน ผ้าขิดสลับหมี่ ลายบัวลุ่มภู ผ้าฝ้ายแกมไหมทอมือลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัด เป็น ?Soft power? ตามนโยบายรัฐบาล โดยกรมหม่อนไหม นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานในโอกาสรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบ สปก. 4-01โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (สปก.) และใบรับรองแหล่งผลิตพืช GAP ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับภาคเกษตรและเกษตรกรมาโดยตลอด และจะมุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง ด้วยการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะและวัฒนธรรมการเกษตรเข้ามาสร้างโอกาสเพิ่มผลิตผลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าเกษตรและยกระดับรายได้ของเกษตรกร โดยดำเนินนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ให้ความสำคัญกับการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ของประชาชน พร้อมขยายผลและสนับสนุนสินค้าของชุมชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการยกระดับผ้าไทย พร้อมช่วยส่งเสริมและผลักดันผ้าไทยให้เป็น Soft Power ที่มีคนรู้จักไปทั่วโลก พร้อมสนับสนุนการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์สินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้น ดูแลรักษาง่ายเพื่อเป็นการต่อยอดสินค้าผลิตภัณฑ์สำหรับการเปิดตลาดให้กับคนรุ่นใหม่มากขึ้นและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันผ้าไหมไทยในเวทีโลก นอกจากนั้น การส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ รัฐบาลจะส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยผลิตสินค้าทางการเกษตรร่วมกันบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องการลดต้นทุนทางด้านการผลิต การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันในการตลาดและมีอำนาจต่อรองในการหาปัจจัยการผลิตและจำหน่ายผลผลิตได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม อีกทั้งรัฐบาลจะส่งเสริม Young Smart Farmer โดยใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีนวัตกรรม และนำมาใช้ในกระบวนการผลิต การตลาด เพื่อให้มีผลผลิตต่อหน่วยต่อไร่เพิ่มขึ้น ผลผลิตมีคุณภาพ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสและขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับมาตรฐานของสินค้าเกษตร
ที่มา: http://www.thaigov.go.th